ใครที่เพิ่งเริ่มออกวิ่ง หรือแม้แต่วิ่งไปได้สักพักแล้วอยากจะหาอุปกรณ์ที่จับระยะทางการวิ่งพร้อมปรับสภาพการวิ่งให้ดีขึ้น และมีราคาค่าตัวที่ไม่แพงมากนัก ฟีเจอร์ครบ Garmin Forerunner 35 ตอบโจทย์ได้หมด เป็นรุ่นเล็กสุดประหยัด ฟีเจอร์ครบ ที่น่าใช้งาน และมีน้ำหนักเบาอีกด้วย วันนี้ผมพามาชมรีวิว Garmin Forerunner สำหรับนักวิ่ง และนักปั่น ที่ไม่ต้องการลงทุนมากนัก แต่ได้ประสิทธิภาพและฟีเจอร์จัดเต็ม
สำหรับนักวิ่งและปั่นในเบื้องต้น หากวิ่งหรือปั่นมาสักพักเราเริ่มจะมองหาอุปกรณ์ที่ช่วยบอกรายละเอียดระหว่างการออกกำลังที่เป็นมากกว่า Smartphone ไม่ต้องมานั่งดูหน้าจอ เครื่องใหญ่ พกพาลำบาก และ Smartwatch อีกชนิดนึงหรืออาจจะเรียกเป็น GPS Sport Watch ก็ไม่ผิดนัก ที่จะมาตอบโจทย์คนที่เริ่มออกกำลังกาย โดยเฉพาะการวิ่ง และการปั่น ซึ่ง Garmin Forerunner 35 รองรับการออกกำลังายที่เรานิยมกัน ตอบโจทย์ทั้งคนวิ่งหรือปั่น มาดูฟีเจอร์กันสักหน่อย ว่าเจ้า Garmin Forerunner 35 ทำอะไรได้บ้าง
- ตรวจวัดอัตราการเต้นหัวใจที่ข้อมือ ด้วยการใช้เทคโนโลยีการวัดอัตราการเต้นหัวใจที่ข้อมือ Garmin Elevate™
- GPS ภายในติดตามว่าคุณวิ่งไปไกลแค่ไหน วัดความเร็วแบบ Real-Time
- การแจ้งเตือน Smart Notifications ภาษาไทย ควบคุมเพลง Live Tracking
- การติดตามกิจกรรมตลอดวัน นับจำนวนก้าว, แคลอรี่และนาทีความเข้มข้นและเตือนคุณเมื่อถึงเวลาต้องเคลื่อนไหว
- อัพโหลดข้อมูลของคุณโดยอัตโนมัติไปยังแอพ Garmin Connect แสดงข้อมูลเชิงลึก
- กันน้ำ 5 ATM / 50 เมตร
- อายุแบตเตอรี่ 9 วันในโหมดนาฬิกา / 13 ชั่วโมงในโหมดการฝึกซ้อม
ไม่น่าจะพอใช่ไหมครับ ดูสเปคละเอียดๆ กันเลยดีกว่า
ตัว Garmin Forerunner 35 มีราคาค่าตัวอยู่ที่ 8,290 บาทซึ่งหากมองเดี่ยวๆ อาจจะดูว่าแพง แต่ถ้าเทียบกับบรรดา Garmin รุ่นต่างๆ แล้ว ก็ถือว่าอยู่ในระดรับราคากลางๆ ไปจนถึงเริ่มต้นเสียด้วยซ้ำ
เบื้องต้นกล่องและอุปกรณ์ มีแค่สายชาร์จและตัว Garmin Forerunner 35 พร้อมคู่มือ ง่าย แค่นี้ล่ะ แพ็กเกจง่ายๆ ตามสตไล์ Garmin
ปุ่มกดด้านข้าง มีทั้งปุ่มควบคุมการเล่นเพลงผ่าน Smartphone Garmin Connect และปุ่มสำหรับเริ่มกิจกรรม วิ่ง หรือปั่น
อีกฝั่งนึงคือปุ่ม ปิด เปิด พร้อมปุ่ม Menu/back อยู่ในปุ่มเดียวกัน
ตัวสายมีความยืดหยุ่น ใส่สบาย สายมีลายคาดแบบแนวทะแยง ซึ่งอาจจะต้องหมั่นทำความสะอาดกันหน่อย
หน้าสัมผัสด้านล่าง สำหรับชาร์จ และ Garmin Forerunner 35 สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ โดยใช้เซ็นเซอร์ 3 ดวง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกับที่อยู่บนหลายรุ่นใหญ่ของ Forerunner
หน้าจอขนาดเล็กแต่แสดงผลได้เต็มนะ พร้อมรองรับภาษาไทยด้วย
สายรัดข้อมือ คือไม่ว่าข้อมือจะเล็กหรือใหญ่ Garmin Forerunner 35 เอาอยู่
ลองเทียบกับ Forerunner 235 ดูหน่อย คือ Fourerunner 35 ขนาดกระทัดรัดกว่าเยอะเลย
เมื่อเริ่มต้นการใช้งานก็มีภาษาไทยให้เลือกเลย ดังนั้นฟีเจอร์อย่าง smart notification ก็จะแจ้งเตือนเป็นภาษาไทยได้เลย สะดวก
แต่ถ้าสาย Wearable ก็ต้องมาเทียบกับเจ้านี่ล่ะ ขนาดความสูงไม่ต่างเท่าไหร่นะ ผมว่าโดยรวมๆ แล้วดีไซน์ก็ดูเล็ก กระทัดรัด เบา สะดวกกับการวิ่ง หรือออกกำลังกายนะครับ
มาดูเรื่องการเริ่มต้นใช้งานสักหน่อย
เมื่อเริ่มต้นใช้งาน ให้กดตั้งค่าที่ Garmin Forerunner 35 ไปที่โหมด bluetooth และกดจับคู่ ส่วนบน Smartphone ก็เช่นกัน โดยผ่าน Garmin Connect อย่าลืมโหลดมาใช้งานด้วยล่ะ
ซึ่งจะมีตัวเลขสำหรับจับคู่อุปกรณ์ให้ใส่ตัวเลขที่เราเห็นบน Garmin Forerunner 35
รอสักครู่จนการตั้งค่าเสร็จ ก็ใช้งานได้เลย เวลาซิงค์ข้อมูลหากเปิด bluetooth ไว้ ก็จะซิงค์ข้อมูลของเราเข้าที่ Smartphone ได้เลย
จากนั้นก็เข้าสู่โหมดการใช้งานต่างๆ ล่ะครับ
การแสดงผลเป็นลักษณะสีขาวดำ โดยมีหน้าจอแสดงผลอยุ่ที่ 128×128 พิกเซล ตัวอักษรใหญ่ ชัดเจนอย่างแน่นอน และนอกจากนั้นเอง ยังสามารถแทรคการนอน การเดิน การก้าวของเราในแต่ละวันได้ด้วย เรียกว่าทุกแอคทิวิตี้ในชีวิตประจำวัน Garmin Forerunner 35 เก็บให้หมด และจุดดีจุดนึงของ Garmin Forerunner 35 เลยก็คือเรื่องแบตเตอรี่ที่อยู่นานเป็นสัปดาห์ สบายๆ ดังนั้นไม่ต้องกลัวว่าใส่ไปวันนึงแล้วต้องชาร์จนะครับ ใส่ไปเลยยาวๆ อย่างน้อยก้ 5 วัน จริงๆ สเปคบอกว่า 9 วัน แต่ก็ขึ้นอยู่กับการเปิด notification และจำนวนครั้งที่ออกกำลังกายด้วย
หน้าปัทม์สามารถเปลี่ยนได้ 2 แบบคือเป็นนาฬิกาแบบดิจิตอลหรืออะนาล็อก ซึ่งต่างจาก Garmin Forerunner 235 ที่สามารถดาวโหลด watch face มาเปลี่ยนได้
และไม่แค่นั้น ยังเก็บเรื่องของ อัตราการเต้นของหัวใจทั้งวันอีกด้วย ไม่เว้นแม้กระทั่งตอนนอน ดังนั้นหากต้องการเรื่องของสุขภาพ Garmin Forerunner 35 ก็ตอบโจทย์
รองรับเรื่องรายเรียกเข้า และ notification ต่างๆ จาก Smartphone ด้วยนะ รวมถึงยังคอนโทรลเพลงได้อีกด้วย
เรื่อง Smart Notification ทำได้เหมือนกับ Smartwatch ทั่วๆ ไป ยังไม่แค่นั้นครับยังมีฟีเจอร์อย่าง find my phone ที่สามารถค้นหาโทรศัพท์ที่่อยู่ในระยะการเชื่อมต่อได้อีกด้วย เผื่อลืมโทรศัพท์ไว้ตรงไหนก็หาผ่าน Garmin Forerunner 35 สามารถเพิ่ม sensor หรือปุกรณ์อื่นๆ เช่นรองรับการปั่นได้โดยผ่าน ANT+
เมื่อเรากดเลื่อนลงมาเรื่อยๆ จะเห็นรายละเอียดที๋โชว์ไม่ว่าจะเป็นแคลลอรี่ระหว่างวัน เวลาที่ใช้และประวัติการออกกำลังกาย ซึ่งตรงนี้ฟิกซ์ปรับแต่งไม่ได้นะครับ
คราวนี้มาดูเรื่องของการออกกำลังกายกันบ้าง
การออกกำลังกายของ Garmin Forerunner 35 สามารถใช้งานได้ เพียบ ทั้งวิ่งในร่ม, วิ่งกลางแจ้ง, ปั่นกลางแจ้ง (ปั่นในร่มต้องเลือกในการตั้งค่าเพิ่มเติม), คาร์ดิโอ, เดิน ซึ่งเป็นกีฬาที่น่าจะครอบคลุมแล้วในเบื้องต้น ชื่อ Forerunner ก็จริง แต่ก็ปั่นได้ด้วยนะ
ระหว่างเริ่มออกกำลังกาย หากเรามีการตั้งค่า Zone ต่างๆ เจ้า Garmin Forerunner 35 ก็จะเตือนด้วย รวมถึงมีแจ้งด้วยว่าอัตราการเต้นหัวใจต่ำเกินไป หรือสูงเกินไป ซึ่งหลักๆ แล้วจะมีทั้งการเตือนแบบเสียงและสั่น
ระหว่างการออกกำลังกาย หน้าจอที่แสดงผลจะแสดงเป็น 3 แถว เลือกได้เลยว่าเป็นยังไง ซึ่งปกติแล้วจะแสดง เวลา ระยะทาง ความเร็ว อีกหน้านึงจะแสดงเรื่องของ โซน อัตราการเต้นของหัวใจ และแคลลอรี่ ข้อดีก็คือสามารถใช้โหมดในร่มได้นะ
เมื่อออกกำลังกายเสร็จ สิ่งนึงที่เรามักจะสนใจ หรือดูแล้วมันทำให้เรามั่นใจมากขึ้นก็คือเรื่องของสถิติ ว่าเราทำดีขึ้นแค่ไหน เพราะอะไรคงไม่สู้ชนะตัวเองได้ ดังนั้นนักออกกำลังกายมักจะพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ถ้าทำลายสถิติตัวเองได้ก็ดีใจนั่นล่ะครับ จริงๆ อันนี้ของผมคือเพิ่งใช้เจ้า Garmin Forerunner 35 ครั้งแรกนั่นล่ะ เลยมีสถิติใหม่เยอะหน่อย
สามารถดูรายละเอียด การออกกำลังกายได้ตอนสรุป หรือมาดูย้อนหลังก็ได้เช่นกัน อย่างที่บอกล่ะครับ วิ่งเสร็จก็อย่าลืมซิงค์ข้อมูล สามารถเก็บไว้ดูภายหลังได้ ผ่าน Garmin Connect
มีรายละเอียดบอกครบถ้วน คือต้องบอกว่าคุ้มสุดๆ จริงๆ เจ้า Garmin Forerunner 35 เนี่ย
สิ่งที่ชอบบน Garmin ก็มีรายละเอียดความเร็ว การก้าวขา อัตราการเต้นของหัวใจ เอามาเก็บเป็นแต่ละช่วงให้เราดู แต่อย่างนึงที่ไม่มีบน Garmin Forerunner 35 ก็คือ เวลาที่อยู่ใน Zone ซึ่งขณะออกกำลังกายมีเตือนนะ แต่แค่ไม่มีเก็บไว้ในรายงานแค่นั้นเอง
อันนี้เรื่องการปั่น ก็เก็บรายละเอียดได้ครบเช่นกัน
ซึ่งการเก็บรายงานของการปั่น ผมว่าในเบื้องต้นก็ถือว่าโอเคนะ สำหรับผม เนื่องจากเป็นมือใหม่ ก็ไม่ได้มีอุปกรณ์เสริมใดๆ ในการปั่นด้วยนะครับ แต่ถ้าปั่นแบบอาชีพล่ะก็ต้องไป Garmin Edge ซีรีส์โน่นล่ะครับ
สรุปส่งท้าย Garmin Forerunner 35
ผมว่าด้วยในราคาค่าตัวที่ 8,290 บาท ก็ถือว่าคุ้ม สำหรับการออกกำลังกายค่อนข้างครบ ในเบื้องต้น เน้นๆ ก็คือวิ่ง และปั่นเบื้องต้น ผมว่าเอาอยู่ อาจจะมีบางอย่างที่ไม่เหมาะกับนักวิ่งอาชีพ หรือวิ่งในแบบเชิงลึก อันนี้ก็ต้องขยับรุ่นไป แต่สำหรับเริ่มต้นนั้น ผมว่าแค่ Garmin Forerunner 35 ก็เพียงพอแล้ว ไม่เพียงแค่การออกกำลังาย การตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันก็ครบ ไม่ว่าจะเป็นการแทรคการก้าวเดินผ่าน Move IQ การวัดอัตราการเต้นของหัวใจระหว่างวัน และขณะที่นอน วัดแอคทิวิตี้ต่างๆ ได้ครบ รวมถึง มี notification ต่างๆ ที่ทำให้รู้ว่ามีอะไรเตือนบน Smartphone ของเราบ้าง และรองรับภาษาไทยด้วย ที่สำคัญที่ขาดไม่ได้บน Smartwatch เลยก็คือเรื่องพลังงาน หรือแบตเตอรี่ สาย Garmin ก็รู้กันอยู่ว่าแบตอึดมากครับ ใช้เป็นอาทิตย์ก็สบายๆ ปกติผมวิ่งอาทิตย์ละครั้งสองครั้ง เปิด notiตลอด รวมถึงปั่นไปทำงานวันละ 5 กิโล ก็สบายๆ นะ สรุปว่าแนะนำสำหรับคนเริ่มต้น และต้องการนาฬิกา GPS Sport Watch ที่ราคาไม่แรงมาก สบายกระเป๋า สุขภาพดีอีกต่างหาก
ขอบคุณ Garmint Thailand ที่ให้ยืมอุปกรณ์ทดสอบ
You must be logged in to post a comment.