รีวิว Lava A3 By AIS กล้องแจ่ม สแกนลายนิ้วไว มี VoLTE มาให้คุยสายคมชัดระดับ HD !!!

Lava A3

 รับชมแกะกล่องฉบับวีดีโอกันไปแล้ว https://goo.gl/vHpvpe วันนี้มารับชมกันต่อกับ Full Review ของ Lava A3 ครับ รุ่นนี้บอกเลยว่าถึงจะมาเงียบ ๆ แต่ก็มีดีหลายอย่างอยู่ในตัว และยุคนี้อยากบอกว่าอย่าได้มองแค่ราคาถูกสเปคแรงเพียงอย่างเดียวนะ เพราะเรื่องราคาต่อสเปคมันไม่ยั่งยืน องค์ประกอบในภาพรวมต่างหากที่เป็นสิ่งสำคัญ มาดูกันว่าเจ้า Lava A3 จะเตะตาโดนใจของเพื่อน ๆ กันได้บ้างหรือไม่ ขอเชิญติดตามรับชมกันได้เลยครับผม 

 

 

ขอขอบคุณ AIS ที่ให้ยืมเครื่องมาทดสอบและรีวิว

 

Lava A3 Specifications

● ระบบปฏิบัติการ: Android OS, v6.0.1 (Marshmallow) ครอบทับด้วย Star OS 3.3
● จอแสดงผล: ชนิด IPS ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด HD 1280 x 720 pixels กระจกโค้ง 2.5D Gorilla glass 3
● หน่วยประมวลผล: Mediatek MT6750 Octa-core 64bit
● หน่วยประมวลผลกราฟฟิค: Mali-T860
● หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง: 32GB และรองรับหน่วยความจำภายนอก MicroSD card ได้สูงสุด 64GB
● แรม: 3GB
● การเชื่อมต่อ: 2G: 850/900/1800/1900 MHz
●3G: 900/2100MHz
●4G LTE:  Band 1,3,7,8 (2100/1800/2600/900 MHz)
● รองรับการใช้งานในระบบ 2 ซิมการ์ด แบบ Hybrid SIM Slot, 1 Micro SIM + 1 Nano SIM or 1 microSD Card
● การเชื่อมต่อ: Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth V. 4.0, FM radio,
● กล้องหลักด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล Sony Sensor, ค่ารูรับแสง f/2.0  แฟลช LED 1 ดวง
● กล้องด้านหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชกล้องหน้า
● ขนาดตัวเครื่อง: 151.5×76.4×8.5 มิลลิเมตร
● น้ำหนัก: 164 กรัม
● แบตเตอรี่: Lithium-polymer 3020 mAh
● สีที่มีวางจำหน่าย: Grey

ราคาวางจำหน่าย 6,990 บาท
ราคาพิเศษสำหรับลูกค้าเอไอเอส 3,490 บาท จ่ายค่าบริการล่วงหน้า 1,000 บาท และใช้แพ็กเกจ 399 บาทขึ้นไป

 

 

Packaging & Accessories

Lava A3

Lava A3_2

กล่องแพ็กเกจด้านหน้ามีรูปตัวเครื่องพร้อมชื่อรุ่น-แบรนด์ พร้อมจุดขายในการรองรับ WiFi 5G 

ส่วนด้านหลังจะมีการพิมม์พิมพ์บอกสเปคมาให้ดูกันพอสังเขป

 

สำหรับอุปกรณ์ภายในกล่องของ Lava A3 จะประกอบไปด้วย

Lava A3_3

Lava A3_4

1. คู่มือการใช้งานฉบับย่อ + เข็มจิ้มเปิดถาดซิม

 

Lava A3_5

2. อแดปเตอร์ชาร์จขาแบนให้ Output 1.5A + สาย Micro USB

 

Lava A3_6

3. หูฟังสมอลทอร์คแบบอินเอียร์ (ไม่มีจุกยางสำรอง)

 

Lava A3_7

Lava A3_8

4. ฟิลม์กัยนรอย + เคสซิลิโคน

ตัวเคสจะเป็นแบบทูโทนโดยขอบด้านข้างจะเป็นแบบใส ส่วนตัวด้านหลังจะเป็นแบบขุ่น

 

 

 

Design & Hardware

Lava A3_9

Lava A3_10

Lava A3 มาพร้อมดีไซน์แบบ Full Metal Body ตัววัสดุหลักจะเป็นโลหะผสานด้วยกระจกโค้ง 2.5D ตามสมัยนิยม และงานออกแบบของ Lava A3 จะเน้น curve จากขอบไปยังมุมของตัวเครื่อง และตัดขอบข้างแบบไดม่อนคัท ซึ่งดีไซน์ในภาพรวม ๆ เราจะเห็นว่ามีความคลึงกับสมาร์ทโฟนหลากหลายรุ่น หากจะบอกว่าการออกแบบในลักษณะนี้เป็นอีกหนึ่งพิมพ์นิยมก็ได้เช่นกันครับ

ในส่วนของ Build Quality เท่าที่ได้สัมผัสและสำรวจอย่างละเอียด ทั้งบีบ ๆ จับ ๆ กด ๆ ยังไม่พบเจอความผิดปรกติแต่อย่างใด ในภาพรวมงานประกอบของ Lava A3 เรียบร้อยแข็งแรงสมราคาค่าตัว
ปิดท้ายกันไปด้วย Handle การจับถือและพกพา สำหรับจอแสดงผลขนาด 5.5 ในยุคนี้ไม่ถือว่าใหญ่แต่อย่างใด และด้วยดีไซน์ที่เน้นความโค้งมนไม่มีเหลี่ยมสัน ทำให้การจับถือนั้นกระชับรับกับสรีระของฝ่ามือได้เป็นอย่างดี แต่สิ่งที่ต้องระวังก็คือด้วยตัววัสดุเองนั้นอาจจะลื่นหลุดมือได้ง่าย ควรใส่เคสป้องกันไว้ครับ

 

Lava A3_11

Lava A3 เลือกใช้จอแสดงผลชนิด IPS ขนาด 5.5 นิ้ว และยังมาพร้อมกระจกกันรอยโค้ง 2.5D Gorilla glass 3 สำหรับสีสันและความสว่างของจออยู่ในเกณฑ์ที่ดี เมื่อทดลองใช้งานกลางแจ้งก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ส่วน respond หรือการตอบสนองของจอก็ค่อนข้างดีครับ แม้ Multitouch จะรองรับแค่ 5 จุดก็ตาม

 

 

Lava A3_12

Lava A3_13

การจัดวางเลย์เอาท์ของส่วนหน้าด้านบนจะประกอบไปด้วย ชุดเซ็นเซอร์ Accelerometer และ Proximity Sensor , กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, ลำโพงสนทนา, แฟลชกล้องหน้า และไฟแจ้งเตือน LED Notification

สำหรับ 3 ปุ่มนำทางของตัวระบบแอนดรอยด์จะเป็นแบบ On Screen Button ที่รวมอยู่ในจอแสดงผล

 

Lava A3_14

Lava A3_16

ด้านหลังมีการตัดเส้นสัญญาญเสาอากาศที่ขอบบนและล่าง ซึ่งดูสวยงามลงตัวดีครับ

 

Lava A3_15

กล้องหลังเลือกใช้เซ็นเซอร์จากค่ายโซนี่ โดยมาพร้อมความละเอียด 13 ล้านพิกเซล มีค่ารูรับแสงอยู่ที่ f/2.0 +ไฟแฟลช ตัวกระจกเลนส์จะยื่นนูนออกมาจากตัวเครื่องเล็กน้อย

สำหรับเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือจะอยู่ถัดลงมาจากไฟแฟลช และไฮไลท์ที่เป็นจุดเด่นของ Lava A3 ก็คือความไวและความแม่นยำในการสแกนลาวนิ้วมือครับ จากที่ได้ลองใช้งานจริง ขอบอกว่ามันไวและตอบสนองได้ดีมาก ๆ แตะปุ๊บปลดล็อคปั๊บไม่มีอาการหน่วงให้เห็นเลยครับ

 

Lava A3_17

Lava A3_18

ด้านบนของตัวเครื่องจะมีเพียงช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. เท่านั้น ส่วนด้านล่างของตัวเครื่อง การออกแบบในลักษณะนี้จะดูเหมือนว่าเป็นลำโพงคู่สเตอริโอ แต่จริง ๆ แล้ว Lava A 3 นั้นมีลำโพงแบบโมโน หรือลำโพงเพียงข้างเดียวครับ โดยทางฝั่งซ้ายมือจะเป็นช่องลำโพงมีเดียหรือลำโพงหลักของตัวเครื่อง ส่วนฝั่งขวาจะเป็นไมค์สนทนา และตรงกลางจะเป็นที่อยู่พอร์ต Micro USB

 

Lava A3_19

ปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียงจะอยู่ทางฝั่งซ้ายมือของตัวเครื่อง

 

Lava A3_20

ด้านขวามือของตัวเครื่อง ประกอบไปด้วยปุ่ม Power และ ช่องถาดซิมการ์ด + Miocro SD Card

 

Lava A3_21

Lava A3_22

ถาดซิมเป็นแบบ เป็นแบบ Hybrid slot ที่ต้องเลือกระหว่างการใช้งานพร้อมกัน 2 ซิมการ์ด หรือใช้ 1 ซิมร่วมกับ Micro SD Card นั่นเอง

สำหรับซิม 1 จะเป็น Micro SIM ส่วนซิม 2 จะใช้เป็น Nano SIM ครับ

 

 

Software & Feature

Lava A3_Software 1

Lava A3 เปิดตัวมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android OS, v6.0.1 (Marshmallow) และครอบทับด้วย User Interface “Star OS 3.3” ที่พัฒนาโดยค่าย Lava ซึ่งมีสไตล์ในลักษณะ iOS  คือไม่มีหน้า AppDrawer เหมือน launcher ทั่ว ๆ ไปนั่นเอง  ในภาพรวม ๆ มีการใช้งานที่เรียบง่าย ไม่หวือหวาเท่าแบรนด์จีน แต่พวกฟีเจอร์ที่ให้มาก็ถือว่าสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ในระดับหนึ่ง

 

Lava A3_Software 2

ตัว Launcher มีธีมให้เลือกใช้งาน 3 สไตล์ แต่น่าเสียดายไม่สามารถดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้เหมือนแบรนด์จีนบางแบรนด์นะครับ ในส่วนของพื้นที่หน่วยความจำภายในที่ให้มา 32GB จะเหลือให้ใช้งานจริงราว ๆ 23GB สำหรับหน้าเมนูการตั้งค่าแบ่งออกเป็น 3 แท็บ คือทั่วไป, เสียง , การแสดงผล ตรงนี้ทำให้ใช้งานหรือการเข้าถึงนั้นทำได้ง่ายและสะดวกรวดเร็วดีมากครับ

 

Lava A3_Software 4

ผมขอสรุปคีย์ไฮไลท์ที่น่าสนใจของ Lava A3 ในแบบคร่าว ๆ นะครับ

จุดเด่นแรกก็คือรองรับ VoLTE ที่ช่วยให้การสนทนามีความคมชัดในระดับ HD แถมยังรอบรับ Netcom 3.0 อีกด้วย มี sound effect ที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพเสียงทั้งผ่านทางหูฟังและลำโพง , โหมดประหยัดพลังขั้นสูงสุดที่ช่วยยืดอายุแบตให้สามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้น, แอพศูนย์บริการที่อำนวยความสะดวกในการตรวจสอบรายชื่อศูนย์บริการและศูนย์ซ่อมของ Lava ในประเทศไทย

 

Lava A3_Software 3

ฟีเจอร์อื่นที่น่าสนใจก็คือพวก Gesture ซึ่งเราพบเห็นได้บ่อย ๆ ในสมาร์ทโฟนจากแบรนด์จีน เช่นการวาดตัวอักษรบนหน้าจอเพื่อเรียกใช้งานแอพพลิเคชั่น ร่วมไปถึงฟีเจอร์ที่ใช้งานร่วมกับตัวเซ็นเซอร์ เป็นต้น สรุปคือไม่แตกต่างไปจากฟีเจอร์ทั่วไปในท้องตลาด แต่ก็มีข้อดีตรงที่รองรับการปรับตั้งค่าได้ค่อนข้างยืดหยุ่นครับ

 

Lava A3_Software 5

สำหรับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ สามารถรองรับได้สูงสุดที่ 5 ลายนิ้วมือ นอกจากการปลดล็อคหน้อจอซึ่งเป็นฟีเจอร์พื้นฐาน ยังสามารถใช้เป็นปุ่มชัตเตอร์และใช้ล็อคแอพพลิเคชั่นได้อีกด้วย

 

 

 

Multimedia

Lava A3_multimedia 2

Music Player อินเตอร์เฟซเรียบง่ายสะอาดตา ความสามารถในการเล่นเพลงแบบเบสิคมีมาให้อย่างครบถ้วน เพียงแต่ไม่มี EQ มาให้ใช้งานครับ

 

Lava A3_multimedia 3

VDO Player เรียกใช้งานจากแอพแกลลอรี่ และ Google photo จึงไม่ได้มีฟีเจอร์อะไรเป็นพิเศษ สรุปเป็นแค่เบสิค VDO Player เท่านั้น

 

Lava A3_multimedia 4

FM Radio แบบทศนิยม 1 จุด ภาครับสัญญาณอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลยครับ เพียงแต่ความสามารถน้อยไปนิด แต่ก็สามารถบันทึกไว้ฟังในแบบออฟไลน์ได้

 

Lava A3 Game 2

Lava A3 Game

ด้วยสเปคที่ให้มาของ Lava A3 จึงรองรับการเล่นเกม 3D ที่มีกราฟฟิคหนัก ๆ ได้สบาย ๆ โดยสามารถเกมได้ค่อนข้างสมูทลื่นไหลเลยทีเดียวครับ

 

 

 

Benchmarks & Performance

Lava A3_Benchmarks 1

Lava A3_Benchmarks 2

Lava A3_Benchmarks 3

Lava A3_Benchmarks 4

ด้านผลคะแนนเมื่อเทียบกับรุ่นที่ใช้ชิบเซ็ตรุ่นเดียวกันอย่าง Vivo V5 Lite https://goo.gl/fwMwuj  ก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก โดย Lava A3 ได้คะแนนที่สูงกว่าเล็กน้อยในบางผลทดสอบ แต่สิ่งที่น่าเสียดายก็คือ เซ็นเซอร์นั้นให้มาน้อยไปนิด ส่วนอื่น ๆ ตัว Lava A3 ทำได้ค่อนข้างดีมาก ทั้งความลื่นไหลรวมไปถึงด้านการจัดสรรพลังงาน

 

 

Camera & Sample

Lava A3_Camera 2 2

Lava A3 Camera 1.1

กล้องหลักด้านหลังมาพร้อมกับความละเอียด 13 ล้านพิกเซล + LED Flash เมนูอินเตอร์เฟซกล้องของ Lava A3 ดูสะอาดตาและเรียบง่าย

 

Lava A3_Camera 2 3

มีโหมดการถ่ายมาให้ใช้งานอย่างจุใจ ที่เด่น ๆ และกำลังเป็นเทรนด์ในปัจจุบันก็คือโหมดโบเก้ละลายหลังนั่นเอง แม้ Lava A3 จะไม่ได้มีกล้องคู่ แต่ Softwara ก็ปรับแต่งมาได้ดีมากครับ ถ้าได้ลองใช้แล้วจะติดใจ ส่วนโหมดอื่น ๆ ให้คิดว่าเป็น Gimmick ซึ่งในชีวิตประจำวันเราอาจจะไม่ได้ใช้งานบ่อยเท่ากับโหมดอัตโนมัตินั่นเอง

 

Lava A3_Camera 2 1

ไม่มีโหมดโปร แต่สามารถเข้าไปปรับตั้งค่าได้ค่อนข้างละเอียดพอสมควรเลยครับ

 

Lava A3_multimedia 1

Lava A3_Camera 2 4

สำหรับกล้องหน้ามาพร้อมความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มีไฟแฟลชและมีโหมดบิ้วตี้มาให้ใช้งาน 2 โหมด คือ Beauty-Fi ที่เป็นแบบอัตโนมัติ ปรับความบิวตี้ได้ 4 ระดับ กับโหมด Extreme Beauty ที่ปรับแต่งได้ละเอียดขึ้น เช่นปรับให้ตาโตแอ๊บแบ๋ว, หน้าเรียว, เพิ่มความขาวใสกระจ่างเป็นต้น

 

จากนี้มาดูรูปถ่ายจาก Lava A3 กันได้เลยครับ

 

คลิ๊กที่รูปเพื่อดูภาพขนาดใหญ่ได้ครับ

Lava A3_Camera 18

Lava A3_Camera 17

ภาพอัตราส่วน 4:3 (13 ล้านพิกเซล)

 

Lava A3_Camera 1

Lava A3_Camera 7

ภาพอัตราส่วน 16:9 (13 ล้านพิกเซล)

 

Lava A3_Camera 8

Lava A3_Camera 9

Auto Mode

 

Lava A3_Camera 10

HDR Mode

 

Lava A3_Camera 11

Lava A3_Camera 12

Lava A3_Camera 13

Lava A3_Camera 14

Lava A3_Camera 19

Lava A3_Camera 20

Lava A3_Camera 21

Lava A3_Camera 22

Lava A3_Camera 23

Lava A3_Camera 24

Lava A3_Camera 25

Lava A3_Camera 26

Lava A3_Camera 15

Lava A3_Camera 16

โหมดโบเก้ เมื่อเทียบจากรูปบนจะเห็นฉากหลังมีการละลายเพิ่มมากขึ้น

 

 

Lava A3_Camera 28

Lava A3_Camera 27

ลองดูตัวอย่างจากโหมดโบเก้อีกสักชุดครับ จะเห็นได้ว่าโหมดโบเก้บน Lava A3 ให้ภาพที่ดูเป็นธรรมชาติดีมาก ๆ เลยครับ

 

 

Lava A3_Camera 4 Lava A3_Camera 5

Lava A3_Camera 6

ลองกล้องหน้ากันหน่อย โดยใช้โหมด Auto และเปรียบเทียบกับ Beauty-Fi ที่ปรับไว้ 2 ระดับ

 

Lava A3_Camera 2 Lava A3_Camera 3

กล้องหน้ามีไฟแฟลชมาให้ใช้งานกันด้วย ซึ่งจะเห็นผลชัดเจนในเวลาที่เจอสภาพแสงน้อย และคุณภาพของไฟแฟลชจากกล้องหน้าก็ทำผลงานได้ดีครับ ไม่สว่างจ้าจนเกินไปนัก

กล้องของ Lava A3 ให้คุณภาพดีมากทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับราคาค่าตัวและคู่แข่งในรุ่นที่มีความใกล้เคียงกัน ในภาพรวม คุณภาพของเนื้อไฟล์อยู่ในเกณฑ์ที่ดีครับ ทั้งสีสันและความคม รวมไปถึงตัว Software ก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน แต่ก็อย่างที่บอกนะครับ คุณภาพกล้องนั้นดี ในช่วงราคาของมัน คงเอาไปเปรียบเทียบกับพวกตัว Top หรือรุ่นเรือธงไม่ได้ แต่ถ้าเป็นการใช้งานทั่ว ๆ ไป Lava A3 สามารถสอบผ่านได้อย่างสบาย ๆ ครับ

 

สรุป Lava A3

ข้อดี

1. กล้องหน้า/หลังให้คุณภาพดี เป็นรุ่นที่มีกล้องดีที่สุดของแบรนด์ Lava ณ ตอนนี้
2. รองรับ VoLTE และ full netcom 3.0
3. เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือได้ไวและแม่นยำ
4. รองรับ WiFi 5G
5. วัสดุดี งานประกอบเรียบร้อยแข็งแรง

 

สิ่งที่ต้องพิจารณา

1. ถาดซิมเป็นแบบไฮบริด
2. แบตยังไม่อึดสักเท่าไหร่
3. ไม่มีระบบแจ้งเตือนแบบ
ตัวเลขบนไอค่อน (ต้องเปลี่ยนไปใช้ Launcher ตัวอื่น )

ก็คงจะฝากไว้แต่เพียงเท่านี้ สำหรับรีวิว Lava A3 แล้วพบกันใหม่ในรีวิวทดสอบด้านเอนเตอร์เทนครับ


สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณที่ติดตามอ่านกันนะครับ

 

ถูกใจบทความนี้  69