เดินทางมาถึง Mark 5 ของซีรีย์ RX100 อันลือลั่นกันแล้วนะครับ และถึงแม้ว่าทางด้านดีไซน์งานออกแบบจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่เด่นชัด แต่ความสามารถภายในของ RX100 M5 นั้นอัพเกรดขึ้นมาได้อย่างน่าสนใจ อาทิเช่น มีการเพิ่มขนาด DRAM หรือตัว Buffer ให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น จึงส่งผลในหลาย ๆ ด้าน เช่น Continuos Shooting 24 FPS. ที่สามารถถ่ายต่อเนื่องได้ 24 ภาพในหนึ่งวินาที หรือการบันทึกวีดีโอสโลโมชั่นได้นานขึ้นเป็นต้น และอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่เป็นไฮไลท์ในความเปลี่ยนแปลงของซีรีย์ RX100 ครั้งนี้ก็คือการเปลี่ยนมาใช้ระบบโฟกัสแบบใหม่ Hybrid AF พร้อม phase detection AF ถึง 315 จุด ทำให้ Sony RX100 M5 เป็นกล้องคอมแพคที่โฟกัสได้ไวที่สุดในโลกด้วยเวลาเพียง 0.05 วินาทีเท่านั้น
สเปคโดยรวมและดีไซน์ของ Sony RX100 M5 ยังไม่แตกต่างจาก RX100 M4 แบบชัดเจนสักเท่าไหร่ พูดง่าย ๆ ว่า เป็นการยกเครื่องทางฝั่งฟีเจอร์และ Hardware บางส่วนเสียมากกว่าครับ แต่จะมีอะไรที่พัฒนาเพิ่มเติมเและเหนือกว่าตัว RX100 M4 บ้าง ผมขอสรุปแบบย่อ ๆ ดังนี้ครับ
1. ขยายขนาด DRAM หรือตัว Buffer ให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น
2. Continuos Shooting 24 FPS. ถ่ายต่อเนื่องได้ 24 ภาพในหนึ่งวินาที ซึ่งเพิ่มจากเดิมราว ๆ 1 เท่าตัว
3. ระบบโฟกัสแบบใหม่ Hybrid AF พร้อม phase detection AF 315 จุด + contrast definition 25 จุด ทำให้เป็นกล้องคอมแพคที่โฟกัสได้ไวที่สุดในโลกด้วยเวลาเพียง 0.05 วินาที เท่านั้น
4. ระบบ tracking ที่ดีขึ้น โดยใช้แบบเดียวกับในรุ่น A6300
5. สามารถบันทึกไฟล์ภาพนิ่งจากตัววีดีโอ 4K ได้แล้ว
6. ฟังก์ชั่น S-Log 3 ในโหมดวีดีโอ
7. ถ่ายวีดีโอสโลโมชั่นได้นานขึ้น ด้วยขนาด Buffer ที่ใหญ่ขึ้นนั่นเอง
ราคาวางจำหน่าย 38,990 บาท
สเปคโดยละเอียดของ Sony RX100 V https://goo.gl/Nsa1f0
ตัวกล่องแพ็กเกจก็ไม่ได้แตกต่างไปจาก RX100 M4 สักเท่าไหร่ครับ เพียงแต่ด้านหลังจะมีการพิมพ์บอกฟีเจอร์ที่อัพเกรดมาจากรุ่นพี่ M4 ก็คือระบบโฟกัสใหม่แบบ Hybrid AF พร้อม phase detection AF 315 จุด และความสามารถในการถ่ายต่อเนื่องที่เพิ่มขึ้นเป็น 24 เฟรมต่อนาที
สำหรับอุปกรณ์ภายในกล่องที่ให้มาจะประกอบไปด้วย
1. คู่มือการใช้งานฉบับย่อและใบรับประกันสินค้า นอกจากนี้หากเราทำการลงทะเบียนออนไลน์จะได้รับการประกันเพิ่มขึ้นอีก 3 เดือน รวมเป็น 15 เดือนครับ
2. อแดปเตอร์ชาร์จไฟ พร้อมสาย Micro USB
3. สายคล้องข้อมือ และอแดปเตอร์สำหรับใช้งานร่วมกับสายคล้องคอ
ซีรีย์ RX100 มีจุดเด่นในเรื่องความกะทัดรัด แต่สเปคภายในนั้นอัดแน่น เป็นคอมแพคสเปคเทพในไซส์มินิ ที่พกพาสะดวก และมีน้ำหนักเบา สามารถใส่กระเป๋าเสื้อ กระเป๋ากางเกงได้แบบสบาย ๆ แต่เรื่องคุณภาพนั้นหายห่วงครับ ชื่อชั้นของซีรีย์นี้ได้รับการการันตีมาแล้วจากผู้ใช้งานทั่วโลก
เมื่อ M4 และ M5 จับมาวางคู่กัน ดูยังไงก็พี่น้องฝาแฝดชัด ๆ คือทุกอย่างแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลง ทั้งวัสดุ ดีไซน์ รวมไปถึงการจัดวางเลย์เอาท์ต่าง ๆ
แล้วเราจะแยกได้อย่างไรระหว่าง RX100 M4 กับ M5 นะเหรอ มา ๆ เดี๋ยวผมพาไปดูจุดที่แตกต่างของทั้ง 2 รุ่นนี้ครับ
จุดที่ 1. ชื่อรุ่นที่พิมพ์กำกับไว้มุมซ้ายของด้านบน
จุดที่ 2. เส้นคาดที่ด้านหน้า โดยตัว M4 ร่องจะกว้างกว่าและมีลักษณะเป็นเส้นนูนภายใน ส่วน RX100 M5 จะเป็นแบบเรียบ และเป็นเส้นคาดในลักษณะของไดม่อนคัท
จุดที่ 3. ซึ่งเป็นจุดสุดท้าย ก็คือปุ่ม delete ที่ใน RX100 M5 จะสกรีนรูปถังขยะไว้ที่ตัวปุ่ม ในขณะที่ M4 จะเป็นตัว C
ทั้งสามจุดเหล่านี้คือความแตกต่างภายนอกที่พอจะมองเห็นได้อย่างชัดเจนครับ
ส่วนแบตเตอรี่ยังคงใช้รุ่นเดิมก็คือ NP-BX1 นั่นเอง
พอร์ตการเชื่อมต่อก็ไม่เปลี่ยนแปลงครับ มาพร้อมพอร์ต Micro HDMI และ Micro USB ซึ่งข้อดีของกล้องจากค่ายโซนี่ก็คือสามารถชาร์จไฟผ่านพอร์ต Micro USB ได้โดยตรง ทำให้เราสามารถชาร์จผ่าน Power Bank ได้อีกด้วย และที่เจ๋งสุด ๆ ก็คือชาร์จไปใช้งานไปก็ยังไหว นับว่าเป็นจุดขายอีกอย่างของทางค่ายโซนี่ครับ
แต่ก็มีเรื่องที่น่าเสียดายตรงที่ไม่มีพอร์ตสำหรับต่อไมโครโฟนภายนอกมาให้ใช้งาน เพราะด้วยความสามารถในการบันทึกวีดีโออันยอดเยี่ยมของซีรีย RX100 ถ้าต่อไมค์นอกได้จะเพอร์เฟ็กต์มาก ๆ เลยครับ
สำหรับฟีเจอร์อื่น ๆ ยังคงเหมือนเดิมครับ ไม่ได้เพิ่มเติม แต่ก็ไม่ได้ตัดทอนออกไป เช่น แฟลชแบบป็อปอัพ, ช่องมองภาพ EVF ความละเอียดสูง รวมไปถึงการเชื่อมต่อที่ครบครัน WiFi,NFC รวมไปถึงการติดตั้งแอพพลิเคชั่นเพิ่มเติมในภายหลังได้อีกด้วย
จอแสดงผลของ Sony RX100 M5 ยังไม่มีความเปลี่ยนแปลงครับ คือมาพร้อมขนาดและความละเอียดเท่าเดิม โดยพับจอขึ้นมาได้ 180 องศา สามารถถ่ายเซลฟี่ได้สบาย ๆ และพับลงมา 45 องศา เพื่อการถ่ายภาพในมุมต่ำได้สะดวกขึ้น แต่น่าเสียดาย (อีกแล้ว) ที่ซีรีย์ RX 100 ยังไม่ยอมเปลี่ยนมาใช้จอแบบทัชสกรีนเสียที เชื่อว่าแฟน ๆ ของซีรีย์นี้ต่างก็คิดเหมือนผมอย่างแน่นอน
มาดูในส่วนของ ISO หรือค่าความไวแสงกันต่อครับ ซึ่งในภาพรวม ตัว Hardware อย่างพวกชิ้นเลนส์ หรือหน่วยประมวลผลนั้นไม่แตกต่างจาก M4 แต่ตัว M5 มีการเพิ่ม DRAM และปรับปรุง Image processing engine ขึ้นมาอีกนิดหน่อย ซึ่งในความรู้สึกของผม การจัดการ Noise ของ RX100 M5 นั้นก็ทำผลงานได้ดีขึ้นมาจากตัว M4 เพียงเล็กน้อยครับ
ระยะไวด์กับเทเลสูงสุดของเลนส์ ZEISS Vario-Sonnar T / 24-70mm. ซึ่งก็ยังเป็นเลนส์ตัวเดิมที่ใช้อยู่ใน RX100 M4 ครับ
เปรียบเทียบเมื่อเปิดค่ารูรับรับแสงกว้างสุดและแคบสุด ที่ F/1.8 และ F/11
ระยะโฟกัสใกล้สุดอยู่ที่ 5 เซ็นติเมตร เอามาถ่ายมาโครแบบขำ ๆ พอได้อยู่ครับ
ไวท์บาลานซ์ในโหมด Auto เก่งขึ้นกว่าเดิมพอสมควร มีความแม่นยำที่ค่อนข้างดีมาก ส่วนเรื่องสีสันก็เที่ยงตรง และโทนภาพไม่ติดอันเดอร์เท่ากับตัวรุ่นพี่ M4 ครับ
และตามที่เกริ่นไปในตอนต้นครับ Sony RX100 M5 มีการขยายขนาด DRAM หรือตัว Buffer ให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น ทำให้สามารถถ่ายต่อเนื่องได้ 24 ภาพในหนึ่งวินาที ซึ่งเพิ่มจากเดิมราว ๆ 1 เท่าตัว แถมยังมี ระบบ tracking ที่ดีขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย โดยยกความสามารถนี้มาจากรุ่นพี่ A6300 ทำให้การถ่ายด้วยโหมด Continuos Shooting มีโอกาสได้ภาพมาใช้งานเพิ่มมากขึ้น อธิบายง่าย ๆ คือ ไม่ได้ถ่ายด้วยจำนวนเฟรมที่มากขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่หมายถึงการโฟกัสที่เข้าเป้าหมายมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วยครับ
ระบบโฟกัสแบบใหม่ Hybrid AF พร้อม phase detection AF 315 จุด + contrast definition 25 จุด เมื่อนำไปลองถ่ายแนวสตรีท แบบยกกล้องขึ้นมากดถ่ายเลย ไม่ต้องคิดอะไร ก็ยังได้ภาพกลับมาใช้งาน ซึ่งต้องยกความดีให้กับการอัพเกรดระบบโฟกัสใหม่ใน RX100 M5 ครับ
แฟลชป็อบอัพในตัวและสามารถ Bounce Flash ได้ มีประโยชน์กว่าที่คิดนะครับ เพราะเราไม่ได้ใช้งานเฉพาะในที่แสงน้อยเพียงอย่างเดียว และถึงแม้ว่ากำลังไฟของตัวแฟลชจะไม่มากนักแต่บางสถานการณ์ก็ยังพอช่วยให้เราได้ภาพที่ดีกว่าไม่เปิดแฟลชนะครับ
จากนี้ไปดูภาพรวม ๆ ในหลากหลายสภาพแสงกันครับ ซึ่งส่วนใหญ่ผมใช้โหมด Auto นี่แหล่ะ เพราะเชื่อว่าถ้า Auto มันเก่งจริงนะ มันจะกลายเป็นกล้องที่ใช้งานง่าย และมอบความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดีเลยครับ
สรุป Sony RX100 M5
รูปลักษณ์ภายนอกของ Sony RX100 M5 ไม่ได้มีการปรับปรุงแบบ Major Change ครับ เรียกว่า ขวดเดิมแต่เปลี่ยนรสชาติให้เข้มข้นกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น ตัวฟีเจอร์ภายในต่างหากที่มีการปรับปรุงได้อย่างน่าสนใจ ทั้งความไวในการโฟกัส, หรือระบบโฟกัสแบบไฮบริดที่มี phase detection AF ถึง 315 จุด, การขยาย DRAM หรือตัว Buffer ให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นและส่งผลให้ฟีเจอร์เดิม ๆ ได้รับอานิสงส์ไปด้วย เช่น Continuos Shooting 24 FPS. ถ่ายต่อเนื่องได้ 24 ภาพในหนึ่งวินาที ซึ่งเพิ่มจากเดิมราว ๆ 1 เท่าตัว สามารถถ่ายวีดีโอสโลโมชั่นได้นานขึ้น และถ่ายวีดีโอความละเอียด 4K ได้สมูทและเสถียรกว่าเดิม นอกจากนี้ยังมาพร้อมความสามารถใหม่ (เก่าของค่ายอื่น 55) ก็คือสามารถบันทึกไฟล์ภาพนิ่งจากตัววีดีโอ 4K ได้แล้วนั่นเอง
สรุปสนนราคาค่าตัวที่แพงขึ้นมาอีก 6,000 บาท ถามว่าคุ้มมั้ย บอกเลยว่าเกินคุ้มครับ เพราะแค่การอัพเกรดเรื่องระบบโฟกัสซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการถ่ายรูป ผมก็มองว่ามันมีการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกที่ส่งผลต่อการใช้งานได้ดีขึ้นแบบจับต้องได้จริง และเมื่อรวมกับฟีเจอร์ใหม่ ๆ ของตัว RX100 M5 ด้วยแล้ว ผมเชื่อว่ายังไงแฟน ๆ ก็ยังคงให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นเหมือนเดิม นอกจากนี้ RX100 M4 ก็ยังทำตลาดไปตามปรกติครับ ไม่ได้ถูกออกไปจากไลน์การตลาดแต่อย่างใด สำหรับคนที่เน้นในเรื่องความสุดของเทคโนโลยีและงบประมาณไม่ใช่สิ่งสำคัญ ก็เลือกย้ายมาที่ M5 ได้เลย ส่วนคนที่ต้องการเน้นแค่คุณภาพของไฟล์ และมีงบประมาณจำกัดตัว RX100 M4 ก็ยังไม่เอาท์ และสามารถตอบโจทย์ในการใช้งานตามไลฟ์สไตล์ของ User ได้อย่างแน่นอนครับ
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณที่ติดตามอ่านกันนะครับ
บทความเก่า
1.Unboxing แกะกล่อง! กล้องคอมแพค ไฮเอนด์ Sony RX100 V ฉบับ ไวไว มาม่า ควิ๊ก (วีดีโอ) !! ttps://goo.gl/ILggha
2 ทดสอบการบันทึกวีดีโอ “สโลโมชั่น” จากกล้อง Sony RX100 V ที่เฟรมเรต 3 ระดับ ttps://goo.gl/p3FFC5
You must be logged in to post a comment.