ทักทายวันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม 2017: Storage เป็นเรื่องอีกแล้ว ?

samsung-galaxy-s8-storage

สวัสดีวันอาทิตย์ครับ สัปดาห์ที่ผ่่านมามีดราม่าของ Huawei หนักมากในเรื่องของการใส่ Storage มาในเครื่องแตกต่างกันระหว่าง UFS2.0 และ 2.1 พอมาอาทิตย์นี้เหตุการณ์คล้ายๆ กันเกิดขึ้นกับแบรนด์เกาหลีอย่าง Samsung Galaxy S8 อีกครา เอ้อ แต่เคสนี้ไม่ได้เหมือนคราวที่แล้วซะทีเดียวนะครับ

ถ้าใครได้ติดตามข่าวสารจากทางเว็บน่าจะเห็นข่าวนี้บ้างล่ะ >>> รู้หรือไม่? Samsung Galaxy S8/S8+ มีการใช้หน่วยความจำทั้ง UFS 2.0 และ UFS 2.1 !!! ซึ่งแหล่งข่าวมาจาก xda-developer ซึ่งใจความรวมๆ โดยสรุปก็คือมี Galaxy S8 เองก็มีการใช้ Storage ที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ โดยมีการใช้งานทั้ง UFS2.0 และ 2.1 แต่ว่าในกรณีของ Samsung นั้นบนหน้าสเปคได้มีหมายเหตุบอกไว้อยู่แล้วว่า อาจจะแตกต่างกันไปตามตลาดและผู้ให้บริการ เอ้อ อันนี้ยังไงดีล่ะ ? ก็คงต้องแล้วแต่ตีความว่านี่คือการหลอกลวงตามที่หลายคนเคยตีความกับเคส Huawei หรือไม่อีกที

กล่าวคือถ้าจะบอกว่าแบรนด์ซื่อสัตย์กับผู้บริโภคก็คือเราได้บอกแล้วนะ ว่าอาจใช้ของต่างกันไปตามแต่ละประเทศ แต่กลับกันถ้ามองว่าหลอกลวงผู้บริโภค ก็คือแบรนด์จะทำเช่นไรก็ได้ในการสับเปลี่ยนไส้ในตามใจชอบหรอ ? อันนี้ผมก็ไม่รู้จะตีความยังไงดีเหมือนกัน คงแล้วแต่ความรู้สึกของแต่ละคนละกันครับ

เพราะส่วนตัวผมมองว่าการจะใช้ UFS2.0 หรือ 2.1 มาในเครื่องก็ตามมันไม่ได้ทำให้เรารู้สึกถึงความแตกต่างในการใช้งานของเรามากขนาดที่เรารู้สึกได้หรอกครับ เพราะ Storage ทั้ง 2 ตัวนั้นมันอยู่ในมาตรฐานความเร็วที่เท่ากัน แต่จะแตกต่างกันในเรื่องของความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูลเสียมากกว่า ซึ่งถ้าเราไม่ได้ไปใช้ของเถื่อนอะไร ถามว่าใครมันจะมานั่ง Encrypt ข้อมูลของเราไปใช้งานงั้นหรอครับ ? และอีกอย่างเวลาใช้แอพต่างๆ เราก็เป็นคนสมัครใจให้เค้าเอาข้อมูลตามที่เค้าขอไปได้เองด้วย ฉะนั้นไอ้ความปลอดภัยที่เพิ่มมาให้เนี่ย มันสำคัญขนาดว่าจะต้องมี ไม่มีแล้วจะเป็นจะตายเลยหรือไงล่ะ ?

อ๊ะ ใส่อารมณ์มากไปหน่อยครับ อันนี้ส่วนตัวผมนะ เพื่อนๆ ท่านอื่นจะคิดยังไงก็แล้วแต่เลย เพราะอย่างไรก็ตามจริงๆ เรื่องแบบนี้ก็มีให้เห็นทุกแบรนด์นะครับ เพราะถ้าจำไม่ผิดเนี่ยกระทั่ง Apple เองยังจ้างผลิตชิปเซ็ตหลายบริษัทเลย ซึ่งอาจจะมีความแตกต่างในด้านความเร็วเช่นกัน แต่พอมาใช้งานจริงมันก็ไม่ได้มีความแตกต่างขนาดที่เราจะสัมผัสมันได้เองหรอก ซึ่งเรื่องพวกนี้จริงๆ อาจจะถือเป็นเรื่องปกติก็เป็นได้เพราะสมาร์ทโฟนพวกเรือธงเนี่ย ปีนึงขายกันตั้งกี่สิบล้านเครื่อง จะจ้างบริษัทผลิตชิ้นส่วนบริษัทเดียวทำมาให้ทันนี่คงต้องเป็นบริษัทที่ใหญ่มากขนาดไหนถึงจะสามารถผลิตชิ้นส่วนได้หลายสิบล้านชิ้นเพื่อให้ทันความต้องการกันล่ะ ?

ช่วงนี้หน้าแฟนเพจของทางเว็บเรามีกิจกรรมให้ร่วมสนุกอีกครั้งนะครับ เพื่อนๆ ท่านไหนยังไม่ได้ร่วมสนุกก็อย่าลืมไปร่วมด้วยช่วยกันนะครับ

สุดท้ายนี้ อย่าลืมกดไลค์เพื่อเป็นกำลังใจ พร้อมทั้งติดตามรับข่าวสารจากทางเว็บด้วยนะครับ https://goo.gl/TGZPgg

ถูกใจบทความนี้  0