Black Phone 2 เป็นสมาร์ทโฟนที่สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์สำหรับความปลอดภัยบนสมาร์ทโฟน เพราะปัจจุบันต้องยอมรับแล้วว่าแทบจะเกือบทุกอย่างเราหันมาใช้สมาร์ทโฟนในการจัดการแทนเท่าที่มันจะทำได้ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายรูป, การเก็บข้อมูลต่างๆ, ดุหนัง ฟังเพลง, หรือจะเป็นการทำธุรกรรมการเงินทางออนไลน์ก็ตาม ซึ่งแน่นอนว่าการกระทำดังกล่าวนั้นยิ่งง่ายเท่าไหร่ ก็ยิ่งสามารถถูกโจรกรรมข้อมูลได้ง่ายขึ้นเท่าน้นล่ะ แต่สมาร์ทโฟนเครื่องนี้นั้นทำมาเพื่อปกป้องข้อมูลโดยเฉพาะเลยก็ว่าได้
Black Phone 2 Specs:
– หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD
– Snapdragon 615 Octa Core 1.5GHz
– Ram 3GB
– หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 32GB
– รองรับ Micro SD Card
– กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซลพร้อมไฟแฟลช LED
– กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
– Wi-Fi b/g/n, Bluetooth, GPS/A-GPS
– 4G LTE
– แบตเตอรี่ขนาด 3,060mAh
– รองรับการชาร์จไวของ Quick Charge 2.0
– ราคาเปิดตัว 22,900 บาท
แกะกล่อง
กล่องของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้มาแปลกหน่อยคือแยกเป็น 2 กล่อง ฮ่าๆ งงเด้ งงเด้ โดยกล่องนึงจะมีชุดอุปกรณ์มาตรฐานคือ ตัวเครื่อง, Adapter, สายซิงค์, หูฟัง, คู่มือ ซึ่งก็เรียกว่าครบสำหรับการใช้งานล่ะ
สายซิงค์/ชาร์จเปนแบบ Micro USB
หูฟัง in ear
อันนี้อีกกล่องนึงจะมีเคส, ฟิล์มกระจกแล้วก็ Adapter ขากลมให้ (อันบนเป็นขาแบน)
มาดูหน้าตาตัวเครื่องโทรศัพท์ดำกันดีกว่า จุดนึงที่ชอบคือจอไม่โค้ง แปะฟิล์มแปะกระจกสบาย เต็มๆ
เหนือหน้าจอมีกล้องหน้าอยู่ทางขวาของลำโพงสนทนา
ใต้หน้าจะมีปุ่มสัมผัสโดยเรียงเป็น Back, Home, Recent Apps
ด้านหลังตัวเครื่องเป็นกระจกเงาๆ ดูๆ แล้วสวยดี แต่จับปุ๊บขี้เหร่ทันทีเพราะรอยนิ้วมือมันจะมาทันที
มุมซ้ายบนของหลังตัวเครื่องมีกล้องหลังพร้อมไฟแฟลช 2 ดวงอยู่ใต้ตัวกล้อง
ด้านล่างมีลำโพงตัวเครื่องอยู่เป็นเส้นๆ นั่น
ด้านบนตัวเครื่องมีช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐานพร้อมไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวนเวลาสนทนา
ด้านซ้ายมีช่องสำหรับเสียบเข็มจิ้มถาดซิมออกมา
ถาดซิมของรุ่นนี้ไม่ใช่ Hybrid นะครับ มันเป็นรุ่นซิมเดียวและใส่ Micro SD Card เอา หมดสิทธิเลือกหรือขัดขืนอะไรทั้งนั้น
ด้านขวาของตัวเครื่องมีปุ่ม Power และปุ่มเพิ่มลดเสียง
ด้านล่างมีช่องเสียบสายชาร์จ/ซิงค์แบบ micro usb อยู่ทางขวา ไม่อยู่ตรงกลางแฮะ แปลกประหลาดชะมัด
ลองถือตัวเครื่องดู คือขนาด 5.5 นิ้วเนี่ยไม่ใหญ่แล้วล่ะสำหรับปัจจุบัน แต่ขอบบนของล่างตัวเครื่องก็หนาอยู่ ฉะนั้นเลยดูค่อนข้างใหญ่พอตัว
Software
ตัวแบล็คโฟน 2 เองเป็นสมาร์ทโฟนที่เรียบง่ายเน้นความปลอดภัยซึ่งตัว OS ที่ใช้นั้นทำมาบนพื้นฐานของ Android 6.0 Marshmallow ซึ่งไม่ได้ปรับแต่งด้าน User Interface เลย ฉะนั้นมันจะเหมือน Pure Android มาก
ในส่วนที่เป็นไฮไลท์นั้นจะเป็นเรื่องของ Space Management ซึ่งเป็นการจัดการหรือจะเรียกว่าแบ่งพื้นที่การใช้งานซึ่งทำได้ถึง 4 บัญชีเลยทีเดียว แต่จะต้องมีบัญชีหลักซึ่งเรียกว่า Owner ที่เหลือก็จะเป็น Personal Space, Silent Space และ Managed Space
ซึ่งในแต่ละส่วนนั้นจะถูกเซ็ตค่าต่างๆ มาให้อยู่แล้ว แต่เราเองก็สามารถตั้งค่าต่างๆ ได้เพิ่มเองอีก เช่น Personal Space อาจเลือกเปิดปิดการเข้าถึงการโทร, ข้อความ ฯลฯ แต่ให้ใช้แอปพลิเคชั่นต่างๆ ได้ตามเดิม หรือในส่วนของ Silent Space เองอันนี้จะมีความปลอดภัยกว่าเดิมอีกระดับคือสามารถเลือกได้ว่าไม่ให้ Capture หน้าจอได้ และให้ใช้งานได้เพียงแอปฯ ที่ติดมากับตัวเครื่องเท่านั้น ซึ่งที่โหดกว่าคือจะเอาไปลงแอปเพิ่มก็ยังไม่สามารถ เรียกได้ว่าถ้าใครหยิบไปใช้คงงงว่าแบบ เฮ้ย เครื่องไม่มีอะไรเลยหรอ
ส่วน Managed Space ก็คือเดิมๆ ใช้งานได้ปกติทุกอย่าง
Remote Wipe เอาไว้ใช้งานสำหรับกรณีเครื่องหาย ซึ่งก่อนจะใช้งานต้องมีบัญชีของแบล็คโฟนล็อคอินไว้ก่อนนะครับ และการใช้งานก็ผ่านทางหน้าเว็บไซต์เลยจะสั่งปิดเครื่องหรือจะ Wipe Data ทิ้งไปเลยก็ได้ แต่เอาจริงๆ เกิดใครขโมยไปนี่สั่งปิดเครื่องก่อนก็หนักละ เพราะกว่าจะเปิดเครื่องได้ต้องใส่ Password ครั้งนึง พอใส่รหัสถูกต้องก็ต้องมาใส่รหัสอีกรอบก่อนจะใช้งานตัวเครื่องได้อีก วุ่นวายพอตัวสำหรับขโมยเลย
ทดสอบประสิทธิภาพตัวเครื่องผ่านแอปฯ Benchmark ต่างๆ ได้ผลไม่แรงเท่่าไหร่เพราะมันไม่ใช่สมาร์ทโฟนที่เน้นแรง แต่เน้นความปลอดภัย ผลที่ได้ดังนี้
– Antutu: 25974
– Quadrant: 11633
– Multitouch: 10 จุด
กล้องถ่ายรูป
อย่างที่บอกไปก่อนหน้าว่าซอฟต์แวร์ตัวเครื่องเองแทบจะเป็นเดิมๆ ของ Android แต่เสริมเรื่องความปลอดภัยในการใช้งานต่างๆ เสียมากกว่า ฉะนั้นกล้องถ่ายรูปเองก็จะไม่ค่อยมีโหมดถ่ายรูปเท่าไหร่ จริงๆ ควรเรียกว่าไม่มีเลยก็ได้มั้ง เพราะมีแค่เปิดใช้งาน HDR หรือไม่เปิด, Panorama และรูปแบบการถ่ายรูปต่างๆ เท่านั้น ซึ่งหลักๆ สำหรับเครื่องนี้ก็ใช้แต่โหมด Auto นี่ล่ะ ภาพที่ได้ก็ถืือว่าพอใช้งานได้ แต่โฟกัสแอบช้าและชัตเตอร์ไม่เร็วเท่าไหร่นัก ยิ่งสภาพแสงน้อยต้องมือนิ่งเลย ไม่งั้นภาพสั่นหมด
สำหรับตัวอย่างภาพถ่ายได้มีการย่อขนาดลงและใส่ลายน้ำเข้าไป แต่อย่างอื่นมิได้ปรับแต่งใดๆ เพิ่มเติมเลย ลองชมกันดู
ถ่ายกับแสงแดดแรงๆ แบบย้อนแสงไม่ได้เปิด HDR
เมื่อเปิด HDR รายละเอียดมืดๆ มาหมด
งานแสงน้อยหรือกลางคืนนี่ลำบาก มือต้องนิ่ง ถ้าแบบขยับหน้าก็เบลอละ
สรุป: Black Phone 2 เป็นสมาร์ทโฟนฉีกแนวจากที่ขายในปัจจุบันที่ไปเน้นด้านความปลอดภัยในการใช้งานแทน ซึ่งสเปคเครื่องหรือกล้องถ่ายรูปจะเห็นว่าธรรมดามาก ฉะนั้นมันเหมาะสำหรับคนที่มีความลับเยอะกลัวเมียรู้อะไรแบบนี้เป็นต้นครับ ซึ่งต้องมาคิดกันดูว่าเงินสองหมื่นที่จะต้องจ่ายให้โทรศัพท์รุ่นนี้นั้นคุ้มค่าหรือไม่ เพราะปัจจุบันสมาร์ทโฟนต่างๆ ก้ไมได้ถูกแฮ็คได้ง่ายขนาดนั้นหากเราไม่ไปลงแอปพลิเคชั่นเถื่อนหรือเข้าเว็บเสี่ยงอันตรายต่างๆ และอีกอย่าง Android รุ่นอื่นๆ ก็สามารถสร้าง User หลายบัญชีได้เช่นกันด้วย ฉะนั้นสำหรับคนทั่วไปก็ยังอาจไม่เห็นความจำเป็นของโทรศัพท์รุ่นนี้เท่าไหร่นัก
You must be logged in to post a comment.