รีวิว Nubia Z17 mini สมาร์ทโฟนกล้องคู่สุดร้อนแรง ที่มาพร้อมดีไซน์งามจับตา และฟังก์ชั่นเด่นจับใจ !!!

Nubia Z17 mini เป็นรุ่นที่ร้อนแรงสุด ๆ หลังทำสถิติเปิดวางจำหน่ายวันแรกในประเทศบ้านเกิด สามารถขายหมดเกลี้ยงสต็อคภายในเวลาเพียง 56 วินาทีเท่านั้น https://goo.gl/pbySgw  นอกจากดีไซน์สวย สเปคดี ยังมาพร้อมกล้องคู่อันโดดเด่นเหมือนรุ่นพี่ Nubia M2 https://goo.gl/VjXd5r

นอกจากนี้ Nubia Z17 mini ยังได้นักเตะชื่อดังอย่าง Cristiano Ronaldo มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้อีกด้วย มารับชมกันครับว่าเพราะอะไรที่ทำให้ Nubia Z17 mini นั้นได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ใช้งาน จนขายหมดเกลี้ยงในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที

Nubia Z17 mini Specifications

● ระบบปฏิบัติการ: Android OS, v6.0.1 (Marshmallow) ครอบทับด้วย nubia UI 4.0
● จอแสดงผล: ชนิด LTPS IPS ขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียด Full HD 1080 x 1920 pixels (~424 ppi pixel density) กระจกโค้ง 2.5D Corning Gorilla Glass
● หน่วยประมวลผล: Qualcomm MSM8976 Snapdragon 652 – (Standard edition)
● หน่วยประมวลผลกราฟฟิค: Adreno 510
● หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง: 64GB และรองรับหน่วยความจำภายนอก MicroSD card ได้สูงสุด 256GB
● แรม: 4GB (Standard edition)
● การเชื่อมต่อ: 2G: 850/ 900/ 1800/ 1900MHz
●3G: WCDMA 850/ 900/ /1900/ 2100MHz
●4G LTE:  850/ 1800/ 2100/ 2600MHz
● รองรับการใช้งานในระบบ 2 ซิมการ์ด แบบ Hybrid SIM Slot, 1 Nano+ 1 Nano SIM or 1 microSD Card
● การเชื่อมต่อ: Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, NFC, Bluetooth V. 4.1, FM radio,
● กล้องหลักด้านหลังแบบคู่ ความละเอียด 13 + 13 ล้านพิกเซล,(13MP RGB imx258 RGB sensor+imx258 MONO sensor ) กระจกเลนส์ Sapphire ป้องกันรอยขีดข่วน, ค่ารูรับแสง f/2.2, เซ็นเซอร์ Sony IMX258 Exmor RS ระบบโฟกัส phase detection autofocus, dual-LED flash, 1/3″ sensor size, 1.12 µm pixel size,
● กล้องด้านหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.0,
● ขนาดตัวเครื่อง: 146.7 x 72.5 x 7.5 มิลลิเมตร
● น้ำหนัก: 155 กรัม
● แบตเตอรี่: Lithium-polymer 2950mAh (รองรับระบบชาร์จไว)
● สีที่มีวางจำหน่าย: ดำทอง/ สีทอง

ราคาวางจำหน่าย 9,990 บาท (ออนไลน์)

ออฟไลน์ 10,900 บาท

 

 

 

Packaging & Accessories

ตัวกล่องมาในโทนสีขาวสะอาดตา ด้านหน้าพิมพ์แค่เพียงชื่อแบรนด์ ส่วนด้านหลังจะแปะสเปคและจุดเด่นอันเป็นจุดขายของ Z17 mini มาให้ดูกันพอสังเขป

 

แง้มกล่องออกมาจะพบตัวเครื่อง Nubia Z17 mini ที่นอนรออยู่ในกล่องและถูกห่อหุ้มมาเป็นอย่างดี

 

มีสติ๊กเกอร์ติดป้องกันที่พอร์ตชาร์จไฟรวมไปถึงเลนส์กล้องด้านหลัง โดยทางค่าย Nubia นั้นใส่ใจทุกขั้นตอน แม้กระทั้งแพ็กเกจจิ้งและรายละเอียดปลีกย่อยได้อย่างน่าชื่นชมครับ

สำหรับอุปกรณ์ภายในกล่องของ Nubia Z17 mini จะประกอบไปด้วย

 

 

1. คู่มือการใช้งานเบื้องต้น + ใบรับประกันสินค้า

2. เข็มจิ้มเปิดถาดซิมการ์ด

 

3. อแดปเตอร์ชาร์จไฟชนิดขากลม ให้ OUTPUT มาที่ 1.5A และสาย USB Type-C สำหรับซิงค์และชาร์จไฟ

สำหรับตัวเครื่องนั้นรองรับเทคโนโลยี Fast charging ด้วยนะครับ ถ้าอยากชาร์จไฟให้เต็มไว ก็ต้องหาซื้ออแดปเตอร์ชาร์จที่รองรับระบบชาร์จไวมาใช้แทนของเดิม ๆ ที่มากับตัวเครื่องครับ

 

 

Design & Hardware

 

 

ดีไซน์ของ Nubia Z17 mini เป็นแบบ Metal unibody โดยมีวัสดุหลักคือโลหะและผสานไปด้วยกระจกโค้ง 2.5D ของจอแสดงผล รวมไปถึงแถบพลาสติกของเส้นรับสัญญาณเสาอากาศที่คาดอยู่ด้านหลังของตัวเครื่อง ดีไซน์ในภาพรวมเน้นความโค้งมนที่มีความสมมาตรอยู่ภายในตัว ยกตัวอย่างเช่น ด้านข้างแม้จะเล่น curve แต่ก็มีการตัดขอบให้เป็นเหลี่ยมสันเล็กน้อย โดยขอบด้านบนจะตัดแบบไดม่อนคัท ที่ใช้โทนสีทองดูหรูหราพรีเมี่ยม ส่วนด้านหลังการตัดขอบจะใช้โทนสีเดียวกับตัวเครื่อง พื้นผิวของตัวเครื่องด้านหลังจะเป็น Texture ในแบบที่เรียกว่าพ่นทราย จึงส่งผลให้ดูละเอียดเงางามสวยสะดุดตาดีมาก ๆ เลยครับ

ด้าน Build Quality เท่าที่ได้สัมผัสและสำรวจอย่างละเอียด ทั้งบีบ ๆ จับ ๆ กด ๆ ยังไม่พบเจอความผิดปรกติแต่อย่างใด ในภาพรวมงานประกอบของ Nubia Z17 mini  เรียบร้อยแข็งแรงดีมากครับ

ส่วน Handle การจับถือและพกพา แม้จะมาพร้อมชื่อมินิ แต่จริง ๆ แล้วด้วยขนาดหน้าจอ 5.2 นิ้วก็ไม่ถือว่ามินิเหมือนกับพวกจอ 4-4.3 นิ้วนะครับ แต่ด้วยดีไซน์ที่มีความโค้งมนและตัดขอบได้สมมาตรช่วยให้จับถือได้กระชับและไม่ลื่นมือสักเท่าไหร่ แต่ด้านการพกพา เอาเข้าจริง ๆ ยังไงก็ยังสู้พวกจอ 4 นิ้วที่เน้นในเรื่องความเป็นมินิของจริงไม่ได้ครับ

สรุปในส่วนภาพรวมของงานออกแบบต้องขอชื่นชมว่าทำออกมาได้ลงตัวมากครับ เช่นการใช้โทนสีอย่างกลมกลืนด้วยสีพื้นหลักที่เป็นสีดำ ตามด้วยสีขอบตัวเครื่องและตัวอักษรที่เลือกใช้โทนสีทองซึ่งตัดและเข้ากันเป็นอย่างดี สุดท้ายการใช้โทนสีแดงตรงเส้นกรอบของกล้องหลังคู่ ยิ่งช่วยขับเน้นจุดขายด้านกล้องของ Z17 mini ได้โดดเด่นสะดุดตามาก ๆ ครับ

 

จอแสดงผลของ Nubia Z17 mini มีขนาด 5.2 นิ้ว เลือกใช้พาเนลจอแบบ LTPS (Low Temperature PolySilicon) IPS ความละเอียดระดับ Full HD ที่ให้ความคมชัดและมีมุมมองที่กว้าง เรื่องสีสันความสดใสและ respon การตอบสนองนั้นได้ใจ แต่เรื่องความสว่างยังไม่โดดเด่นมากนัก แต่เมื่อทดลองนำไปใช้งานกลางแจ้งก็ยังมองเห็นได้ชัดเจนไม่มีปัญหาต่อการใช้งานแต่อย่างใด ตรงนี้ถือว่าสอบผ่านครับ

 

กล้องหน้าของ Nubia Z17 mini ให้ความละเอียดมาที่ 16 ล้านพิกเซล แม้จะไม่ได้ชูเป็นจุดขายเท่ากับกล้องหลังคู่ แต่คุณภาพที่ได้ก็ถือว่าไม่ธรรมดา สามารถดูตัวอย่างภาพถ่ายได้ที่ท้ายบทความครับผม

ในส่วนของสามปุ่มนำทางจะเป็นแบบ capacitive button โดยปุ่มโฮมนั้นออกแบบได้สวยงาม โดยเป็นรูปทรงกลมสีแดงที่มีไฟแบล็คไลท์อยู่ภายใน ซึ่งทำหน้าที่เป็นไฟแจ้งเตือนด้วยนะครับ ส่วนปุ่ม Back และ Recent Apps จัดวางอยู่ด้านข้างปุ่มโฮม โดยทั้ง 2 ปุ่มออกแบบให้เป็นจุดเล็ก ๆ โดยจะซ่อนไว้เมื่อไม่มีการใช้งาน ในภาพรวมงานออกแบบปุ่มนำทางของค่าย Nubia นั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่ดูซ้ำซากจำเจเหมือนสมาร์ทโฟนทั่วไปในท้องตลาด

 

ดูกันต่อที่ด้านหลัง Nubia Z17 mini นั้นมาพร้อมกับจุดขายก็คือกล้องหลังคู่ ซึ่งต้องบอกว่าเป็น Gen ที่สองต่อจากรุ่น Nubia M2 นั่นเอง

สำหรับจุดเด่นของกล้องหลังคู่ของ Z17 mini ก็คือการใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX258 Exmor RS ความละเอียดที่ 13 ล้านพิกเซล, โดยเลนส์ตัวหนึ่งเป็น RGB sensor ที่รองรับภาพสีตามปรกติ ส่วนอีกตัวจะเป็น mono sensor ที่จะประมวลผลเฉพาะภาพขาวดำเพียงอย่างเดียว เมื่อรวมจุดเด่นของเซ็นเซอร์ทั้ง 2 ตัวเข้าด้วยกัน เราจึงได้เห็นคุณภาพทั้งเรื่องความแม่นยำของโทนสี ไวท์บาลานส์ รวมไปถึงโบเก้และการละลายฉากหลังที่ทำได้ค่อนข้างดีบน Z17 mini และนอกจากนี้ตัวกระจกเลนส์ยังเป็น Sapphire ที่ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนได้ดีอีกด้วย

ในส่วนของเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือของ Nubia Z17 mini จะอยู่ที่ด้านหลังของตัวเครื่อง และใช้การตัดขอบด้วยสีทองเหมือนขอบด้านข้างของตัวเครื่องเลยครับ สำหรับความเร็วและความแม่นยำของตัวเซ็นเซอร์อยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างดี สามารถสแกนได้ไวและแม่นยำในระดับที่พึ่งพาและไว้ใจได้

 

 

สำรวจภาพรวมทางด้าน Hardware ภายนอกกันต่อ ที่ด้านบนของตัวเครื่องจะมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.และไมค์ตัดเสียงรบกวน รวมถึงเป็นไมค์ที่ใช้ในการบันทึกเสียงอีกด้วย

ส่วนด้านล่างของตัวเครื่อง การออกแบบในลักษณะนี้จะดูเหมือนว่าเป็นลำโพงคู่สเตอริโอ แต่จริง ๆ แล้ว Nubia Z17 mini นั้นมีลำโพงแบบโมโน หรือลำโพงเพียงข้างเดียวครับ โดยทางฝั่งขวามือจะเป็นช่องลำโพงมีเดียหรือลำโพงหลักของตัวเครื่อง ซึ่งให้คุณภาพที่ค่อนข้างดี ทั้งเรื่องความดังและความใสเคลียร์แถมเปิดเร่งเสียงจนสุดก็ไม่มีอาการแตกพร่าให้ได้ยิน ส่วนฝั่งซ้ายจะเป็นไมค์สนทนา และตรงกลางจะเป็นที่อยู่พอร์ต USB Type-C ที่กำลังก้าวเข้าเป็นมาตรฐานใหม่ของสมาร์ทโฟนในยุคปัจจุบัน

 

ทางฝั่งขวามือของตัวเครื่อง ด้านบนจะเป็นปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียง ถัดลงมาคือปุ่ม Power โดยทั้งสองปุ่มนั้นใช้โทนสีเดียวกับตัวเครื่อง และมีความแน่นหนาแข็งแรงดีมาก ไม่มีอาการหลวมคลอนให้เห็นแต่อย่างใด

สำหรับการตัดขอบของเครื่องตัวเครื่องจะเป็นแบบไดม่อนคัท โดยใช้โทนสีทองแวววาว ซึ่งดูโดดเด่นสะดุดตาและมีความพรีเมี่ยมอยู่ภายในตัวอีกด้วย

 

 

ช่องซิมการ์ดจะอยู่ทางฝั่างซ้ายมือของตัวเครื่อง โดยตัวถาดซิมการ์ดของ Nubia Z17 mini จะเป็นแบบ Hybrid slot ที่ต้องเลือกระหว่างการใช้งานพร้อมกัน 2 ซิมการ์ด หรือใช้ 1 ซิมร่วมกับ Micro SD Card นั่นเอง

สำหรับชนิดของรูปแบบซิมจะเป็น Nano SIM ทั้งซิม 1 และ 2 ครับ

 

 

Software & Feature 

Nubia Z17 mini เปิดตัวมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow และครอบทับด้วยยูสเซอร์อินเทอร์เฟซ Nubia UI 4.0 ที่ปรับแต่งมาได้ค่อนข้างดีเลยครับ ทั้งฟีเจอร์และความยืดหยุ่นในการใช้งาน โดย UI หลักจะมาในสไตล์ของรอมในยุคปัจจุบันทั่ว ๆ ไป ที่จะไม่มีหน้า App Drawer หรือจะบอกว่าเป็น iOS สไตล์ก็ย่อมได้ครับ

 

มาดูจุดเด่นและฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ Nubia Z17 mini กันต่อเลยนะครับ

ในด้านการเชื่อมต่อนั้นรองรับ VoLTE ซึ่งสามารถสนทนาได้ความคมชัดระดับ HD ส่วนด้านการปรับตั้งค่าก็ตามที่บอกไปครับ Z17 mini นั้นออกแบบ UX/UI ได้ค่อนข้างยืดหยุ่น ทั้งในเรื่องของการปรังตั้งค่าแสดงผลได้ตรงตามไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งาน รวมไปถึงฟีเจอร์ที่เกี่ยวกับเสียง โดยมีระบบเสียง DTS มาช่วยเพิ่มอรรถรสในการใช้งานด้านเอนเตอร์เทน

 

FIT 2.0 (Frame interaction Technology) คีย์ไฮไลท์ที่ต้องบอกว่าเป็นพระเอกทางด้าน Software ซึ่งก็คือฟังก์ชั่น Edge Gesture นั่นเอง โดยมีคุณสมบัติดังนี้

● สามารถเลื่อนไปยังหน้าการแสดงผลอื่น ๆ ด้วยการแตะค้างตรงกลางของขอบแล้วรูดเข้าไปด้านใน
● รูดนิ้วขึ้น/ลงจากขอบจอ เพื่อสลับแอปพลิเคชั่นหรือเเปิดแอปตามที่เรากำหนดไว้
● ปัดที่ที่ขอบจอซ้ำ ๆ จะเป็นการปิดแอปพลิเคชั่นที่เราเปิดค้างเอาใว้และเคลียร์แรมเพิ่มความเร็วให้ตัวเครื่อง
● สามารถปรับความสว่างของหน้าจอด้วยการสไลด์นิ้วเตรงขอบหน้าจอทั้ง 2 ด้าน
● แตะที่ขอบจอด้านบน 2 ครั้ง จะเป็นการย้อนกลับ เหมือนการกด Back ของตัวเครื่อง

 

 

ส่วนฟีเจอร์อื่น ๆ ที่น่าสนใจก็ยังประกอบไปด้วยฟีเจอร์ทางด้าน Gedture ต่าง ๆ ทั้งแบบ Touch และ Motion ซึ่งส่วนใหญ่เราจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี อาทิเช่น การล็อคหน้าจอด้วยฝ่ามือ จับภาพด้วยการลากสามนิ้ว พลิกเพื่อปิดเสียง รับสายอัตโนมัติเมื่อแนบโทรศัพท์ไปที่หูเป็นต้น

ส่วนไฮไลท์อีกหนึ่งฟีเจอร์ก็คือ Multi Window หรือการแบ่งหน้าจอเป็น 2 หน้าต่างนั่นเองครับ ซึ่งสามารถเรียกใช้งานได้ง่ายด้วยการรูดนิ้วจากมุมล่างขึ้นไปยังด้านบนของจอ ซึ่งสะดวกรวดเร็วกว่าบางคู่แข่งในท้องตลาดที่มีฟีเจอร์ในลักษณ์เดียวกันเสียอีก แถมยังสามารถประยุกต์ใช้งานร่วมกับ Dual Instance ได้อย่างลงตัวอีกด้วย

 

 

 

Dual Instance สามารถใช้งานแอปพลิเคชั่น Social (ที่รองรับ) ได้พร้อม ๆ กันสองไอดี ภายในเครื่องเดียว ส่วน Super Screenshot จะเป็นการจับภาพหน้าจอแบบพิเศษ ที่มีฟังก์ชั่นอันหลากหลาย เช่นจับภาพหน้าจอแบบยาว ๆ, การจับหน้าจอแบบอิสระสามารถกำหนดรูปแบบได้หลากหลาย รวมไปถึงสามารถจับหน้าจอในรูปแบบของวีดีโอ นอกจากนี้เรายังสามารถตั้งค่าให้เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือทำหน้าที่เป็นปุ่มลัดในการเรียกใช้งาน Super Screenshot ได้อีกด้วยครับ

 

เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ รองรับได้สูงสุดที่ 5 ลายนิ้วมือ นอกจากการปลดล็อคหน้าจอที่เป็นฟีเจอร์หลักแล้ว ยังสามารถใช้งานเป็นปุ่มชัตเตอร์ และปุ่มลัดในการเรียกใช้งาน Super Screenshot ได้อีกด้วยครับ

 

ด้านการจัดสรรพลังงานของ Nubia Z17 mini นั้นทำได้ดีครับ โดยมาพร้อม NeoPower Technology มีโหมดการประหยัดพลังงานมาให้เลือกใช้ 2 รูปแบบ และสามารถเลือกการควบคุมได้อย่างยืดหยุ่น สำหรับคนที่อยากสัมผัสกับความแรงเต็มรูปแบบ สามารถเลือกไปที่โหมดทำงานเต็มประสิทธิภาพได้เลยครับ แต่แน่นอนว่าการสิ้นเปลืองพลังงานก็ย่อมสูงตามไปด้วยนะครับ

 

 

Entertainment & Multimedia

มี FM มาให้ใช้งานโดยเป็นแบบทศนิยม 1 จุด สำหรับภาครับสัญญาญอยู่ในเกณฑ์ที่ดีครับ เพียงแต่ฟีเจอร์ที่ให้มานั้นน้อยไปสักนิด โดยไม่สามารถบันทึกไว้ฟังแบบออฟไลน์ได้

 

Music Player อินเทอร์เฟซดูเรียบง่ายสะอาดตา ฟีเจอร์ที่ให้มาก็ครบครันเท่า ๆ ที่เครื่องเล่นเพลงควรจะมีมาให้ แต่ตัวเครื่องเล่นเพลงจะไม่มีโหมด Equalizer ในตัวนะครับ แต่เราสามารถเลือกใช้งานที่เมนู “คุณลักษณะพิเศษของเสียง” ตรงนี้จะเป็นการเปิดใช้ระบบเสียง DTS ของตัวเครื่องแทนครับ

 

รีวิว Nubia Z17 mini Software 9

รีวิว Nubia Z17 mini Software 10

รีวิว Nubia Z17 mini Software 8

Video Player ของ Nubia Z17 mini มีฟีเจอร์บางส่วนคล้าย ๆ กับแอพยอดนิยมอย่าง MX Player เช่นการปัดบนหน้าจอเพื่อ backward / forward, สไลด์เพื่อปรับระดับเสียง , เล่นต่อจากจุดที่เล่นค้างไว้เป็นตน และยังสามารถเล่นเป็นหน้าต่างป็อพอัพบนจอแสดงผลในหน้าอื่น ๆ ได้อีกด้วย

 

รีวิว Nubia Z17 mini Benchmarks 5

รีวิว Nubia Z17 mini Benchmarks 6

ด้านการเล่นเกม ด้วยสเปคที่ให้มาของ Nubia Z17 mini นั้นหายห่วงครับ สามารถเล่นเกมได้อย่างสมูทลื่นไหล แถมองค์ประกอบในภาพรวมก็ยังดีอีกด้วย ทั้งจอแสดงผลที่มีความคมชัดในระดับ Full HD และลำโพงหลักของตัวเครื่องก็ให้เสียงที่ดีเช่นกัน

 

 

Benchmarks & Performance

 

 

ตัวชิปเซ็ตรุ่นใหม่ในตระกูล 65x ต้องบอกว่ามีพัฒนาการที่ดีขึ้นกว่าเดิม ทั้งความเร็วและการจัดสรรพลังงาน ฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจที่ผลคะแนนที่ได้นั้นทิ้งห่าง 62x ไปไกล การใช้งานในภาพรวมนั้นสมูทลื่นไหล ไม่มีอาการสะดุดติดขัดให้เห็น สำหรับคุณสมบัติทางด้าน Hardware ของ Nubia Z17 mini ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีครับ ทั้งรองรับมัลติทัชได้ 10 จุด พวกเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ก็ให้มาเกือบครบถ้วน ส่วนภาครับสัญญาณ GPS ไม่ถึงกับเด่น แต่ก็ไม่แย่แต่อย่างใดครับ 

 

 

Camera & Sample

จุดเด่นของ Nubia Z17 mini ก็คือกล้องหลักด้านหลังแบบคู่ ความละเอียด 13 + 13 ล้านพิกเซล,(13MP RGB imx258 RGB sensor+imx258 MONO sensor ) กระจกเลนส์ Sapphire ป้องกันรอยขีดข่วน, ค่ารูรับแสง f/2.2, ระบบโฟกัส phase detection และระบบกันสั่นแบบ Electronic anti shake

 

เมนูการตั้งค่า และโหมดการถ่ายที่เป็นมาตรฐานเริ่มต้น จะประกอบไปด้วย Camera-Family , Pro, Photo, Video และ Portrait

 

รีวิว Nubia Z17 mini Camera 5

อินเทอร์เฟซกล้องใช้งานง่ายและให้ความคล่องตัวที่ดีมาก และมี  Camera-Family หรือโหมดถ่ายพิเศษมาให้ใช้งานเพียบ ทั้งโหมดขาวดำ, ถ่ายดวงดาว, ปรับรูรับแสงแบบ Electronic, สโลโมชั่น, วาดลำแสง ฯลฯ

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ที่อยู่ในส่วนของการตั้งค่าต่างหาก เช่นการใส่ลายน้ำลงในรูปภาพ การลดสัญญาณรบกวนของภาพ (Intelligent noise reduction) โหมดวีดีโอคอลแบบบิวตี้  ซูมแบบสูญเสียรายละเอียดน้อย และ Refocus ที่สามารถเลือกจุดโฟกัสหลังการถ่ายได้เป็นต้น มาถึงตรงนี้ก็คงต้องบอกว่าโหมดการถ่ายและฟีเจอร์ทางด้านกล้องของ Nubia Z17 mini นั้นมีความหลากหลายมาก ๆ สมกับที่ชูจุดขายเรื่องกล้องจริง ๆ เลยครับ

 

ในโหมด Portrait นั้นสามารถปรับค่ารูรับแสงหรือจะบอกว่าเป็นการปรับโบเก้ก็ได้เช่นกันครับ โดยผู้ใช้งานสามารถปรับค่ารูรับแสงได้กว้างสุดถึง f/1.0 และแคบสุดที่ f/16 ส่วนกล้องหน้า เมื่อใช้งานในโหมด Portrait จะมีบิวตี้โหมดมาให้ใช้งานด้วย โดยสามารถปรับได้ 10 ระดับ ในส่วนของไฟแฟลชจะเป็นแบบ Screen Fill Light หรือการใช้แสงจากหน้าจอแสดงผลนั่นเอง

 

เทียบโหมด Normal และโหมด Portrait สำหรับการละลายฉากหลักนั้นก็ขึ้นอยู่ระยะห่างของซับเจ็คกับฉากหลังด้วยนะครับ ถ้าตัวฉากหลังโล่ง ๆ ก็จะละลายได้เป็นค่อนข้างธรรมชาติ ตรงนี้เป็นถือว่าเรื่องปรกติครับ เพราะหลักการจริง ๆ นั้นใช้ Software ในการประมวลผลนั่นเอง

 

 

โหมด Portrait ที่ปรับค่ารูรับแสงได้ตามต้องการครับ อยากละลายมากน้อย หรืออยากให้ชัดทั้งภาพก็เลือกปรับได้ตามความชอบใจ

 

จากนี้มาดูรูปที่ได้จากกล้อง Nubia Z17 mini กันต่อได้เลย โดยผมจะใช้งานในโหมด Auto เป็นส่วนใหญ่นะครับ

Crop 100% จากรูปบน จะเห็นได้ว่าความคมชัดของ Nubia Z17 mini นั้นโดดเด่นมาก ๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ทดสอบในที่แสงน้อยและเปรียบเทียบการเปิดใช้งานแฟลช

 

Normal mode

 

HDR mode

 

 

Macro ถ่ายได้ใกล้สุดก็ประมาณนี้ครับ (ราว ๆ 10 ซ.ม.)

 

 

โหมด LightDraw หรือโหมดวาดลำแสง ใครไม่ถนัดโหมดโปรที่ต้องกำหนดค่าสปีดชัตเตอร์เอง ก็สามารถใช้งานโหมด LightDraw แทนได้เลยครับ

 

โหมด mono ขาวดำ ที่ต้องบอกว่าโดดเด่นมาก ๆ เพราะตัวเซ็นเซอร์กล้องคู่ของ Nubia Z17 mini จะมีเซ็นเซอร์หนึ่งตัวที่เป็น MONO sensor นั่นเองครับ

 

 

Time Shuttle เป็นอีกหนึ่งโหมดที่ช่วยสร้างสรรให้ภาพดูโดดเด่นสะดุดตา เหมาะกับการเน้นไปที่ซับเจ็คหรือดีเทลที่เราอยากให้เด่นกว่าองค์ประกอบอื่น ๆ

 

มาทดสอบกล้องหน้ากันต่อ

 

 

กล้องหน้าให้ความละเอียดมาถึง 16 ล้านพิกเซล คุณภาพต้องบอกว่าดีในระดับหนึ่งครับ แต่โทนของภาพจะมีการปรับแต่งมาเบื้องต้นคือออกจะเนียน ๆ ไปเล็กน้อย ส่วนโหมดบิวตี้ปรับได้ 10 ระดับ แต่ถ้าเทียบกับแบรนด์เจ้าตลาดแล้วยังคงเป็นรองอยู่บ้าง การบ้านที่ทาง Nubia ต้องกลับไปทำก็คือการปรับปรุงเรื่อง Software อีกนิด เพราะตัว Hardware นั้นสู้ได้สบาย ๆ อยู่แล้วครับ

 

 

ปิดท้ายกันไปด้วยการทดสอบบันทึกวีดีโอความละเอียด 4K ครับ

 

สรุป Nubia Z17 mini

เป็นรุ่นที่ 2 ที่มาพร้อมกล้องคู่อันโดดเด่น ในด้านดีไซน์  Z17 mini เป็นรุ่นที่ออกแบบได้สวยงามลงตัว ทั้งรูปทรงและโทนสีที่นำมาใช้ สำหรับสเปคที่ให้มาก็ต้องบอกว่าครบครันในราคาจับต้องได้ เรื่องการใช้งานหายห่วงสำหรับยุคนี้ครับ ด้วยชิปเซ็ตตัวใหม่ Snapdragon 652 ซึ่งพัฒนาการที่ดีขึ้นกว่าเดิม ทั้งความเร็วและการจัดสรรพลังงาน การเชื่อมต่อก็ครบครัน ให้มาทั้ง NFC และ Wifi แบบ dual-band ซึ่งยุคนี้มีผลต่อการใช้งานที่ค่อนข้างชัดเจนครับ อีกทั้งยังรองรับ VoLTE อีกด้วยนะ ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่เข้ามามีบทบาทในยุค 4G เฟื่องฟู

สำหรับด้านฟีเจอร์ที่มาพร้อมกับ Nubia Z17 mini ก็โดดเด่นไม่แพ้สเปคทางด้าน Hardware เลยครับ โดยมีเทคโนโลยี FiT 2.0 ซึ่งประยุกต์การสั่งงานผ่านขอบจอของตัวเครื่อง และเทคโนโลยี NeoPower Technology ที่จัดสรรด้านพลังงานได้อย่างยืดหยุ่น รวมไปถึงฟีเจอร์ปลีกย่อยอีกมากมาย ทั้งการแบ่งหน้าจอเป็น 2 หน้าต่าง การจับภาพหน้าจอแบบพิเศษ หรือ Dual Instance ที่สามารถใช้งานแอปพลิเคชั่น Social (ที่รองรับ) ได้พร้อม ๆ กันสองไอดี ฯลฯ ซึ่งในภาพรวมต้องบอกเลบว่าค่าย Nubia นั้นพัฒนา Software ได้โดดเด่นและครบเครื่องจริงๆ  ครับ

ส่วนเรื่องกล้องคู่อันเป็นจุดขาย หากประทับใจจาก M2 มาแล้ว https://goo.gl/VjXd5r   Z17 mini ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเช่นกัน โดยคุณสมบัตินั้นเหมือนกับ M2 ทุกประการเลยครับ ทั้งสเปคทางด้าน Hardware ที่มาพร้อมกล้องเลนส์คู่ที่ใช้ RGB sensor + MONO sensor และโหมดการถ่ายที่หลากหลาย ตอบโจทย์ทุกการใช้งานไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้งานเริ่มต้นหรือมือโปรก็สามารถสนุกและมีความสุขไปกับการถ่ายรูปด้วย Nubia Z17 mini อย่างแน่นอนครับ

สุดท้าย สิ่งที่จะต้องพิจารณาก็คือ อุปกรณ์ภายในกล่องนั้นยังให้มาไม่ครบครันเท่าไหร่  ในส่วนของหูฟังเชื่อว่าผู้ใช้งานอาจไม่ซีเรียสมากนัก แต่หากมีฟิลม์กันรอยและเคสมาให้ด้วยจะดีมาก ๆ เพราะด้วยตัวของแบรนด์เองนั้นยังเพิ่งเริ่มทำตลาดในบ้านเรา พวกอุปกรณ์เสริมเหล่านี้จึงไม่แพร่หลายมากนัก ซึ่งถ้าปรับปรุงในจุดนี้ เชื่อว่าจะได้ใจแฟน ๆ ชาวไทยไปแบบเต็ม ๆ เลยครับ

สำหรับเพื่อนๆ  ที่สนใจ  Nubia Z17 mini สามารถไปสัมผัสตัวจริงกันได้ที่ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในงาน Thailand Mobile Expo 2017 วันที่ 18-21 พ.ค ศกนี้ครับ

บทความนี้เป็นบทความ Advertorial

 



ถูกใจบทความนี้  3