ชมแกะกล่องฉบับวีดีโอกันไปแล้ว https://goo.gl/7FIV6Q วันนี้มารับชมกันต่อกับ Full Review ของ Redmi Note 4X กันต่อครับ สำหรับใครที่มองหาสมาร์ทโฟนแบตอึด ๆ และสเปคคุ้มค่าต่อราคาแล้วละก็ ไม่ควรมองข้าม Redmi Note 4X กันนะครับ
Xiaomi Redmi Note 4X Specifications
● ระบบปฏิบัติการ: Android OS, v6.0.1 (Marshmallow) ครอบทับด้วย MIUI 8.1
● จอแสดงผล: ชนิด IPS ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 1920 pixels (~401 ppi pixel density) กระจกโค้ง 2.5D
● หน่วยประมวลผล: Qualcomm MSM8953 Snapdragon 625 Octa-core 2.0 GHz Cortex-A53
● หน่วยประมวลผลกราฟฟิค: Adreno 506
● หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง: 32/64GB และรองรับหน่วยความจำภายนอก MicroSD card ได้สูงสุด 256GB
● แรม: 3/4GB
● การเชื่อมต่อ: 2G: GSM B2/B3/B5/B8
●3G: WCDMA B1/B2/B5/B8
●4G LTE: FDD-LTE B1/B3/B5/B7/B8 TD-LTEB38/B39/B40/B41 ( 2555-2655MHz )
● รองรับการใช้งานในระบบ 2 ซิมการ์ด แบบ Hybrid SIM Slot, 1 Micro SIM + 1 Nano SIM or 1 microSD Card
● การเชื่อมต่อ: Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/, Bluetooth V. 4.2, FM radio,
● กล้องหลักด้านหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล Sony IMX258 Exmor RS, ค่ารูรับแสง f/2.0 แฟลช dual-LED (dual tone) ระบบโฟกัส phase detection autofocus, พิกเซลไซส์ 1.12 µm pixel size,
● กล้องด้านหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.0, Samsung S5K3L8 (ISOCELL)
● ขนาดตัวเครื่อง: 151 x 76 x 8.5 มิลลิเมตร
● น้ำหนัก: 165 กรัม
● แบตเตอรี่: Lithium-polymer 4100 mAh
● สีที่มีวางจำหน่าย: Gray, Gold, Black, Pink
ราคาวางจำหน่าย $169.99 (ประมาณ 5,800 บาท)
หากเพื่อน ๆ สนใจคลิ้กที่ลิงค์นี้ครับ>>> https://goo.gl/di3pXb
Packaging & Accessories
ตัวกล่องมีขนาดกะทัดรัดและมาในสไตล์เรียบ ๆ ด้านหน้าพิมพ์ชื่อรุ่น 4X ส่วนด้านหลังจะมีการแปะสเปค(ภาษาจีน)มาให้อ่านเบื้องต้น
สำหรับอุปกรณ์ภายในกล่องของ Xiaomi Redmi Note 4X ประกอบไปด้วย ใบรับประกันสินค้า (ของประเทศจีน) อแดปเตอร์ชาร์จ Output 2A และสาย Micro USB
Design & Hardware
Xiaomi Redmi Note 4X มาพร้อมดีไซน์แบบ Full Metal Body ตัววัสดุหลักจะเป็นโลหะผสานด้วยกระจกโค้ง 2.5D สำหรับงานออกแบบของ Redmi Note 4X จะเห็นว่ามีหลาย ๆ แบรนด์ที่ออกแบบดีไซน์ได้คล้ายคลึงกันมาก อาทิเช่น Lava A3 ที่ผมเพิ่งจะรีวิวไปเมื่อกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา https://goo.gl/3gospb
Build Quality ของ Redmi Note 4X แน่นหนาและเรียบร้อยแข็งแรงดีมากครับ ส่วน Handle การจับถือและพกพา ด้วยดีไซน์ที่เน้นความโค้งมนไม่มีเหลี่ยมสัน ทำให้การจับถือนั้นกระชับรับกับสรีระของฝ่ามือได้เป็นอย่างดี แต่ด้วยวัสดุหลักและพื้นผิวของตัวเครื่องก็อาจจะมีความลื่นอยู่บ้าง การใช้งานจริงควรจะใส่เคสป้องกันไว้จะเป็นการดีที่สุดครับ
สิ่งหนึ่งที่ผมชื่นชอบมากของ Xiaomi Redmi Note 4X ก็คือจอแสดงผลครับ เพราะให้สีสันที่สวยงามและมีการตอบสนองที่ดีมาก โดยมาพร้อมกับพาเนลจอชนิด IPS ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD และตัวกระจกเป็นแบบโค้ง 2.5D
กล้องหน้าให้ความละเอียดมาที่ 5 ล้านพิกเซล พร้อมค่ารูรับแสง f/2.0, ใช้เซ็นเซอร์จากค่าย Samsung ในรุ่น S5K3L8 (ISOCELL) คุณภาพถือว่าสอบผ่านเลยครับ สำหรับกล้องหน้าของ Xiaomi Redmi Note 4X
สำหรับ 3 ปุ่มนำทางจะเป็นแบบ Capacitive Buttons และมีไฟแบล็คไลท์มาให้ใช้งานกันด้วย
ด้านหลังมีการตัดเส้นสัญญาญเสาอากาศที่ขอบบนและล่าง ส่วนกล้องหลังของ Xiaomi Redmi Note 4X มาพร้อมความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX258 Exmor RS, ค่ารูรับแสง f/2.0 ไฟแฟลช dual-LED (dual tone) ระบบโฟกัส phase detection autofocus, พิกเซลไซส์ 1.12 µm pixel size, ซึ่งอย่างที่รู้กันว่าตระกูล Redmi นั้นไม่เด่นเรื่องกล้อง แต่สำหรับ Xiaomi Redmi Note 4X ต้องบอกว่าเป็นรุ่นที่เข้ามาลบจุดอ่อนตรงนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ
ด้านบนของตัวเครื่องประกอบไปด้วยช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. พอร์ตอินฟราเรด (Infrared IR) และไมค์ตัดเสียงรบกวนรวมถึงเป็นไมค์ที่ใช้ในการบันทึกเสียงอีกด้วย
ส่วนด้านล่างที่เห็นการออกแบบของช่องลำโพงเป็นแบบคู่ แต่จริง ๆ แล้วตัวลำเป็นแบบโมโน ไม่ใช่สเตอริโอนะครับ โดยฝั่งซ้ายจะเป็นไมค์สนทนา ส่วนฝั่งขวาจะเป็นลำโพงหลักของเครื่อง สำหรับพอร์ตการเชื่อมต่อยังคงเป็น Micro USB ยังไม่ได้เปลี่ยนมาเป็น Type-C ตามสมัยนิยม
ปุ่มเพิ่ม-ลดระดับเสียงจะอยู่ทางฝั่งขวามมือของตัวเครื่อง ส่วนทางด้านซ้ายจะเป็นที่อยู่ของช่องใส่ซิมการ์ด
ถาดซิมเป็นแบบ เป็นแบบ Hybrid slot ที่ต้องเลือกระหว่างการใช้งานพร้อมกัน 2 ซิมการ์ด หรือใช้ 1 ซิมร่วมกับ Micro SD Card นั่นเอง
สำหรับซิม 1 จะเป็น Micro SIM ส่วนซิม 2 จะใช้เป็น Nano SIM ครับ
Software & Feature
Xiaomi Redmi Note 4X ที่ส่งมาจาก gearbest จะลงรอม MIUI Global 8.1 Stable (Android 6.0) มาให้ โดยรองรับภาษาไทยและ Google Service เรียบร้อยตั้งแต่เปิดใช้งาน เรียกว่าใช้งานได้ปรกติ ๆ ไม่ต่างจากแอนดรอยด์โฟนทั่วไปที่วางจำหน่ายในบ้านเราครับ
จุดขายทางด้าน Software ของค่าย Xiaomi อย่างที่รู้กัน คือจะเน้นในเรื่อง user experience ฟีเจอร์โดยทั่วไปจึงไม่หวือหวาเหมือนแบรนด์ร่วมสัญชาติ แต่จะออกแบบในส่วนฟีเจอร์ที่คล้าย ๆ ทางฝั่ง Apple ที่เน้นการอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งานมากกว่าความ Gimmick และ Software ของ Xiaomi นั้นมีการปรับตั้งค่าได้ค่อนข้างละเอียดและยืดหยุ่นดีมากครับ
ในส่วนของฟีเจอร์ VoLTE ที่มาพร้อมกับ Xiaomi Redmi Note 4X ยังไม่สามารถใช้งานในประเทศไทยได้นะครับ ต้องรอการอัพเดตจากทางค่ายโอเปอรเรเตอร์ในบ้านเราเสียก่อน
ฟีเจอร์ที่เป็นไฮไลท์อย่าง Second space และ Dual apps จะมีหลักการทำงานเสมือนจำลองพื้นที่แบ่งเป็น 2 ส่วน คือสามารถใช้งานเพื่อแยกระหว่างความเป็นส่วนตัวกับการใช้งานทั่ว ไป รวมไปถึงสามารถใช้งานแอพพลิเคชั่นบางแอพได้หลายแอคเคาท์ในเครื่องเดียวกันเป็นต้น
สุดท้าย ฟีเจอร์ที่ผมชอบที่สุดของ Xiaomi Redmi Note 4X ก็คือ Mi Remote ครับ ซึ่งรองรับอุปกรณ์ได้หลากหลายดีไวซ์ และใช้งานได้ง่ายอีกด้วย ตอบโจทย์อุปกรณ์ในยุคไร้สายได้เป็นอย่างดีเลยครับ
Benchmarks & Performance
ตัวชิปเซ็ต Snapdragon 625 แม้จะเน้นด้านการจัดพลังงาน แต่ถ้าเทียบกับ Mediatek MT6750 ที่สมาร์ทโฟนระดับกลาง ๆ นิยมเลือกใช้ ตัว Snapdragon 625 นั้นก็แรงและลื่นไหลกว่าพอสมควร
สำหรับสเปคทางด้าน Hardware ที่ให้มาของ Xiaomi Redmi Note 4X ต้องบอกว่าคุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับสนนราคาค่าตัวครับ ส่วนจุดอ่อนเรื่อง GPS ของค่าย Xiaomi ในรุ่น Redmi Note 4X เท่าที่ได้ลองใช้ก็พบว่าไม่แย่อย่างที่คิดนะครับ เอาเป็นว่าดีกว่าในหลาย ๆ รุ่นของทางค่ายเลยครับ
สุดท้ายด้านการจัดสรรพลังงาน ตรงนี้ประทับใจมากครับ การจัดสรรพลังงานของ Xiaomi Redmi Note 4X นั้นทำได้ดีมาก ๆ ถึงแม้จะมาพร้อมกับแบตความจุเยอะ แต่ถ้า Software ปรับแต่งมาไม่ดีแบตก็ไหลเป็นสายน้ำได้เช่นกัน
ส่วนด้านเอนเตอร์เทน Xiaomi Redmi Note 4X ตอบโจทย์ได้ดีมากครับ รองรับการเล่นเกมได้อย่างสมูทลื่นไหล ไม่มีสะดุดติดขัดให้อึดอัดใจ
Camera & Sample
เมนูอินเทอร์เฟซกล้องของ Xiaomi Redmi Note 4X ค่อนข้างจะเรียบง่าย มีโหมดการถ่ายมาให้ใช้งานพอประมาณ การปรับตั้งค่ามีความยืดหยุด สามารถปรับได้ค่อนข้างละเอียดพอสมควรครับ
จากนี้มาดูคุณภาพกล้องหลังจาก Xiaomi Redmi Note 4X กันต่อได้เลยครับ
Normal Mode
HDR Mode
Flash Off
Flash On
Flash On
ทดสอบกล้องหน้ากันต่อครับ
กล้องหน้าคุณภาพค่อนข้างดีเลยครับ และมีโหมด Beautify มาให้ใช้งานด้วยนะ โดยแบ่งเป็น 2 โหมดคือ Smart ที่จะปรับบิวตี้แบบอัตโนมัติ 3 ระดับ ส่วน Pro จะปรับได้ละเอียดขึ้น ทั้งสกิลโทนและปรับหน้าให้เรียวลงได้ 10 ระดับ
สรุป Xiaomi Redmi Note 4X
ข้อดี
1. กล้องหน้า/หลังให้คุณภาพดี เป็นรุ่นที่มีกล้องดีที่สุดของซีรีย์ Redmi ณ ตอนนี้
2. รองรับ full netcom 3.0
3. เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือได้ไวและแม่นยำ
4. รองรับ WiFi 5G
5. วัสดุดี งานประกอบเรียบร้อยแข็งแรง สเปคคุ้มค่าต่อราคา
6. แบตเตอรี่สุดอึดน่าประทับใจ
สิ่งที่ต้องพิจารณา
1. ถาดซิมเป็นแบบไฮบริด
2. ยังไม่รองรับ VoLTE ในประเทศไทย
ก็คงจะฝากไว้แต่เพียงเท่านี้ สำหรับรีวิว Xiaomi Redmi Note 4X แล้วพบกันใหม่ในรีวิวทดสอบด้านเอนเตอร์เทนครับ
สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณที่ติดตามรับชมกันะครับ
You must be logged in to post a comment.