ผมบอกเลยว่าเป็นคนใช้ Fitbit มาก็นานพอสมควรถึงแม้ว่าจะไม่ได้จับทุกรุ่นก็ตาม เจ้าสายรัดข้อมือในสมัยแรกๆ ก็มีหลายแบรนด์ และ Fitbit เองก็เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่พิสูจน์แล้วว่า ดีจริง ถึงแม้ว่าจะมีข่าวคราวเรื่องแบตระเบิดบ้างอะไรบ้าง แต่ก็จากการใช้งานที่ผิดประเภทนั่นล่ะครับ ซึ่งตัวล่าสุด Fitbit Alta HR สายรัดข้อมือที่ฉลาดที่สุด จะฉลาดยังไงผมว่าคนเคยใช้งานอย่าง Fitbit alta รุ่นก่อนหน้านี้น่าจะประทับใจ และรุ่นนี้ Fitbit Alta HR ก็คือเวอร์ชั่นที่สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ แบบทั้งวันทั้งคืน 24 ชั่วโมงไม่มีหยุด และมีรายงานโดยละเอียด พร้อมทั้งแทรคการเคลื่อนไหวของร่างกายตลอดทั้งวันแบบอัตโนมัติ และจับได้ด้วยว่าเราออกกำลังกายอะไรอยู่ (SmartTrack) จะเก่งไปไหนเนี่ย?
Fitbit Alta HR ตอนนี้อยู่ที่ราคา 7,490 บาท ถามว่าแพงกว่าบรรดาสายรัดข้อมือสุดฉลาดในสมัยนี้ไหม ก็ต้องบอกว่าระดับนึงล่ะ แต่ความคุ้มค่า ในการใช้งานและฟีเจอร์ก็จัดเต็ม พร้อมทั้งความถูกต้องที่แม่นยำเรียกว่าใช้อ้างอิงได้เลย วันนี้พามาชมการใช้งานกันครับ
คุณสมบัติ
- ตรวจจับอัตราการเต้นหัวใจ ให้คุณได้รับรู้ตลอดเวลาที่คุณต้องการ
- นาฬิกาอัจฉริยะเพื่อผู้รักสุขภาพ ดีไซน์บางเบา เล็กพิเศษ ตัวสายทำจากยาง
- ตัวเรือนสามารถเปลี่ยนสายรัดได้ เพื่อแมทช์กับสไตล์การแต่งตัว
- ฟังก์ชั่นการทำงานทันสมัยช่วยตรวจจับการเคลื่อนไหวของร่างกายตลอดทั้งวัน
- ระบบแยกแยะและบันทึกประเภทกีฬาอย่างแม่นยำ (SmartTrack)
- มีโปรแกรม Reminder to move คอยเตือนผู้ใส่ให้ลุกขึ้นเคลื่อนไหวเมื่อนั่งหรืออยู่กับที่นานเกินไป
- ซิงค์ข้อมูลไร้สายกับ Smartphone, PC หรือ Mac เพื่อดูข้อมูลการใช้งาน
- หน้าจอ OLED ระบบเคาะหน้าจอ แจ้งสถานะการใช้งาน รายชื่อผู้โทรเข้า (เมื่อมีสายเรียกเข้า)
- เข้าสู่โหมดตรวจวัดการนอนหลับอัตโนมัติ
- ฟังก์ชั่นตั้งปลุกแบบสั่นเตือน
- ป้องกันฝนและละอองน้ำได้
- สายขนาด Large เหมาะสำหรับผู้ที่มีข้อมือขนาด 6.7 – 8.1 นิ้ว / 170 – 206 มิลลิเมตร
ข้อมูลทางเทคนิค
- เซนเซอร์ และส่วนประกอบ
- 3-axis accelerometers
- Vibration motor
- จอแสดงผล
- สั่งการผ่านการเคาะหน้าจอ
- OLED
- ระดับกันน้ำ
- เหงื่อ, ฝน, ละอองน้ำ
- ไม่ควรใส่ว่ายน้ำหรือใส่อาบน้ำ
- การดูแล
- เมื่อ Fitbit Alta HR เปียกชื้น ควรถอดสายรัดและเครื่อง แล้วเช็ดให้แห้งก่อนใช้งานต่อ
- แบตเตอรี่ และพลังงาน
- ลิเธียม โพลีเมอร์
- ใช้งานได้นาน 5 วัน
- ใช้เวลารีชาร์จแบตเตอรี่ประมาณ 1-2 ชั่วโมง
- เพื่อการใช้งานอย่างต่อเนื่อง ควรชาร์จในทุกๆ 2-4 วัน
- Syncing
- ใช้การสื่อสารผ่าน Bluetooth 4.0 ในเขตรัศมี 9 เมตร/30 ฟุต
- ต้องใช้การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตสำหรับการ Sync ข้อมูลข้ามอุปกรณ์ และสำรองข้อมูล
สำหรับ Fitbit Alta HR มีให้เลือกหลายสี และสีนึงที่ผมว่าคุณผู้หญิงชอบ ก็คือสีนี้ล่ะ เป็นสีม่วง หรือประมาณสีชมพูม่วงนั่นล่ะครับ แต่ภาษาที่เค้าใช้เรียกก็คือสี Fuchsia ก็นับว่าเป็นสีที่ใช้ดีเลยทีเดียว จริงๆ ผู้ชายก็ใส่ได้นะ ไม่ได้น่าเกลียดอะไร
หน้าจอการแสดงผลแบบ OLED ชัดเจนแม้ในที่แสงจ้า
ตัวบอดี้ เป็นสแตนเลสสตีล หรือโลหะอย่างดี เงางาม ใช้งานมาสักพักแล้ว ผมว่าก็เป็นรอยยากอยู่นะ ปกติผมไม่ค่อยระวังจะโดนโน่นนี่นั่นบ่อยๆ แต่นี่ใช้งานมาสักระยะ ก็แจ่มอยู่เลย
ด้านล่างเป็นเซ็นเซอร์แสดงสำหรับวัดอัตราการเต้นของหัวใจ และเราจะสังเกตเห็นคลิ้ป เป็นตัวล็อคสาย ปลดได้ง่ายๆ
ซึ่งปลดออกมาแบบนี้ครับ ปัญหาคือ เวลาใส่อย่ากลับข้างก็แล้วกัน จริงๆ ก็ใช้งานได้ กรณีที่เราใช้งานมือซ้ายหรือมือขวา ก็ปรับสายได้อยู่นะ สะดวกดี แน่นอนเลยว่าหากไม่ชอบสีนี้ ก็สามารถซื้อสายรัดเปลี่ยนสีตามที่ชอบได้เลย แต่ราคาก็เอาเรื่องอยู่ ผมแนะนำว่าให้เลือกสีที่ชอบตั้งแต่แรกเลยจะดีกว่า แต่ถ้ามีปัญหาอยากเปลี่ยนสายก็ทำได้ง่ายก็แล้วกัน เรียกว่าเป็นข้อดีอย่างนึงล่ะนะ
ส่วนสายเป็นวัสดุยางที่ผ่านการทดสอบมาอย่างดี ใส่แล้วไม่ระคายเคืองผิว เพราะบางทีวัสดุที่นำมาใช้เป็นสายรัดข้อมือราคาถูกๆ คุณภาพก็จะต่ำไปด้วย นี่แบบว่ามีดีไซน์อีกต่างหาก
จริงๆ แล้วเจ้าสายรัดข้อมือทั้งหลาย จุดหลักก็คือ ชิ้นนี้ล่ะครับ สายรัดเป็นเพียงใช้งานรัดข้อมือเท่านั้น แต่หัวใจสำคัญก็คือแท่งนี้
ดูด้านล่างกันชัดๆ อีกครั้ง เราจะเห็นคอนแทคหรือหน้าสัมผัส สำหรับชาร์จอยู่ด้วย ซึ่งสายชาร์จอันนี้ก็ห้ามหายนะ เพราะไม่เหมือนใคร แต่เรื่องแบตเตอรี่คือก็อึดพอสมควร ใช้งานได้ประมาณ 1 อาทิตย์ (ใช้งานทั่วๆ ไป) โดยไม่ต้องชาร์จเลย อันนี้สิแจ่มจริงๆ ส่วนใหญ่ที่เจอก็คือ ฟีเจอร์เพียบ แต่มาตายตรงแบตนี่ล่ะ อยู่ได้สามวันอะไรแบบนี้ ก็เรียกว่าน้อยไป แต่ว่า Fitbit Alta HR อยู่ได้ 5 วันเป็นอย่างต่ำสบายๆ
เวลาชาร์จก็ประมาณนี้ครับ มี dock เหมือนเป็นตัวคีบรัดเข้ากับ Fitbit Alta HR
ดูภาพรวมแล้วก็สาวยงามน่าใช้งาน คราวนี้ผมว่า มาดูฟีเจอร์กันบ้างครับ ซึ่งเจ้า Fitbit Alta HR มีการแทรคเรื่องการนอน ที่เป็นจุดเด่นและรีพอร์ทบนแอพที่แสดงผลนั้น ถือว่าละเอียดมาก ใช้ประโยชน์ได้ ยังมีเรื่องของการแทรคแอคทิวิตี้อีกด้วย เช่นการปั่น การเดิน การวิ่ง โดยที่เราไม่ต้องเข้าโหมดเลือกการออกกำลังกาย เจ้า Fitbit alta HR ฉลาดพอที่จะรู้ว่า ขณะนั้น เราทำแอคทิวิตี้อะไรอยู่ ซึ่งเค้าเรียกว่า SmartTrack ทำให้ผมแปลกใจมากเลย ปกติเคยใช้ Fitbit Surge อยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่มีฟีเจอร์ลักษณะนี้เลยล่ะ
โดยรวมแล้วความสวยงามก็กินขาดแล้วล่ะครับ ส่วนเรื่องการแทรคการใช้งานต่างๆ ต้องมาใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชั่นบน Smartphone ว่าแล้วก็มาดูกันต่อเลย
fitbit มีแอพพลิเคชั่น ที่บอกรายละเอียดและเก็บรายละเอียดเราไว้ยาวๆ ได้เลย
การตั้งค่าใช้งานครั้งแรกับ Fitbit Alta HR ไม่ยากครับ ลงแอพบน App Store สำหรับ iOS หรือ Google Play Store ค้นหาได้ตามปกติ รวมถึงใครใช้งาน Windows Phone อยู่ก็ใช้งานได้ด้วยนะครับ โดยการเพิ่มอุปกรณ์ ใหม่อย่าง Fitbit Alta HR ให้เลือกไปที่ Account กดที่ +Set Up a Device เพื่อเพิ่มอุปกรณ์ใหม่ เลือกรุ่นให้ตรงซึ่งในที่นี้ก็คือ Fitbit Alta HR และกดเชื่อมต่อตามขั้นตอนที่แนะนำเลยครับ ง่ายสุดๆ
โดยขั้นตอนก็ประมาณนี้ ไหนๆ แล้วก็จับภาพมาให้ดูเลยละกัน
ซึ่ง เมื่อเชื่อมต่อได้ จะมีให้กดยืนยันรหัส โดยให้เราดูบน Fitbit Alta HR ครับ จะมีรหัสขึ้นมาแล้วให้ใส่บนแอพของเรา
เมื่อเรียบร้อยแล้ว จะเข้าสู่ตั้งค่าการใช้งาน หลักๆ ที่สำคัญก็คือข้อมือที่เราใส่ ด้านซ้ายหรือด้านขวา และหน้าปัทม์ที่อยากใช้งาน มีให้เลือกหลายแบบเสร็จแล้วก็ใช้งานได้ทันที
ตัวแอพหลัก คือมีบอกรายละเอียดเอาไว้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการก้าวเดิน ระยะทางที่เดิน การขึ้นบันไดกี่ชั้น แคลลอรี่ที่เผาผลาญในแต่ละวัน และเวลาที่แอคทีฟทั้งหมดเท่าไหร่ รวมถึงเวลานอนด้วย ยังไม่หมดครับ หากใครมีอุปกรณ์อื่นเช่นเครื่องชั่งน้ำหนักสุดฉลาด ก็จะโชว์เรื่องน้ำหนัก หรือไม่เราก็ใส่รายละเอียดเข้าไปเองก็ได้ เหมือนกับข้อมูลของอาหารที่กิน และน้ำที่ดื่มในแต่ละวัน พยายามใส่ให้ได้มากที่สุดก็ดี ส่วนผมไม่ได้ใส่เลย ใส่แต่ช่วงแรกๆ หลังๆ ขี้เกียจ ฮาา
โดยตัวแอพมีฟีเจอร์ต่างๆ ที่มีประโยชน์ด้วยครับ คือการแข่งขันกับเพื่อนๆ ที่ใช้ Fitbit ด้วยกัน จำนวนก้าวในแต่ละวันหรือแต่ละสัปดาห์ใครมากกว่ากัน อย่างที่รู้ว่าเราควรเดินหมื่นก้าวต่อวัน เพื่อสุขภาพที่ดีนะ และยังมีข้อมูลอีกหลายอย่างรวมถึงคอร์สเทรนนิ่งที่มีกำหนดด้วยว่าทำอะไรเท่าไหร่ ใครใช้งานล่ะก็แอดผมมาได้นะ
ส่วนการตั้งค่าต่างๆ ยังคงตั้งใช้งานได้ภายหลัง เช่นข้อมือที่ใส่ หน้าปัทม์แบบต่างๆ เผื่อจะเบื่อซะก่อน
ตั้งให้เตือนขณะที่เรานั่งทำงานเกินกว่าที่กำหนดก็ได้ ตั้งเป้าหมายจำนวนก้าวแต่ละวันได้อีกด้วย หากใครต้องการตั้งค่าเกิน 10,000 ก้าวก็ได้นะ เผื่อจะเดินวันละ 20,000 ก้าว รวมถึงสามารถตั้งปลุกได้และปรับการแสดงผลบนหน้าจอได้ด้วย
คราวนี้มาดูเรื่องรายงานกันบ้างดีกว่า รายงานที่เก็บเอาไว้มีครบทุกการใช้งานที่เราอยากรู้ ไม่ว่าจะเป็นการเดิน จำนวนก้าว การนอนหลับ การออกกำลังกายต่างๆ โดยที่ไม่ต้องกดจับเวลาใดๆ ทั้งสิ้น เรียกว่าเป็น Smart Tracker อย่างแท้จริง ฉลาดมากเลยครับเจ้า Fitbit Alta HR รุ่นนี้
รายงานแรกคือ จำนวนก้าวเดิน จะเห็นว่ามีจำนวนการเดินเฉลี่ยต่อวันไม่เท่ากัน เนื่องจากเป็นวันทำงานบ้าง วันหยุดบ้าง บางวันไปทำงานก็จริงแต่อาจจะนั่งอยู่ออฟฟิศไม่ค่อยได้เดินไปที่ไหน ซึ่งก็ไม่ค่อยดีนัก อย่างที่บอกล่ะครับว่าควรจะเดินวันละ 10,000 ก้าวเป็นอย่างน้อย
ซึ่งในรายงานมีบอกรายละเอียดว่าชั่วโมงไหน หรือชวงเวลาไหนที่เราแอคทีฟ หรือมีการก้าวเดินอยู่บ้างและสามารถเก็บสถิติเอาไว้เป็นรายเดือนและรายปีก็ยังไหว
มาดูเรื่องจำนวนชั่วโมงที่แอคทีฟต่อวันบ้าง แอคทีฟหมายถึงมาความเคลื่อนไหวในแต่ละวัน ซึงปกติแล้วก็ควรจะมีการเคลื่อนไหวในช่วงเวลาปกติ 10 ชั่วโมง ถ้าอยู่นิ่งๆ มากเกินไป แสดงว่าเราไม่ค่อยออกกำลังกายหรือไม่มีความเคลื่อนไหว จริงๆ อีกส่วนนึงคือต้องมีการยืดเส้นยืดสายบ้างในแต่ละชั่วโมง ไม่ควรนั่งทำงานยาวๆ เพราะจะทำให้เป็นโรคออฟฟิศซินโดรมได้
การออกกำลังกาย ที่ Fitbit Alta HR ช่วยแทรคการออกกำลังกายชนิดต่างๆ ได้โดยอัตโนมัติ ไม่ต้องกดเลือกกีฬาแต่อย่างใด อันนี้ผมถือว่าฉลาดและเป็นฟีเจอร์ที่ดีมาก เหมาะสำหรับการออกกำลังกายเบื้องต้นที่มีรายละเอียดพอให้เรารู้ว่า หัวใจเต้นอยู่ที่โซนไหน เวลาการออกกำลังกายเท่าไหร่ ระหว่างออกกำลังกายก็ดูอัตราการเต้นของหัวใจบนข้อมือได้ด้วย คือคุมโซนได้ แต่อาจจะไมีมีฟีเจอร์เหมือนพวก Sport SmartWatch นะครับ
เรื่องการนอนหลับพักผ่อน เป็นสิ่งสำคัญในชีวิตคนเรา ผมเคยนึกอยู่เลยว่า ทำไมต้องนอนด้วย ในเมื่อเรายังมีแรงลุยอยู่ แต่คำตอบก็คือต้องให้ร่างกายพักผ่อน ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอนั่นเอง จริงๆ ก็เป็นส่วนหนึ่งของการออกกำลังกายที่ดีด้วยนะ หากนอนไม่พอ จะทำให้เกิดผลเสีย มากวก่าผลดี เช่นเราเคยเห็นข่าวว่าปั่นจักรยานหรือวิ่งระยะไกล และเกิดหัวใจวายเฉียบพลันน่ะครับ ซึ่งมีรายงานละเอียดเรื่องหลับลึก หลับตื่น ช่วงไหนเป็นยังไงบ้าง เพื่อเป็นข้อมูลในการปรับท่านอน สถานที่นอน อาจจะช่วยให้หลับได้ลึกขึ้นก็ได้
สุดท้ายคือ การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ หรือ Heart Rate นั่นเอง ซึ่ง Fibit Alta HR วัดได้ทั้งวัน ไม่เว้นแม้กระทั่งเวลานอน จะได้รู้ว่าหัวใจเราเต้นเฉลียอยู่ที่เท่าไหร่ ฟิตมากน้อยแค่ไหน
สามารถดูรายละเอียดในแต่ละวันได้ เราจะรู้เลยว่าช่วยพักหัวใจเราเต้นอยู่ที่เท่าไหร่ และช่วงระหว่างวันอยู่ที่เท่าไหร่ สามารถนำไปเปรียบเทียบกับการออกกำลังกายในช่วงเวลานั้นๆ ได้ด้วย
ซึ่งผมเองใช้ Fitbit Surge มาก่อนหน้านี้ จะเห็นว่ารายงานเก็บเอาไว้ได้นานมาก นี่ก็สามารถดย้อนหลังไปได้ 3 เดือนเลยทีเดียว
สรุปส่งท้ายกับการใช้งาน Fitbit Alta HR
ผมคงไม่ต้องบอกอะไรมาก กับ Fitbit Alta HR ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดที่ออกมา ดีไซน์สวยงาม เหมาะกับการใส่เป็นลักษณะแฟชั่น มีสีสันและลวดลายสวยงาม น้ำหนักเบา มีหน้าจอแสดงผลที่ใช้กลางแสงแดดก็มองเห็นได้ชัด มีความสามารถเป็น activity tracker ครบถ้วน แถมยังมากกว่านั้นด้วย SmartTrack! ซึ่งแทรคการออกกำลังกายและจำแนกประเภทการออกกำลังกายได้เลยโดยที่เราไม่ต้องกดเริ่ม หรือจบการออกกำลังกายแต่อย่างใด อันนี้คือสะดวกและประทับใจในความฉลาดมากๆ เลยครับ รายงานก็มีการปรับปรุงเรื่องการนอนเพิ่มขึ้น ดีกว่ารุ่นก่อนๆ ที่ยังไม่มีรายละเอียดมากเท่านี้ โดยรวมแล้วนับเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าใช้งาน มีติดข้อมือเอาไว้ไม่เสียหลายแน่นอน ทั้งมือเก่าและมือใหม่ ผมใส่ทั้ง Sport Smartwatch และ Fitibt Alta HR คู่กันเลยครับ เอาไว้รีเช็ค อัตราการเต้นของหัวใจระหว่างกัน ใส่บนแขนคนละข้าง สุดท้ายคือแบตเตอรี่อยู่ได้ประมาณอาทิตย์นึงเลยนะ อันนี้ใช้งานแบบเต็มๆ ถือว่าอึดใช้ได้เลยล่ะครับ ใครสนใจก็หาซื้อกันได้ทั้งตามร้านค้าชั้นนำหรือที่ออนไลน์สโตร์ ราคาอยู่ที่ 7,490 บาท หรืออาจจะหาได้ถูกกว่านี้นะครับ ใครซื้อมาใช้งานแล้ว มาแชร์และพูดคุยกันบ้างนะ
You must be logged in to post a comment.