Moto G5 Plus สมาร์ทโฟนตัวแรงราคาไม่ถึงหมื่นที่ทำออกมาได้ตรงคอนเซปท์ ครบ จบ ในเครื่องเดียว ด้วยสเปคตัวเครื่องที่แรงมากพอสำหรับการใช้งานทั้งทั่วไปหรือเล่นเกมส์ก็ตาม และยังได้ใช้ CPU ที่ปรับปรุงมาแล้วทำให้แบตเตอรี่นั้นอึดขึ้นและตัวเครื่องร้อนน้อยลงด้วย แน่นอนนอกจากประสิทธิภาพการใช้งานแล้วยังคงมีกล้องแบบ Dual Pixel ที่มีค่ารูรับแสงกว้างถึง 1.7 สู้ได้แม้จะเจอสถานการณ์ที่แสงน้อยก็ตาม และยังรองรับการใช้งานแบบ 2 ซิมพร้อม Micro SD Card ได้เลยไม่ต้องเลือก อื้อหือ จัดเต็มขนาดนี้คงอยากรู้ละใช่มั้ยว่าโม้รึเปล่า ลองไปอ่านกันต่อดีกว่า
Moto G5 Plus Specs:
– หน้าจอ IPS LCD ขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียด Full HD
– Chipset Snapdragon 625 Octa-Core 2.0GHz
– GPU Adreno 506
– Ram 4GB
– Internal Storage 32GB
– Micro SD Card Storage สูงสุด 256GB
– กล้องหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง F1.7, Dual Pixel, LED Flash
– กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง F2.2
– รองรับการใช้งาน 2 Sim (Nano Sim) พร้อม Micro SD Card
– Dual Standby 4G/3G
– 4G LTE Band 1(2100), 3(1800), 5(850), 7(2600), 8(900), 19(800), 20(800), 28(700), 38(2600), 40(2300), 41(2500)
– LTE Cat 6
– Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, dual-band, WiFi Direct, hotspot
– Bluetooth 4.2
– Fingerprint Scanner
– FM Radio
– พอร์ทชาร์จแบบ Micro USB
– แบตเตอรี่ขนาด 3,000mAh
– Color: Lunar Grey, Fine Gold
– Android 7.0 Nougat
– ราคา 9,990 บาท
แกะกล่อง
ตัวกล่องของ Moto G5 Plus ถูกครอบอยู่ชั้นนึงด้วยสีแดงอย่างที่เห็นนี้เพราะมีการจับมือกับทาง Truemove H ในการซื้อเครื่องพร้อมติดสัญญา จะเห็นได้จากโลโก้ด้านล่างที่มีทั้งสองแบรนด์ติดอยู่
ด้านนึงบอกว่าเป็น Moto/True อีกด้านจึงบอกชื่อรุ่น
ด้านล่างกล่องมีการบอก IMEI พร้อม Serial Number ตัวเครื่อง
ด้านหลังของชั้นแรกมีการบอกสเปคตัวเครื่องที่ทำให้พอรู้ว่ามันแรงประมาณไหน
อันนี้เป็นกล่องจริงๆ ของมันก็ว่าได้มั้ง จะเป็นกล่องสีสันสดใสเขียวๆ เหลืองๆ พร้อมภาษาจีนหรือไต้หวันนี่แหละ (คิดว่าจีนนะ)
เปิดกล่องมาต้องเจอตัวเครื่อง G5 Plus พร้อมสติกเกอร์แปะนอนรออยู่แบบนี้นะสำหรับคนไปซื้อเครื่องใหม่
ยกตัวเครื่องขึ้นมาก็จะเจออุปกรณ์ที่ให้มาครบตามเคย ไม่มีการตัดอะไรออก
อุปกรณ์ในกล่องมีดังนี้
1.ตัวเครื่อง G5 Plus
2.Adapter แบบ Turbo Charge (Quick Charge 2.0)
3.สาย Micro USB
4.หูฟัง
5.เข็มจิ้มซิม
6.คู่มือ
หูฟังเป็นแบบธรรมดา ไม่ใช่ in-ears
G5 Plus จะมีด้วยกันสองสีคือสีเทาดำ (Lunar Grey) และสีทอง (Fine Gold) ลองดูว่าชอบสีไหนเพราะว่าทางเราจัดเทียบให้เห็นกันจะๆ สองสีเลย
เหนือหน้าจอตัวเครื่องจะมีลำโพงสำหรับสนทนา และยังใช้เป็นลำโพงตัวเครื่องเพื่อเปิดเพลงฟังหรือเวลามีเสียงเรียกเข้าอีกด้วย ใช้ตัวเดียวจบไม่ต้องสร้างลำโพงเพิ่มอีกช่อง ทางขวาจะเป็นกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
ด้านล่างหน้าจอจะมีปุ่มที่ฝังเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ พร้อมกันนี้สามารถใช้เป็นปุ่มคำสั่งแทนปุ่มสัมผัสบนหน้าจอได้ด้วย
ด้านหลังตัวเครื่องทั้งสองสี
ตรงกลางด้านหลังมีกล้องนูนขึ้นมา คือจริงๆ จะเรียกกล้องนูนก็ไม่ถูกนะเหมือนทำเป็นฐานให้นูนขึ้นมาสำหรับกล้องเลยมากกว่า พร้อมกันนี้ด้านหลังจะมีไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวนเอาไว้ด้วย
ด้านบนตัวเครื่องจะมีรูให้จิ้มถาดใส่ซิมออกมา ซึ่งถาดซิมของรุ่นนี้มีความคุ้มค่ามาก
คือเป็นถาดซิมแบบรองรับ 2 ซิม (Nano Sim) และเมื่อกลับด้านก็จะเป็นที่ใส่ Micro SD Card ด้วย พูดได้ว่ามันไม่ต้องมานั่งเลือกเลยว่าจะใช้งาน 2 ซิมหรือ 1 ซิมพร้อม Micro SD Card แต่ว่าใช้มันได้ทั้ง 2 ซิมและ Micro SD Card เลย
ด้านซ้ายตัวเครื่องโล่งโจ้งไร้ปุ่ม
ด้านขวาตัวเครื่องจะเป็นศูนย์รวมปุ่มกดทั้งหมด ทั้งปุ่มเพิ่มลดเสียงและพาวเวอร์
ด้านล่างตัวเครื่องมีช่องเสียบสายชาร์จ/ซิงค์ แบบ Micro USB และมีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.
ตัวเครื่องหน้าจอขนาด 5.2 นิ้ว ฉะนั้นการจับถือใช้งานมือเดียวนี่ทำได้สบายมาก
Software
Motorola ยังคงมาในคอนเซปท์เดิมคือในรูปแบบ Pure Android คือในเครื่องแทบจะไม่มี Bloatware ติดเครื่องมาเลย กระทั่งตัว Launcher เองก็ละม้ายคล้าย Google Launcher ซึ่งมีการแบ่งหน้า Home และ App Drawer ไว้โดยสามารถเข้าสู่หน้า App Drawer ได้โดยการลากจากด้านล่างขึ้นด้านบน
Notification Bar แบบเดิมๆ ลากลงมาจะเจอการแจ้งเตือนทั้งหลาย และหากลากอีกครั้งหนึ่งจะเป็นการโชว์ทางลัดทั้งหลายในการเปิดปิด Wi-Fi, Mobile Data ฯลฯ ซึ่งตรงนี้สามารถแก้ไขตำแหน่งตามที่ชอบได้
ฟีเจอร์หลักๆ ของตัวเครื่องจะถูกรวมอยู่ในแอปพลิเคชั่น Moto ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 ส่วนหลักได้แก่ Actions, Display
ในส่วนของ Display จะมีฟีเจอร์ต่างๆ ดังนี้
– One button nav: เป็นการใช้เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแทนปุ่มบนหน้าจอทั้งหมด โดยหากปัดจากขวาไปซ้ายจะเป็นการย้อนกลับ แตะเป็นโฮม และปาดซ้ายไปขวาจะเป็น Recent Apps นอกเหนือจากนี้ขณะหน้าจอดับยังใช้ปลดล็อคหน้าจอตัวเครื่องได้อีก ทั้งขณะจอติดเองก็กดค้างเพื่อปิดหน้าจอแทนปุ่มพาวเวอร์ได้ด้วย
– Chop twice for flashlight: เขย่าตัวเครื่องแรงๆ สองครั้งเพื่อเปิดไฟฉายทันที
– Twist for Quick Capture: พลิกข้อมือสองรอบเพื่อเปิดกล้องทันที
–
ในส่วนของหน้าจอสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนได้ว่าจะให้แสดงการแจ้งเตือนมากน้อยแค่ไหนหรือจะไม่ให้แอปฯ ตัวไหนแสดงการแจ้งเตือนก็ทำได้เช่นกัน
ทดสอบประสิทธิภาพตัวเครื่องผ่านแอปฯ Benchmark ต่างๆ ได้ผลดังนี้
– Antutu: 62126
– Quadrant Standard: 17301
– Geekbench4: Single Core 816, Multi Core 4049
Camera
Software กล้องของ G5 Plus มีแต่ฟีเจอร์พื้นฐานล้วนๆ คือโหมด Auto, Panorama, และโหมด Pro ซึ่งสามารถปรับค่าต่างๆ ในการถ่ายรูปได้ตั้งแต่การโฟกัส, ISO, White Balance, Exposure และ Speed Shutter แต่แอบเสียดายที่ Speed Shutter ปรับนานสุดได้แค่ 1/3 วินาที
ส่วนการถ่ายวิดีโอนั้นรองรับกันโหดสุดๆ ถึงความละเอียด 4K@30fps เลย
ต่อไปเป็นตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องแบบเดิมๆ ไม่มีการตกแต่งใดๆ นอกจากย่อขนาดภาพและใส่ลายน้ำเข้าไปเท่านั้น
สภาพแสงตอนกลางวัน แดดแรงๆ นี่หายห่วงจริงๆ
ถ่ายย้อนแสงก็พอเห็นรายละเอียดในส่วนมืดอยู่บ้าง
ถ่ายตอนตะวันจะลับฟ้าก็ยังเก็บรายละเอียดท้องฟ้ามาได้บ้าง แต่รายละเอียดตึกทั้งหลายมากันครบ
ลองดูภาพกลางคืนกันบ้าง ด้วยค่ารูรับแสงกว้างฉะนั้นยังคงถ่ายภาพกลางคืนหรือแสงน้อยได้ไม่ลำบากมากนัก (ถ้ามี OIS จะช่วยได้มาก อันนี้ถ้ามือสั่นๆ หน่อยอาจจะแย่)
ลองกับแสงในอาคารดูบ้าง ซอฟต์แวร์กล้องของ G5 Plus เนี่ยชอบดันแสงให้ดูสว่างเกินจริงไปหน่อย บางครั้งต้องดึงความสว่างลงมาบ้าง จึงจะได้ภาพที่พอดี
ต่อด้วยรูปอาหาร ภาพนี้มีแสงยิงมาจากด้านบนตอนเที่ยงๆ ถือว่าเก็บสีสันของตัวอาหารมาได้ดี รวมถึงสีน้ำเก๊กฮวยด้วย
ด้วยความที่รูรับแสงกว้างมากฉะนัั้นถ้าถ่ายวัตถุแบบใกล้ๆ มาก จะส่งผลให้เบลอหลังได้อย่างง่ายดาย
อาหารในร้านไฟสีเหลืองก็ยังเก็บรายละเอียดและสีสันได้ดี
อย่างที่บอกไปก่อนหน้าว่าค่ารูรับแสงกว้าง ฉะนั้นการถ่ายที่แสงน้อยก็ทำได้ค่อนข้างง่ายอยู่ และเบลอหลังสวยๆ
ลองถ่ายวัตถุอื่นๆ เพื่อดูการเก็บรายละเอียดของภาพกันบ้าง
ด้วยความที่รูรับแสงกว้างจัด ฉะนั้นในการถ่ายรูปวัตถุในบางครั้งจะไม่ได้ภาพที่ชัดทั้งหมดเช่นกัน
ลองกล้องหน้ากันบ้าง มีโหมดหน้าสวยถึง 7 ระดับ แต่ใช้แล้วรู้สึกเหมือนทำให้หน้าตัวเองขาวขึ้นพร้อมความเนียนมากกว่า
แน่นอนว่าสำหรับคนแขนยาวนี่ Selfie กันเป็นหมู่คณะสบายๆ เลยล่ะ
สรุป: Moto G5 Plus เป็นสมาร์ทโฟนราคาไม่ถึงหมื่นที่ครบ จบ ในเครื่องเดียว อย่างที่ได้เกริ่นไว้ เนื่องด้วยตัวเครื่องมีสเปคที่แรงพอสำหรับการใช้งาน ไม่เว้นแม้แต่การเล่นเกมส์ได้สบายๆ มีแรมเหลือเฟือและยังไม่มีแอปพลิเคชั่นมากินแรม ทั้งยังหน่วยความจำภายในตัวเครื่องมาให้เพียงพอที่จะลงแอปพลิเคชั่นต่างๆ ได้อย่างไม่ต้องกังวล ขนาบด้วยกล้องถ่ายรูปแบบ Dual Pixel ที่รูรับแสงโคตรกว้าง ถ่ายกลางคืนหรือแสงน้อยก็ยังสู้ไหว แต่ในส่วนของซอฟต์แวร์กล้องนั้นยังไม่เก่งเท่าไหร่นัก เวลาถ่ายภาพมักจะดันภาพให้สว่างเกินจริงไป ซึ่งต้องดึงความสว่างลงมาเพื่อที่จะได้ภาพที่ได้แสงที่พอดีอีก คือจะหยิบมาถ่ายทันทีเลยนั้นยังไม่ได้พร้อมสำหรับทุกสถานการณ์ และแน่นอนจากที่ลองใช้งานมาจริงต้องบอกว่าแบตเตอรี่ค่อนข้างอึด ใช้งานวันนึงนี่สบายๆ ได้เลยล่ะ ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่จะได้จากสมาร์ทโฟนราคา 9,990 บาท ซึ่งมันครบแล้วจริงๆ ดูแล้วคงเป็นรุ่นที่ขายดีเททิ้งรุ่นนึงแน่นอนเพราะหากไปติดสัญญากับทาง Truemove H แล้วค่าเครื่องจะเหลือไม่ถึงครึ่งหมื่น ซึ่งนับว่าถูกมากและหาใครมาแข่งได้ยาก ณ ปัจจุบันเลยล่ะ
You must be logged in to post a comment.