OPPO มีรุ่นกลางอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจ OPPO A57 เรียกว่าเป็นรุ่นกลางราคาอยู่ช่วงระหว่าง 5,000-10,000 บาท ซึ่งเป็นราคาที่เรียกว่าสมรภูมิรบของแบรนด์ต่างๆ ซึ่ง OPPO A57 ก็เปิดราคามาที่ 7,990 บาท พร้อมด้วยกล้องด้านหน้าความละเอียดสูงถึง 16 ล้านพิกเซล เอาเป็นว่ารุ่นนี้เน้น เซลฟี่นั่นล่ะครับ ขึ้นชื่อว่า OPPO กล้องหน้าไม่เป็นรองใครอย่างแน่นอน ล่าสุดก็เพิ่งเปิดตัวพรีเซนเตอร์อย่างเจมส์ จิในงาน Thailand Mobile Expo ครั้งที่ผ่านมาซะด้วย
เรื่องการออกแบบและสเปคของ OPPO A57
● ระบบปฏิบัติการ: Android 6.0 ครอบด้วย ColorOS 3.0
● จอแสดงผล: ชนิด IPS ขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียด HD 720p
● หน่วยประมวลผล: Snapdragon 435 MSM 8940 Octa-core
● หน่วยประมวลผลกราฟฟิค: Andreno 505
● หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง: 32GB และรองรับหน่วยความจำภายนอก MicroSD card ได้สูงสุด 256 GB
● แรม: 3GB
● การเชื่อมต่อ: 2G/ 3G/ 4G LTE CAT7 (300Mbps/100Mbps)
● รองรับการใช้งานในระบบ 2 ซิมการ์ด Nano SIM + Nano SIM
● การเชื่อมต่อ: Wi-Fi 802.11 b/g/n/ac, Bluetooth V. 4.1
● กล้อง ด้านหลังความละเอียด 13 MP f/2.2
● กล้องด้านหน้าความละเอียด 16 MP f/2.0,
● ขนาดตัวเครื่อง: 149.1×72.9×7.65 มิลลิเมตร
● น้ำหนัก: 147 กรัม
● แบตเตอรี่: Lithium-polymer 2,900mAh
● สีที่มีวางจำหน่าย: ดำทอง
● ราคา 7,990 บาท
มาชมส่วนต่างๆ ของตัวเครื่องกันครับ
กล่องของ OPPO ก็มาในแนวเดียวกันครับ เป็นสีขาวล้วน
ด้านหลังมีบอกสเปคเอาไว้ค่อนข้างครบ เอาสเปคหลักๆ ที่ใช้กัน
ตัวเครื่องมีขนาด 5.2 นิ้ว ถือว่าเป็นขนาดที่จับกระชับมือที่สุดแล้ว ส่วนการใช้งานต่างๆ
ด้านหน้าที่เป็นจุดเด่นอย่างแรงในรุ่นนี้ก็คือกล้องขนาด 16 ล้านพิกเซล
ปุ่มกดด้านหน้าเป็น fingerprint scanner สแกนนิ้วได้รวดเร็ว นี่ก็เป็นฟังก์ชั่นพื้นฐานที่ควรมีในทุกเครื่องแล้วล่ะครับ เรื่องความปลอดภัย นอกจากใส่ password ก็สแกนนิ้วนี่ล่ะ
ส่วนตัวสีทองในโทนสว่าง ดูแล้วสบายตา ซึ่งตัวเครื่องด้านหน้าจะเป็นสีขาวด้านหลังจะเป็นสีทอง ก็คือว่าเป็นสีเบสิคล่ะครับ
กล้องที่ให้มาด้านหลังคือ 13 ล้านพิกเซล ชัทเตอร์ถือว่าเร็วตามสไตล์ OPPO ล่ะครับ
ความหนาของตัวเครื่องหากมองแค่ขอบก็บางใช้ได้ล่ะครับ
ส่วนพอร์ท micro USB สามารถทำเป็น OTG เชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอกได้ ไมค์และลำโพงอยู่ด้านล่าง พร้อมกับช่องเสียบหูฟังด้วย เสียงดังดีใช้ได้เลยนะ
ด้านข้างมีเพียงปุ่มกดเร่งและลดเสียง
อีกด้านก็จะเป็นถาดใส่ซิม ซึ่งรองรับ 2 ซิมนะครับ เป็นแบบ micro SIM ทั้งสองซิมเลย
สรุปคือ สวยงามตามท้องเรื่องล่ะครับ สำหรับ A57 โดยเป็นรุ่นกลางที่น่าสนใจ ราคาก็น่าสนใจ ส่วนสเปคได้กล้องมา 16 ล้านด้านหน้า ไว้เน้นถ่ายเซลฟี่ และถ่ายภาพบุคคลได้เป็นอย่างดี แบตก็อึดใช้ได้วันนึงสบายๆ เลยนะ
มาชมคลิปแกะกล่องกันครับ
มาดูส่วนของซอฟท์แวร์ในเครื่องกันบ้าง
หลักๆ แล้ว OPPO ค่อนข้างจะมีลูกเล่นเหมือนเดิม ไม่มีอะไรใหม่มากนัก อาจจะยกเว้นเรื่องกล้อง ที่อาจจะมีเพิ่มหรือลดบางอย่างเท่านั้นเองครับ เอาจริงๆ ผมก็แยกไม่ค่อยออกนะครับ หลังๆ ถ้าไม่ได้ถือเครื่องเทียบกัน ทั้งภายนอกและซอฟท์แวร์ด้านใน แต่โดยภาพรวมตอบสนองการใช้งานต่างๆ ได้ครบถ้วน
โดยหลักๆ แล้ว การทดสอบคะแนนออกมาก็ถือว่าโอเคนะ หน้าจอใช้งานได้ 10 นิ้วพร้อมกัน ไม่ได้กั๊กสเปคหน้าจอด้วย
ลูกเล่นบน Color OS 3.0 ก็ประมาณนี้ ซึ่งที่น่าสนใจก็คือ fonts สามารถปรับเปลี่ยนได้เพียบ รวมถึงพวกการแสดงเครือข่าย ความเร็ว ต่างๆ บน notification bar ก็มีครบ
การตั้งค่าต่างๆ ยังคงสไตล์ OPPO เหมืนอเดิม และมี Simple mode สำหรับคนที่อยากใช้รูปแบบคล้ายโทรศัพท์แบบดั้งเดิม มี OTG Connection ที่เวลาใช้งานต้องมาเปิดตรงนี้ด้วย และ พื้นที่ที่ให้มา 32 GB ถือว่าเหลือเฟือแล้วล่ะ ถ้าไม่พอใส่ microSD Card เพิ่มได้ไม่มีปัญหา
กล้อง ก็มี Time-Lapse, Beauty และ Panorama mode ที่เหลือ ก็มี Ultra HD ที่ให้ความละเอียดสูง และอื่นๆ รวมถึง Expert mode ด้วย แต่หลักๆ เชื่อว่าคงใช้ Beauty นี่ล่ะ
ส่วนของกล้องด้านหน้าที่ปรับระดับความสวยได้ 7 ระดับ และยังปรับโบเก้ร่วมด้วย ทำให้ภาพกล้องหน้าที่ออกมาแจ่มจริงๆ แต่พลาดครับไม่มีนางแบบ
มาดูตัวอย่างภาพถ่ายทิ้งท้ายดีกว่านะ คลิ้กดูภาพขนาดเต็มๆ ได้เลย เน็ตหมดอย่าว่ากันนะ ฮา
มาดูภาพเซลฟี่บ้าง
ทดสอบเล่นเกมส์ทิ้งท้าย
โดยภาพรวม ผมบอกตรงๆ ว่าให้มาจับเดี่ยวๆ โดยไม่ได้บอกรุ่นผมนี่ ผมไม่รู้แล้วนะว่าเป็น OPPO รุ่นไหน อาจจะมีความต่างเรื่องขนาดตัวเครื่องและหน้าจอในซีรีส์เดียวกัน แค่นั้นเอง ระหว่างซีรีส์นี่ ถ้าไม่สังเกตหรือติดตามตลอดหรือแฟนพันธ์ุแท้ล่ะก็ยากเหมือนกัน แต่ดีไซน์แบบนี้ถือว่าเป็นเอกลัษณ์นะครับ เพราะจับมาก็รู้ อ้อ นี่ OPPO ใช้งานได้สบายหายห่วง ความคุ้นเคยในการใช้งานระหว่างรุ่นต่างๆ ก็ตามมาเรียกว่าเปลี่ยนรุ่นใหม่ ก็ใช้งานได้ทันที คุ้นมือ คุ้นตา ColorOS ที่ครบเครื่องอยู่แล้ว ฟีเจอร์ต่างๆ ก็มีเพียบ ใช้บ้างไม่ใช้บ้างก็ว่ากันไป แบตผมถือว่าอึดใช้ได้เลยสำหรับรุ่นนี้ หลักๆ ผมว่าเป็นกล้องด้านหน้าขนาด 16 ล้านพิกเซลนี่ล่ะ แต่กล้องด้านหลัง 13 ล้านพิกเซลก็ใช้ได้อยู่นะ ชัทเตอร์ไว้ดี สรุปคือคุ้มราคากับ 7990 บาท ล่ะครับ
ขอบคุณ OPPO Thailand ที่ให้ยืมเครื่องทดสอบ
You must be logged in to post a comment.