Samsung Galaxy C9 Pro เป็นสมาร์ทโฟนราคาหมื่นกลางๆ ซีรีส์ใหม่ที่ซัมซุงตั้งใจนำเข้ามาลุยตลาดคนชอบมือถือจอยักษ์ สเปคแรงครบเครื่อง พร้อมลงแอปพลิเคชั่นแบบจัดเต็มไม่กลัวเมมเต็มด้วยหน่วยความจำภายในเครื่อ 64GB รวมทั้งใช้งานกับมันได้เต็มที่ด้วย Ram 6GB ไม่มีกังวลว่า Ram จะไม่พออีกต่อไป และยังมีกล้องที่ค่ารูรับแสงกว้างถึง 1.9 ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังอีก นอกเหนือจากนี้ยังตอบโจทย์คนที่ใช้งาน 2 เบอร์ พร้อม Micro SD Card ได้เลยไม่ต้องเลือก แหม จัดมาขนาดนี้นี่ราคาค่าตัวเค้าอยู่ที่ 16,900 บาทนะจ๊ะ
Samsung Galaxy C9 Pro Specs:
– หน้าจอ Super Amoled ขนาด 6 นิ้ว ความละเอียด Full HD
– Chipset Qualcomm MSM8976 Snapdragon 653 Octa-core (4×1.95 GHz Cortex-A72 & 4×1.4 GHz Cortex-A53)
– GPU Adreno 510
– Ram 6GB
– หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 64GB
– รองรับ Micro SD Card สูงสุด 256GB
– กล้องถ่ายรูปหลักความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง (F) 1.9 พร้อมไฟแฟลช LED, รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด Full HD@30fps
– กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง (F) 1.9, รองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด Full HD
– รองรับ 4G LTE Cat 6 300/50Mbps
– รองรับการใช้งาน 2 ซิม (4G/3G)
– Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, WiFi Direct, hotspot
– Bluetooth V.4.2, A2DP, EDR, LE
– FM Radio
– Fingerprint Scanner
– Fast Charging
– Battery 4,000mAh
– Android 6.0.1 Marshmallow
– ราคาเปิดตัว 16,900 บาท
พรีวิวตัวเครื่อง
หน้าตาตัวเครื่อง Galaxy C9 Pro นี่เห็นปุ๊บรู้ปั๊บว่ามันคือสมาร์ทโฟน Samsung เพราะใช้หน้าตาแบบนี้มาอย่างยาวนานมากจริงๆ ตัวเครื่องดูจากรูปแล้วเหมือนจะเล็กกว่า 6 นิ้วเลย ขนาดตอนใช้งานจริงยังใช้งานมือเดียวได้สบายๆ อยู่
เหนือหน้าจอมีลำโพงสำหรับสนทนา ขนาบด้วยกล้องหน้าทางซ้าย
ใต้หน้าจอยังมีปุ่ม Home เป็นปุ่มกดบนตัวเครื่อง ขนาบด้วยปุ่ม Recent Apps ทางซ้าย และปุ่ม Back ทางขวา
เครื่องที่ได้มารีวิวเป็นเครื่องสีทอง ด้านหลังก็จะทองอร่ามแบบนี้แหละ แต่เป็นทองแบบด้านฉะนั้นหมดห่วงเรื่องรอยนิ้วมือได้
ตรงกลางบนของฝาหลังจะมีกล้องหลังพร้อมไฟแฟลช LED แบบ Dual Tone อยู่
ด้านบนตัวเครื่องมีไมโครโฟนตัวที่สองสำหรับตัดเสียงรบกวนขณะสนทนา
ด้านซ้ายตัวเครื่องมีปุ่มเพิ่มลดเสียง
ด้านขวาจะมีปุ่ม Power และช่องเสียบถาดซิม ถาด Micro SD Card ออกมา
โดยจะมีทั้งหมด 2 ถาดแยกกันดังภาพ ดีตรงใช้งานได้ครบทั้ง 2 ซิม และ Micro SD Card เลย ไม่ต้องมารักพี่เสียดายน้อง
ด้านล่างมีช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม., ช่องเสียบสายชาร์จ/ซิงค์แบบ USB-C, ไมโครโฟนและลำโพงตัวเครื่อง
ลองถือในมือดูยังแอบตกใจว่าเฮ้ย นี่ขนาด 6 นิ้วจริงหรอ ทำไมมันถือแล้วรู้สึกเหมือน 5.5-5.7 นิ้วเลย จับถนัดดีมาก
User Interface หรือ UI ของ Galaxy C9 Pro ยังคงเป็น Touchwiz ที่เราคุ้นตา หน้าตาไอคอนโค้งๆ กลมๆ มีการแยกหน้า Home และ App Drawer เช่นเคย พร้อมกันนี้สามารถสร้าง Folder เพื่อเก็บแอปฯ ให้เป็นระเบียบได้ทั้งหน้า Home และ App Drawer
Notification Bar สีขาวเนียนตา ดูแล้วสะอาดสะอ้านดี พร้อมทางลัดในการเปิดปิดการเชื่อมต่อต่างๆ มากมาย พร้อมมีแถบปรับความสว่างหน้าจอ ซึ่งเป็นความสะดวกของมือถือ Samsung ทุกรุ่นก็ยังคงมีอยู่บนรุ่นนี้
Recent Apps เมื่อกดปุ่มขึ้นมาจะเป็นหน้าตาแอปฯ แบบครึ่งหน้า ซึ่งเราสามารถสั่งการเปิด Multi-Windows หรือใช้งานพร้อมกันสองหน้าจอได้ผ่านทางนี้ล่ะ สำหรับใครที่ชอบเล่นแบบมัลติฟังก์ชั่น ซึ่งสมาร์ทโฟนตัวนี้แรงพอที่จะทำงานดังกล่าวได้แบบสบายๆ
Device Maintenance: ตัวนี้จะเป็นตัวจัดการเครื่องในหลายๆ ส่วน (เดิมชื่อ Smart Manager) ซึ่งเจ้านี่จะจัดการได้ทั้งการดูแบตเตอรี่, การเคลียร์ขยะในเครื่อง, การเคลียร์ Ram และสแกนไวรัส
Advanced Features: เป็นฟีเจอร์เพิ่มเติมที่ตัวเครื่องสามารถใช้งานได้ หรือเอาง่ายๆ คือคำสั่งเพื่อความสะดวกในการทำงานบางอย่าง เช่น กดปุ่มพาวเวอร์สองครั้งเพื่อเปิดกล้องทันที, ปาดหน้าจอเพื่อจับภาพหน้าจอ, ฯลฯ ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ใส่มาในสมาร์ทโฟน Samsung แทบทุกรุ่นอยู่แล้ว และสำหรับรุ่นที่หน้าจอใหญ่ๆ แบบนี้ก็ยังมีฟีเจอร์ที่ทำมาเพื่อคนมือเล็กอย่าง One Hand Operation เพื่อให้ใช้งานมือเดียวได้สะดวกยิ่งขึ้นด้วย
ทดสอบประสิทธิภาพตัวเครื่องผ่านแอปพลิเคชั่นต่างๆ ได้ผลดังนี้
– Antutu: 81577
– Geekbench4: Single Core 1460, Multi Core 4080
– Quadrant Standard: 40136
กล้องถ่ายรูป
กล้องของ Galaxy C9 Pro ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซลและค่ารูรับแสง (F) 1.9 และมีโหมดถ่ายรูปให้เพียงพอกับการใช้งานแต่แอบน่าเสียดายที่ไม่มี HDR Auto มาให้ ต้องเลือกเอาว่าจะใช้งาน HDR หรือไม่โดยการสับไปโหมด HDR นั่นล่ะ ส่วนโหมด Pro นั้นจะไม่เหมือนเรือธงเพราะไม่สามารถปรับค่าความเร็วชัตเตอร์ได้ ปรับได้เพียง White Balance, ISO หรือพวกแสงสีเท่านั้น
คุณภาพของไฟล์ภาพถือว่าทำได้ดี โดยภาพทั้งหมดจะถ่ายผ่านโหมด Auto และไม่มีการตกแต่งใดๆ เพิ่มเติมแค่ลดขนาดกับใส่ลายน้ำเช่นเคย
เริ่มด้วยภาพถ่ายกลางแจ้งแบบแสงแดดจัดๆ แรงๆ
ภาพนี้ย้อนแสงไปหาพระอาทิตย์ เล่นเอาภูเขามืดไปเลย อย่างที่บอกก่อนหน้าว่ามันไม่มี Auto HDR ฉะนั้นถ้าจะถ่ายย้อนแสงคงต้องเปิดโหมด HDR ช่วย
พอเปิด HDR ปุ๊บเก็บรายละเอียดได้เพียบทันที
ต่อด้วยแสงตอนเย็นต่อ ก่อนตะวันจะลับฟ้า
ต่อไปเป็นแสงกลางคืน หรือแสงน้อยนั่นเอง
ต่อด้วยการถ่ายอาหาร ซึ่งจริงๆมี Food Mode ไว้เร่งสีเหมือนกินซากุระด้วย แต่ส่วนมากจะไม่ค่อยใช้เท่าไหร่ รูปไหนใช้จะบอกใต้ภาพนะครับ
ภาพนี้ลองใช้ Food Mode ดู ภาพออกมาสีสดขึ้น เหลืองขึ้นเยอะเลย
ภาพนี้ก็ใช้ Food Mode
ต่อไปลองถ่ายวัตถุทั่วๆ ไปบ้าง งานดีอยู่เลยล่ะ
สรุป: จากที่ได้อยู่กับ Samsung Galaxy C9 Pro มาราวๆ สองสัปดาห์ก็คงต้องบอกว่ามันเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นนึงที่มีทุกอย่างเกือบครบครันเลยจริงๆ ทั้งสเปคตัวเครื่องที่แรง หน่วยความจำที่เยอะ จอที่ใหญ่และชัด กล้องที่พอใช้งานได้ทุกสถานการณ์ แบตเตอรี่อยุ่ได้วันนึงชิลๆ ซึ่งจะขาดก็แค่เพียงเรื่องของการกันน้ำกันฝุ่นที่มิได้ใส่มาเหมือน A7 มิฉะนั้นเจ้า A7 คงมิได้เกิดเป็นแน่แท้ และอีกเรื่องคงเป็นเรื่องกันสั่นของกล้องที่ยังไม่มีมาให้ในรุ่นระดับนี้ ซึ่งในการถ่ายภาพเวลาแสงน้อยๆ จะต้องมือนิ่งๆ เล็กน้อย มิฉะนั้นภาพอาจจะสั่นเบลอกันไปได้ และในตอนนี้เห็นว่ายังไม่รองรับ Samsung Pay ซึ่งก็ไม่รู้ว่าในอนาคตจะมีสิทธิรองรับหรือไม่ แต่ถ้าในราคา 15,000 – 17,000 บาทก็ถือว่าเป็นอีกทางเลือกนึงที่น่าสนใจไม่น้อยล่ะ
You must be logged in to post a comment.