ผมบอกเลยว่าใช้ Smartband หรือ Wristband หรือ Activity Tracker หรือแล้วแต่จะเรียกล่ะครับมานานมาก แต่สรุปคือเป็นอุปกรณ์สวมใส่ที่ข้อมือ และสามารถบอกรายละเอียดการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวันของเราได้ ซึ่งผมเองก็ใช้งานมาตั้งแต่ต้นๆ ศึกษาเรื่อยมา จนมาระยะหลังก็ตันที่การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ที่เหลือก็อยู่ที่พวกแอพและรีพอร์ทแต่ละแบรนด์ที่ต่างกัน แต่จนแล้วจนรอด ในที่สุดปีนี้เอง ก็มาแล้วครับ Smartband (ขอเรียกศัพท์คำนี้ก็แล้วกัน) ที่มากกว่าวัดอัตราการเต้นของหัวใจ เพราะว่าสามารถวัดออกซิเจนในเลือด รวมถึงความดันด้วย ซึ่งไม่ว่าแบรนด์ไหนๆ ก็ยังทำไม่ได้ ยกเว้น Smartband จากประเทศจีนรุ่นนี้ Y2 Plus ไม่พอนะครับ เพราะความสามารถทำไมมันช่างสวนทางกับราคาแบรนด์ใหญ่ๆ เลย เพราะค่าตัวของเจ้า Y2 Plus Smartband รุ่นนี้ประมาณ 450 บาทเท่านั้น โดยผมสั่งซื้อมาจาก Gearbest เจ้าเดิม มีลดราคาตลอดเวลา ฮ่ะๆ เกริ่นไปพอได้น้ำจิ้มแล้ว งานนี้มาดูเนื้อๆ กันบ้างดีกว่า
ทุกครั้งก็ต้องเอาสเปคมาฝากหน่อย จะว่าไป Smartband มีสเปคด้วยหรอ จริงๆ ก็มีนะครับ เพราะว่า chipset ที่ใช้งานก็มีต่างกันด้วย Gearbest เค้ามีระบุเอาไว้ละเอียดมาก แต่คนใช้งานอย่างเราก็คงไม่รู้หรอกครับ ค่อยเอาไว้หาข้อมูลทีหลังก็แล้วกัน มาดูหน่อย
Built-in chip type: Dialog DA14580
Bluetooth Version: Bluetooth 4.0
Waterproof: Yes
IP rating: IP67
Function:
Bluetooth calling: Phone call reminder
Messaging: Message reminder
Health tracker: Heart rate monitor,Pedometer,Sleep monitor
Notification: Yes
Groups of alarm: 5
Alert type: Vibration
Locking screen : 1
Other Function: Alarm
Screen: OLED
Screen size: 0.87 inch
Operating mode: Touch Screen
Type of battery: Li-polymer
Battery Capacity: 60mAh
Charging Time: About 90mins
Standby time: 25 days
Shape of the dial: Oval
Case material: ABS
Band material: TPE
Compatible OS: Android,IOS
Compatability: Android 4.3 and iOS 8.0 or above
Language: English,Simplified Chinese
Available Color: Black,Blue,Green,Orange
Dial size: 4.53 x 1.60 x 0.80 cm / 1.78 x 0.63 x 0.31 inches
Band size: 22.00 x 1.60 cm / 8.66 x 0.63 inches
Wearing diameter: 15.50 – 21.00 cm / 6.10 – 8.27 inches
Product size (L x W x H): 22.00 x 1.60 x 0.80 cm / 8.66 x 0.63 x 0.31 inches
Package size (L x W x H): 16.50 x 8.20 x 2.80 cm / 6.5 x 3.23 x 1.1 inches
Product weight: 0.0170 kg
Package weight: 0.0910 kg
เรียงเป็นบรรทัดยาวๆ ค่อยๆ อ่านก็แล้วกันนะครับ ไว้มาอ่านรีวิวกันเต็มๆ กันต่อ
สำหรับ Y2 Plus เป็น Smartband ที่ฉลาดมาก อย่างที่ผมเกริ่นไปว่า เทรนด์มันตันตรงที่ วัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ หลังๆ ทุกแบรนด์น้อยใหญ่ ทำได้แทบจะเหมืนอกันทั้งหมด ซึ่งต่างกันทีดีไซน์ ราคาและก็ความถูกใจของเรากับแบรนด์นั้นๆ ซึ่งเอาจริงๆ ผมใช้แค่ Mi Band 2 ก็ตอบโจทย์ได้เกือบครบแล้ว ซึ่งรู้ไหมว่า Y2 Plus นี่ผมว่าจีนก๊อปปี้จีนดีๆ นี่เอง พี่ท่านเล่นก๊อป Mi Band 2 มานั่นล่ะครับ รูปทรงอะไรนี่แทบจะเหมือนกันทั้งหมด
รวมถึงสายชาร์จด้วย เห็นแล้วคุ้นๆ ไหม
หน้าตาก็ประมาณนี้เลยครับ คือรูปร่างเหมือน Mi Band 2 ยังไงยังงั้นเลย แต่ขนาดไม่เท่ากันเสียทีเดียว บวกกับหน้าจอที่ดูดีกว่า
สีที่ซื้อมาก็คือสีฟ้า จริงๆ มีให้เลือกหลายสีนะครับ สามารถเปลี่ยนสายได้ตามปกติ
ด้านล่างเป็นเซ็นเซอร์สำหรับวัดอัตราการเต้นของหัวใจ โดยเป็นแสงยิงออกมา อาจจะเรียกได้ว่าเป็น Optical นั่นล่ะครับ
แกะออกมาจากสาย รูปร่างคงไม่ต้องบอกว่าเหมือนมาก และคุณสมบัติอย่างนึงก็คือ กันน้ำ 100% อันนี้ชัวร์มาก ใส่อาบน้ำไม่เคยถอด ใส่ลงว่ายน้ำสระเกลือ สามสี่เดือนยังชิลๆ ไม่ต้องกลัวว่าจะเสียเหมือนตัวแพงๆ
ตรงขั้วด้านล่างสำหรับชาร์จ เป็นหน้าสัมผัสเดียว และตำแหน่งแทบจะองศาเดียวกับ Mi Band 2
ด้านข้างรู้สึกว่าจะอ้วนกว่านิดนึง
ลองเปรียบเทียบกับ Mi band 2 ซะหน่อย ปุ่มกดก็ต่างกันนิดนึง
ตำแหน่งคอนแทคด้านล่างสำหรับชาร์จ
เซ็นเซอร์ที่ใช้คนละสเปค
ส่วนของสายรัด
ถ้าหากบอกคนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อนว่าเป็น Mi Band 2 ก็คงเชื่อล่ะ
เราสามารถเปลี่ยนเมนูต่างๆ ไปหน้าต่างถัดไปได้โดยกดปุ่มตรงกลางด้านล่าง ซึ่งก็เหมือนกับ Mi Band 2 อีกนั่นล่ะ กดครั้งนึงก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ซึ่งเจ้า Y2 Plus สามารถบอก วันเวลาได้ในหน้าแรก
หน้าถัดไปเป็นจำนวนก้าวเดิน
บอกระยะทางการเดินในแต่ละวัน
อัตราการเผาผลาญพลังงาน ไปกี่แคลลอรี่แล้วก็บอกได้
แน่นอนส่วนสำคัญก็คือ อัตราการเต้นของหัวใจ และยังบอกได้อีกด้วยว่ามีระดับออกซิเจนในเลือดมากน้อยแค่ไหน
และยังวัดความดันได้ด้วย แต่ตัวเลขที่ปกติเราเห็นกันคือ อัตราการบีบ กับการคลายตัว จะสลับตำแหน่งกับ ค่าที่เราวัดได้ตามเครื่องมือวัดในโรงพยาบาล
ลองวัดเปรียบเทียบกับ Mi Band 2 สำหรับ Y2 Plus ได้เปรียบตรงบอกปริมาณออกซิเจนในเลือดได้ แต่ Mi Band 2 ได้แค่ตามปกติ
ลองใส่วัดเทียบกับ Fitbit Surge ตัวเก๋ากันบ้าง ครับ ก็ใกล้ๆ กัน
โดยรวมแล้ว Y2 Plus สามารถบอกรายละเอียดต่างๆ ได้ ค่อนข้างครบถ้วนเลยทีเดียว หน้าจอก็แจ่ม ตัวอักษรชัดเจน การแสดงผลในที่แจ้งก็อาจจะสู้แสงแดดแรงๆ ไม่ได้เหมือนกัน เหมาะกับในที่ร่มมากกว่า แต่การใช้งานเพียงแค่นี้ไม่พอครับ เพราะว่าอุปกรณ์ Smartband ตามปกติต้องซิงค์กับ Smartphone ซึ่งมีแอปใช้งานได้ทั้ง Android และ iOS มาดูเรื่องแอปพลิเคชั่นกัน
สำหรับแอปพลิเคชั่น ใช้ชื่อว่า FunDoBracelet สามารถค้นหาชื่อนี้บน Google Play Store หรือ Apple AppStore ได้เลย ซึ่งบนกล่องและคู่มือก็จะมี QR Code ให้สแกนด้วยนะ อันนี้แล้วแต่สะดวก
และต้องลงทะเบียนสร้างแอคเค้าท์ ถ้ามีอยู่แล้วก็ sign in เข้าใช้งานได้เลย
ซึ่งถ้าหากจะให้แม่นยำ ก็ต้องตั้งค่า อายุ น้ำหนัก ส่วนสูงให้เรียบร้อย หลังจากนั้นกด bluetooth connection เพื่อจับคู่และเริ่มต้นใช้งาน วิธีการจับคู่หวังว่าเพื่อนๆ น่าจะรู้กันแล้วนะครับ ดังนั้นขอข้ามวิธีการจับคู่ไปเลยก็แล้วกัน
ความสามารถอื่นๆ เมื่อเชื่อมต่อกับ Smartphone จะสามารถเตือนทั้งเรื่องการใช้โทรศัพท์ มีสายเข้าโชว์เบอร์ที่หน้าปัทม์ Y2 Plus ได้ รวมถึง SMS ด้วย และยังกำหนดเวลาเตือน เวลานั่งทำงานนานๆ ได้ และสามารถปลุกโดยการสั่นได้อีกด้วย ตั้งเวลาได้ทุกวันตอนตื่นนอนเลย สั่นแรงใช้ได้อยู่นะครับ และยังมีการค้นหาเจ้า Y2 Plus ได้อีกด้วยนะ คือต้องบอกว่าหน้าที่ของ Smartband ก็ทำได้หมดทุกอย่าง ครบถ้วนสมบูรณ์ อย่างที่บอกล่ะครับว่าไม่ซิงค์กับ Smartphone ก็ใช้ได้ แต่ไม่สุดนะ
มาดูรีพอร์ทที่ให้บ้างครับ สามารถบอกเรื่องการวิ่งหรือในที่นี้หมายถึงการก้าวเดิน จับชั่วโมงการนอนได้ แทรคการนอนว่าหลับลึกและตื้นเท่าไหร่ นอนกี่โมงตื่นกี่โมง และวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ รวมถึงมีรายละเอียดความดันและออกซิเจนในเลือดอีกต่างหาก ซึ่งทั้งหมดนี้เปิดแอปขึ้นมาก็ใช้งานได้ทันที
แต่รีพอร์ทย้อนหลังที่ไม่ชอบเลยก็คือ มีเก็บรายละเอียดได้แบบเป็นกราฟเท่านั้น แต่ไม่สามารถกดเข้าไปดูรายละเอียดในแต่ละวันย้อนหลังได้ อันนี้ล่ะที่น่าเสียดาย แต่ก็มีข้อดีตรงมีข้อสรุปและนำให้ด้วยนะครับว่าแต่ละเดือน ดีหรือไม่อย่างไร ก็เรยีกว่าได้อย่างเสียอย่าง แต่สำหรับผมแล้ว รายงานเพียงแค่นี้ไม่เพียงพอ
อันนี้เป็นรายงานจาก iOS ครบๆ เหมือนกัน
ลองเปรียบเทียบกับเครื่องวัดความดัน ผลปรากฎว่าคลาดเคลื่อนพอสมควรเลยทีเดียว ดังนั้นสำหรับ Yํ2 Plus รุ่นนี้ ดูได้เพียงประกอบ แต่ถ้าจะเที่ยงตรงต้องหาเครื่องมือวัดที่เชื่อถือได้ ตามโรงพยาบาล หรืออย่าง iHealth รุ่นนี้ที่ผมจัดมา ก็เป็นของ Xiaomi น่ะครับ เชื่อถือได้
สรุปการใช้งานกันสักนิด
สำหรับการใช้งาน Y2 Plus จากที่ผ่านมาหลายเดือน พบว่าการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ค่อนข้างแม่นยำ ใช้คำว่าค่อนข้าง ผมหมายถึงมีคลาดเคลื่อน ถ้าเทียบกับที่มีในข้อมือ อาทิเช่น Mi Band 2 , Fitbit Surge, Garmin Forerunner 235 ยังถือว่าไม่แม่นยำเท่าสามตัวนี้ ซึ่งแต่ความพิเศษของ Y2 Plus ก็คือ สามารถวัดออกซิเจนในกระแสเลือดได้ รวมถึงวัดความดันได้อีกด้วย ซึ่งแน่อนนว่ายังไม่มี Smartband หรือ Activity Tracker ตัวไหนที่วัดได้ นั่นเอง แต่ถึงวัดได้ บอกเลยว่าค่าที่ได้ ลองเปรียบเทียบกับอุปกรณ์เครื่องวัดทางการแพทย์แล้ว คาดเคลื่อนค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว รวมถึง รายงานที่เก็บเอาไว้ผ่านแอปพลิเคชั่น ยังไม่ละเอียด ไม่สามารถดูย้อนหลังเป็นรายวันแบบละเอียดได้ มีแต่สรุปภาพรวม ดังนั้นเจ้า Y2 Plus ถึงแม้ว่าจะมีราคาที่ถูกมาก ไม่ถึง 500 บาท เมื่อเทียบกับความสามารถที่ทำได้ก็ตาม แต่เรื่องความแม่นยำ ก็มีผลต่อการใช้งานเช่นเดียวกัน คือบอกเลยว่าเอามาวัดได้ขำๆ แต่ถ้าเป็นผู้ป่วยที่ซีเรียสมากเกี่ยวกับความดัน หรือหัวใจต่างๆ ยังไม่แนะนำ แต่ถ้าสุขภาพทั่วๆ ไป อยากลองดูว่าเป็นยังไง ลองเทคโนโลยีใหม่ อะไรแบบนี้ ก็พอถูไถได้อยู่นะครับ เพราะหากนำมาใช้กับคนป่วยที่ต้องการการความแม่นยำ อาจจะเกิดผิดพลาดและเข้าใจผิดต่อผลที่ได้ และมีผลเสียมากกว่าผลดี
หากใครสนใจก็ลองสั่งซื้อได้ครับ https://goo.gl/3uFJv2 ราคาไม่ถึง 500 บาท จาก gearbest หรือใครยังสนใจ Mi Band 2 ล่ะก็ ลองสั่งที่ https://goo.gl/OcPn62 ราคา 600 กว่าบาท
You must be logged in to post a comment.