เพิ่งได้ลองกล่อง trueTV ซึ่งจริงๆ หาได้ไม่ยากตาม true shop ทั่วๆ ไป สมัครเปิดรายเดือนก็ 990 บาท ถ้าหากต้องการเดี่ยวๆ ก็ 1,990 บาท สเปคอย่าได้พูดถึง เอาง่ายๆ แค่ ROM มีให้ 4GB เท่านั้นเอง ใช้งานจริงๆ เหลือแค่ประมาณ 2GB แยกเป็นภายในประมาณ 1GB และภายนอกภาย 1GB เจอสเปคแล้ว คนที่ติดตามเทคโนโลยีอัปเดทตลอดเวลาอย่างเราๆ ถึงกับอึ้ง ทำมาได้ไงเนี่ย จะใช้งานอะไรยังไงได้บ้าง ซึ่งจริงๆ เค้าก็ชัดเจนว่า คนใช้งานก็เป็นผู้ใช้งานเริ่มต้นล่ะครับ คือง่ายๆ แกะกล่อง ติดตั้งตามคู่มือ มีเน็ตเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi อะไรก็ได้ และมี true ID แค่นี้ก็คงใช้งานได้เลย แต่ true ID ก็คงต้องมีเบอร์ true สักเบอร์นึงหรือบริการของ true สักบริการนึงเพื่อเปิดสมัครแอคเค้าท์เอาไว้ ข้อดีหลักๆ ก็คือไม่ผูกว่าต้องใช้งานกับเน็ตบ้านอะไร แค่มีความเร็วประมาณสัก 10-15 Mbps ขึ้นไปก็โอเค แต่เท่าที่ผมลองดู ความละเอียดหนังที่ให้บริการมีความเร็วให้เลือกก็คือที่ 4Mpbs นั่นหมายถึงใช้เน็ตเท่านั้นก็ได้ แต่จะใช้งานอย่างอื่นก็อย่าหวังนะ เพราะหนังคงไม่สมูทแน่นอน เค้าเลยแนะนำเน็ตที่มีความเร็วที่มากกว่าที่ใช้งานจริงๆ สักสองสามเท่า เผื่อการใช้งานอื่นๆ ในบ้านด้วย เท่าที่ใช้งาน มีหยุดเล่นบ้าง ซึ่งคงเป็นที่ Wi-Fi ที่เชื่อมต่อในบ้าน แต่ก็ไม่มีผลมากนัก อันนี้เกิดกับหนังโดยเฉพาะ แต่ถ้าเป็นรายการปกติ ฟรีทีวีนี่ไม่เจออะไร ใช้งานปกติดี มีช่องให้ดูเพียบ คือปกติผมไม่ได้ติดทรูวิชั่นมานานมากแล้ว มาไล่ดูรายการ ก็โอเคนะครับ มีหลายช่องที่อยากให้เด็กๆ ที่บ้านดู อาทิเช่น ทรูปลูกปัญญาอะไรลักษณะนี้ รายการก็เป็น HD ด้วยนะ ส่วนฟรีทีวีอื่นๆ ก็มีครบ กล่องนี้หลักๆ เอามาปักไว้ในบ้านเพื่อให้คนแก่และเด็กดู ส่วนตัวมีอยู่ที่บ้านหลายกล่อง เสียบปุ๊ป ตั้งค่าล็อคอินปั๊ปใช้งานได้ผ่านรีโมทได้ทันที รายการพื้นฐานครบ คนแก่และเด็กๆ แฮปปี้ ถือว่าสำเร็จตามวัตถุประสงค์ อ่านรีวิวได้ที่นี่จ้า รีวิว กล่อง true TV ดูฟรี ไม่มีเม้ม
อ้อ มีคนถามเหมือนกันว่าเทียบกับ AIS Playbox นี่ยังไง ส่วนตัวผมเอง ยังไง AIS Playbox ก็ต้องใช้เน็ตของ AIS Fibre อันนี้เงื่อนไขที่แก้ไม่ได้แน่ๆ กล่อง trueTV จึงมีความยืดหยุ่นมากกว่า ส่วนเรื่องคอนเทนต์ คงต้องยอมรับว่าคอนเทนต์ หรือหนัง ซีรีส์ หรืออื่นๆ ส่วนใหญ่ใน AIS Playbox มีเรื่องที่คนส่วนใหญ่ติดตามและพูดถึงมากกว่า หลังๆ มี HBO มาเพิ่มเป็นทางเลือกด้วย (ต้องเสียเงินเพิ่ม) ก็น่าสนใจมากกว่า หนังต่างๆ เช่น HOOQ ที่ให้ดูฟรี อันนี้เทียบกับกล่อง trueTV ผมว่าให้คะแนนเท่าๆ กัน หนังใหม่เก่า ซีรีส์ ที่มีและไม่มีในแต่ละกล่อง สรุปคือผมมีสองกล่องนี้ ดีเลย มีหนังที่ไม่ได้ดูในค่าย HOOQ และยังมีหนังอีกหลายเรื่องที่ exclusive เฉพาะค่าย true เช่นกัน ปกติก็ไม่ค่อยได้เข้าโรงดูสักเท่าไหร่ หนังไทยหลายเรื่องที่เห็นตอนช่วงนั้นน่าดูดี ก็เพิ่งได้ดูนี่ล่ะ เช่น ซิงเกิ้ลเลดี้ และอีกหลายเรื่อง ค่าย HOOQ ก็มีหนัง exclusive อยู่ไม่น้อย สรุปชอบแบบไหน ก็เลือกใช้แบบนั้นล่ะกันครับ อนาคตคงต้องสู้กันด้วยคอนเทนต์ ว่ามีอะไรแจ่มกว่ากัน แต่ที่แน่ๆ ทั้งสองค่าย อย่าลืมหากล่องสเปคแจ่มๆ มาให้เลือกบ้างนะ เพราะยังมีคนจำนวนไม่น้อยต้องการสเปคดี เพื่อรองรับการใช้งานที่ลื่นๆ
ถูกใจบทความนี้ 0
You must be logged in to post a comment.