ปัจจุบันผมว่าทุกคนที่อยู่ในสายการออกกำลังกาย น่าจะคุ้นเคยกับอุปกรณ์เหล่านี้ดี และมากขึ้นทุกวัน เพราะมีรุ่นใหม่ๆ ออกมาในตลาดให้เลือกตลอดเวลาเลยก็ว่าได้ GoLife X Pro เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่มีวางจำหน่ายแล้วในไทย ซึ่งรองรับการออกกำลังายหลัก ทั้งวิ่ง ทั้งปั่น ทั้งว่ายน้ำ ได้ครบถ้วน เรียกว่าเป็นอีกรุ่นนึงที่เป็นทางเลือก สำหรับคนชอบออกกำลังกาย โดยเฉพาะไตรกีฬา
สำหรับ GOLiFE GoWatch X-PRO เจ้าของจริงๆ ก็คือ Papago นั่นเอง หากใครเคยเล่นอุปกรณ์นำทาง ก็คงจะพอรู้จักค่ายนี้ดี ซึ่งเค้ามีทำด้าน GPS Sport Watch ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งเจ้า GoWatch X-PRO ถือว่าเป็นรุ่นใหญ่ลำดับต้นๆ ของแบรนด์ GOLiFE แล้วล่ะครับ รองรับกีฬาได้ทั้งวิ่ง ทั้งปั่น ทั้งว่าย เรียกว่าไตรกีฬาได้ครบเลย มาดูสเปคกันก่อนเลยละกันครับ
ซึ่งมีราคาค่าตัวอยู่ที่ 8990 บาท เรียกว่าราคาย่อมเยาว์มากเลยครับ หาใน Lazada ก็ได้
ตัวกล่องมีบอกฟีเจอร์เอาไว้ครบถ้วน นอกจากกันน้ำแล้วยังเป็นเข็มทิศได้ วัดสภาพความกดอากาศก็ได้ อุณหภูมิก็ได้อีกต่างหาก
และกีฬาที่รองรับก็ตามภาพ แต่ว่าปีนเขาคงไม่ค่อยมีคนใช้หรอกนะ ส่วนใหญ่บ้านเราก็ วิ่ง ว่าย ปั่น
โดย GoWatch X-PRO รุ่นนี้มีขนาดเรือนใหญ่อยู่พอสมควร วัสดุแข็งแรงและทนทานแน่นอนตามสไตล์ของ GPS Sport Watch
อุปกรณ์ภายในกล่องครับ มีตัวรัดสายนาฬิกาเพิ่มให้อีกอันนึงด้วย สงสัยว่าอาจจะมองว่าหายหรือขาดง่ายล่ะมั้ง
สายชาร์จเป็นลักษณะนี้ครับ เป็นตัวหนีบซึ่งเป็นปกติของ GPS Sport Watch เช่นกัน
ลองชาร์จให้ดูครับ ก็ประมาณนี้เลย
หน้าจอขนาด 4.5 มม. ก็ถือว่าใหญ่พอสมควร มองเมนูต่างๆ ชัดเจน ส่วนปุ่มกดมีให้เพียบเลย ทำอะไรบ้างก็ตามสัญลักษณ์ที่บอกเลยครับ
ปุ่มด้านข้างยื่นออกมาเยอะ สัมผัสได้ง่าย
อีกด้านก็เช่นเดียวกัน แต่คำสั่งของปุ่มสำหรับใครที่เคยใช้งาน Garmin แบรนด์ยอดนิยมมาก่อนก็คงแอบงงหน่อยนะ
สายเป็นยาง TPU ยืดหยุ่นและใส่สบาย
มีการออกแบบช่องปรับสายไว้ถี่มากคือจะข้อมือเล็กหรือใหญ่รับประกันได้เลยว่าใส่ได้แน่นอน
ส่วนเหล็กสำหรับล็อคสายก็เป็นลักษณะหน้าเดียว ขนาดใหญ่พอสมควร แน่นหนาดี
ด้านล่างของตัวเรือนมีบอกรายละเอียดพร้อมหน้าสัมผัสสำหรับชาร์จ รุ่นนี้ไม่มีวัด Heart Rate นะครับ เป็นที่น่าเสียดายจริงๆ
เปรียบเทียบตัวเรือนกับ Garmin Forerunner 235 ที่ใช้อยู่สักหน่อย ราคาไล่ๆ กันแต่ GOLiFE GoWatch X-PRO นี่ได้ตรงว่ายน้ำได้ และมีกีฬามากชนิดกว่า
ส่วนความหนาถ้าเทียบกันแล้ว GOLiFE GoWatch X-PRO หนากว่าเห็นๆ
ลองใส่ข้อมือดู ใหญ่พอตัวเลยล่ะ
มาดูที่หน้าจอกันบ้างว่ามีเมนูอะไร ใช้งานกับกีฬาอะไรได้บ้าง
เรียกว่าเป็นข้อดีจุดนึงเลยก็ว่าได้ หน้าจอมีตัวอักษรที่ใหญ่ชัดเจน ใช้เป็นนาฬิกาบอกเวลาสบายๆ
ถ้าดูเมนูต่างๆ ที่มีให้ กีฬาที่รองรับคือ แทบจะครบแล้วล่ะครับ วิ่ง ปั่น ว่าย และยังรองรับไตรกีฬา และ แบ่งเป็น ฮาล์ฟ หรือ ฟูลมาราธอนอีกด้วย เรื่องแบตไม่ต้องห่วง อึดสุดๆ
เมนูต่างๆ ที่ไม่สำคัญอาจจะขอข้ามไปนะครับ
การตั้งค่าอันนึงคือการวัด HR ตัว GoWatch X-PRO เองไม่มี HR Sensor ก็จริง แต่ใช้งานร่วมกับสายคาดหน้าอกได้ ซึ่งซื้อเพิ่มเติมได้ ดังนั้นจึงมีการตั้งค่าเกี่ยวกับ HR รองรับเอาไว้เรียบร้อย จะว่าไปก็เป็น gen ของนาฬิกาสายออกกำลังกายในปีก่อนๆ ล่ะครับ
ตัว GPS เองเท่าที่ดูแล้วหากอยู่ในที่ร่ม อาจจะลำบากหน่อย รู้สึกว่าจับช้าและมีหลุดเป็นช่วงๆ เวลาว่ายน้ำที่มีหลังคาบังนี่ชัดเจนมาก ส่วนวิ่งกลางแจ้งไม่มีปัญหาใดๆ
มีฟีเจอร์บอกความกดอากาศและอุณหภูมิได้ด้วยนะ คนที่ออกกำลังกายก็คงอยากรู้เรื่องนี้ไม่น้อยเหมือนกัน
ใช้แทนเข็มทิศได้ นั่นหมายถึงสามารถนำไปเดินป่าได้นั่นเอง หรือไม่ก็วิ่งเทรลล่ะครับ
จริงๆ ที่หน้าจอมีบอกสรุปรายการอยู่นะ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนก้าวแต่ละวัน ระยะทาง เผาผลาญไปแล้วกี่แคลลอรี่
กรณีไปวิ่งก็มีบอกรายละเอียด ต่างๆ ครบถ้วน แต่เอาจริงๆ แล้วข้อมูลเหล่านี้ควรซิงค์เข้ากับแอปที่ชื่อว่า GOLiFE FIT หาดาวโหลดได้ทั้ง Android และ iOS ล่ะครับ หน้าที่การเป็น GPS Sport Watch ทำได้ค่อนข้างดีและน่าพอใจเลยทีเดียว
จะมีก็จุดด้อยที่ลำบากใจในการใช้งานอย่างมากก็คือ ภาษาไทย ถึงแม้ว่าจะซิงค์ใช้งาน มีบรรดา noti ต่างๆ โชว์ได้ก็ตามทีแต่เรื่องสระต่างๆ นี่ทำให้อ่านลำบากเหมือนกัน
แถมบางจังหวะยังมีภาษาจีนติดอยู่ด้วย เอาเป็นว่าก็คงต้องรอการพัฒนาเพิ่มเติม ผมว่า GoWatch X-PRO ยังถือว่าใหม่ในบ้านเรานะ
ลองใส่ว่ายน้ำ ก็ทำได้ดี กันน้ำชัวร์ๆ ไม่ต้องกังวลเลยอันนี้ ซึ่งส่วนของการใช้งานเจ้า GoWatch X-PRO โดยรวมแล้วประทับใจตรงแบตที่อึดสุดๆ อาจจะด้วยหน้าจอขาวดำ และไม่ได้ Heart Rate ในตัวนั่นเอง ดีไซน์ผมว่าก็สวยระดับนึงแล้วล่ะ ใส่ไปทำงานได้ไม่อายใคร มาดูเรื่องแอปที่ใช้งานร่วมกันบ้าง
การใช้งานเบื้องต้น ต้องมี account ถ้าไม่มีก็สมัครได้เลย ส่วนตัวแอปเองก็ไม่สมบูรณ์เท่าไหร่นะ ยังมีติดภาษาจีนมาเช่นเดียวกัน
การเพิ่มอุปกรณ์ก็ไม่ยากครับ เลือกอุปกรณ์ให้ถูกต้องแล้วจัดได้เลย เอาจริงๆ GOLiFE มีอุปกรณ์อื่นๆ อีกเพื่อสุขภาพ หากสนใจก็คงต้องรอติดตามกันต่อไป
จริงๆ มี interface ที่สามารถปรับหน้าปัทม์เป็นลักษณะต่างๆ ได้ด้วยนะ ถือว่าเป็นฟังก์ชั่นของ Smartwatch ที่ต้องมีเลยล่ะ จะมีให้เปลี่ยนมากหรือน้อยไม่ว่ากัน
ความไม่สะดวกอันนึงในการใช้งานก็คือ หากต้องการเก็บข้อมูลจากนาฬิกาล่ะก็ต้องกด Sync เอง เรยกว่าเป็น manual sync ก็คงไม่ผิดนัก
เป้าที่มีตั้งไว้ให้สูง 10,000 ก้าวต้องทำให้ได้ เพื่อสุขภาพที่ดี
ตัวอย่างรีพอร์ทของการปั่น
หลังจากจบก็มาดูรายละเอียดต่างๆ บนเครื่อง Smartphone ที่เราซฺงค์ไว้ได้เลย นอกจากนี้ยังสามารถแทรคนอนได้นะ แต่ผมไม่ได้ทดสอบใส่นอน เพราะตัวเรือนใหญ่พอสมควร
สรุปทิ้งท้าย
เจ้า GoWatch X-PRO มีราคาค่าตัวที่ประมาณ 8000 บาท (ราคา ณ lazada) ซึ่งเรียกว่าเป็นเจนเนอเรชั่นเก่าไปนิด เพราะขาดเรื่องของเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจที่ตอนนี้เป็นพื้นฐานไปแล้ว วัสดุ และฟีเจอร์ ก็คุ้มสมราคา การใช้งานที่ลำบากหน่อยก็คือเรื่อง ภาษาไทย และการซิงค์ที่ต้องกดเอง ที่เหลือ ก็อยู่ที่การปรับตัว เพราะผมเองก็ใช้ Garmin มาก่อน พอมาใช้เจ้า GoWatch X-PRO นี่ก็แอบงงกับปุ่มกด และการเรียกใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ อยู่พอสมควร ก็คงรอดูรุ่นต่อๆ ไป ที่ทันสมัยและถ้าออกมาใหม่ราคาไม่แรงมากก็น่าสนใจ
ขอบคุณ ไทยเวย์โปรดักส์ที่ให้ยืมอุปกรณ์ทดสอบ
ถูกใจบทความนี้ 3
You must be logged in to post a comment.