Preview Nokia 8 จากงานเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย !!

Preview Nokia 836

 สิ้นสุดการรอคอยสำหรับแฟน ๆ ชาวไทย โดยวันนี้ HMD Global จัดงานแถลงข่าวเปิดตัว Nokia 8 ในไทยอย่างเป็นทางการ และพร้อมวางจำหน่ายในบ้านเราตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (29 ส.ค. 60) เป็นต้นไป ซึ่งทาง Nokia เคาะราคาค่าตัวของ Nokia 8 ออกมาเบา ๆ เพียง 19,500 บาทเท่านั้น และในช่วงที่รอเครื่องรีวิวอย่างเป็นทางการ วันนี้มารับชมพรีวิวเป็นการเรียกน้ำย่อยกันไปพลาง ๆ ก่อนนะครับ 

 

สเปคเบื้องต้นของ Nokia 8

● จอแสดงผลชนิด IPS LCD, ขนาด 5.3 นิ้ว ความละเอียด QHD 1440 x 2560 พิกเซล (554ppi), ความสว่าง 700 nits กระจกกันรอย Gorilla Glass 5  ฟีเจอร์ Always On Display
● ซีพียู Snapdragon 835
● หน่วยประมวลผลกราฟิค Adreno 540
● แรม 4GB
● หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 64GB รองรับการ์ดหน่วยความจำภายนอกสูงสุดที่ 256GB
● (สี Polished Blue มีหน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 128 GB, แรม 6 GB)
● กล้องหลังคู่ Dual Camera ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล (color + monochrome), 1.12µm , เลนส์ Zeiss, รูรับแสง f/2.0, ระบบกันสั่น OIS บนเลนส์ RGB , ระบบโฟกัส Laser , phase detection autofocus, แฟลชคู่ dual-LED flash, รองรับการบันทึกวีดีโอ 4K
● กล้องหน้า 13 ล้านพิกเซล, เลนส์ ZEISS , ออโต้โฟกัส, รูรับแสง f/2.0, เลนส์มุมกว้าง 78.4˚
● รองรับ 4G LTE Cat. 9, 3CA, 450Mbps DL/50Mbps UL
● WiFi 802.11 a/b/g/n/ac (MIMO), BT 5.0, GPS/AGPS+GLONASS+BDS, NFC (sharing) ANT+
● พอร์ต USB Type-C USB3.1 Gen 1 (5Gbps)
● ระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 (Nougat)
● แบตเตอรี่ความจุ  3090mAh รองรับฟีเจอร์ชาร์จไว Quick Charge 3.0
● ขนาดตัวเครื่อง 151.5 x 73.7 x 7.9 ม.ม.
● สี Tempered Blue, Polished Blue, Steel, Polished Copper
● ราคาวางจำหน่าย 19,500 บาท

 

 

Preview Nokia 825 

Preview Nokia 826 

Nokia 8 มาในดีไซน์ Metal Unibody ที่ออกแบบโดยเน้นความบางเบา มีการเล่น curve ไล่ระดับที่ดูสมดุลลงตัว คือไม่แข็งกระด้าง แต่ก็ไม่อ่อนช้อยจนเกินงาม

สำหรับตัววัสดุจะเป็น อะลูมิเนียมซีรีส์ 6000 ซึ่งมีความแข็งแกร่งทนทานและน้ำหนักเบา อีกทั้งยังใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง ทั้งการขึ้นเฟรมโครงสร้างแบบชิ้นเดียวรวมไปถึงการขัดเงาในแบบกระจก และรองรับการกันน้ำกันฝุ่นในระดับ IP54

ฟิลลิ่งในการจับถือต้องบอกว่าน่าประทับใจครับ ด้วยดีไซน์ที่มีความโค้งมนสอดรับเข้ากับสรีระของฝ่ามือ แถมตัวเครื่องยังมีน้ำหนักเบาอีกด้วย ในด้านงานประกอบนั้นก็เรียบร้อยแข็งแรงดีมาก ๆ ยังรักษามาตรฐานที่ดีของแบรนด์ไว้ได้อย่างเหนี่ยวแน่น

 

Preview Nokia 81

จอแสดงผลเป็นอีกหนึ่งจุดขายหลักของ Nokia 8 ครับ โดยมาพร้อมพาเนล IPS ขนาด 5.3 นิ้ว ความละเอียด QHD 1440 x 2560 พิกเซล (554ppi), เป็นจอสู้แสงที่สามารถใช้งานกลางแจ้งได้สบายมาก ๆ เพราะเคลือบโพลาไรซ์และมีความสว่างที่สูงถึง 700 nits สำหรับตัวกระจกเป็นแบบโค้ง 2.5D และปกป้องป้องกันด้วยกระจกกันรอย Gorilla Glass 5 

ในส่วนของกล้องหน้าให้ความละเอียดมาเท่ากับกล้องหลังที่ 13 ล้านพิกเซล แถมยังใช้เลนส์จาก ZEISS อีกด้วย ฟีเจอร์อื่น ๆ ที่น่าสนใจก็คือ มาพร้อมระบบออโต้โฟกัส / ค่ารูรับแสง f/2.0, เลนส์มุมกว้าง 78.4˚ ใช้ระบบแฟลชจากหน้าจอแสดงผล

 

Preview Nokia 835

ปุ่มโฮมจะเป็นแบบ Solid-State และมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือในตัว สำหรับปุ่มโฮมแบบ Solid-State คืออะไร อธิบายง่าย ๆ เป็นปุ่มโฮมแบบสัมผัส ที่ต่างจากปุ่มกดแบบเดิม ๆ ที่เวลากดแล้วจะยุบตัวลงไป หรือที่เรียกว่า Hard key button ซึ่งปุ่มโฮมแบบใหม่นี้จะช่วยยืดอายุการใช้งานให้สามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้นกว่าเดิมนั่นเองครับ ส่วนปุ่ม Back และ Recent Apps จัดวางอยู่ด้านข้างปุ่มโฮม โดยทั้ง 2 ปุ่มมีไฟแบล็คไลท์มาให้ใช้งานด้วย


 

Preview Nokia 82

เลนส์คู่ของ Nokia 8 จะมีความละเอียดเท่ากันที่ 13 ล้านพิกเซล แบ่งเป็นเลนส์ที่ใช้รับภาพสี RGB 1 เลนส์ และรับภาพขาวดำ monochrome 1 เลนส์ มีพิกเซลไซส์ขนาด 1.12um ค่ารูรับแสง f/2.0 ระบบกันสั่นจะมีอยู่ในเลนส์รับภาพสีเท่านั้น สำหรับระบบโฟกัสจะเป็นแบบ laser & phase detection autofocus พร้อมไฟแฟลชคู่ dual tone รองรับการบันทึกวีดีโอ 4K

สรุปกล้องคู่ของ Nokia 8 จะมีฟีเจอร์ในสไตล์ที่คล้ายกับค่าย Huawei ครับ คือเป็นกล้องคู่ที่มีหลักการทำงานแบ่งเป็นรับภาพสีกับขาวดำ ซึ่งจะแตกต่างจาก iPhone 7 หรือ OnePlus 5 ที่ใช้เลนส์คู่แบบ เลนส์ Normal + เลนส์ทางยาวหรือ telephoto ซึ่งจะช่วยในเรื่องของการซูม ส่วนฟีเจอร์ของเลนส์คู่แบบรับภาพสี+ขาวดำจะเด่นในเรื่องไวท์บาลาสน์ที่แม่นยำและการให้โทนสีสันของภาพที่สมจริงครับ

 

มาดูองค์ประกอบการจัดวางวเลย์เอาท์ส่วนอื่น ๆ กันต่อครับ

 

Preview Nokia 831

ด้านบนของตัวเครื่องจะมีเพียงช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. เท่านั้น

 

 

Preview Nokia 827

ส่วนด้านล่าง ไล่จากซ้ายไปขวาประกอบไปด้วย ไมค์สนทนา, พอร์ต USB -C, และลำโพงหลักของตัวเครื่อง

 

 

Preview Nokia 829

Preview Nokia 828

ฝั่งซ้ายจะเป็นที่อยู่ของช่องถาดซิมการ์ด + หน่วยความจำภายนอก โดยเป็นแบบไฮบริดสล็อต

 

Preview Nokia 830

ทางฝั่งขวาคือที่อยู่ของ ปุ่มเพิ่ม/ลดระดับเสียงและปุ่มพาวเวอร์

 

Preview Nokia 824

Preview Nokia 823 

ลองเทียบสีให้ดูสักเล็กน้อยครับ แต่น่าเสียดายที่สี Polished Blue (สีน้ำเงินมันเงา) ไม่มีตัวเครื่องให้ถ่ายในงาน

 

 

Preview Nokia 832 

Preview Nokia 833 

ลองจับประกบกับมวยถูกคู่ (ในเรื่องกล้อง) อย่าง Huawei P10 Plus

 

Preview Nokia 834

เรื่องความบางเบา ตามสเปคนั้นสูสีครับ แต่ Nokia 8 ออกแบบโดยใช้การเล่น curve แบบไล่ระดับ จึงส่งผลให้ดูเหมือนว่าจะมีความเพรียวบางกว่า เมื่อมองในภาพรวม ๆ

 

 

Preview Nokia 837

ทางฝั่งระบบปฏิบัติการ เป็น Pure Android ซึ่งมีข้อดีคือไม่ต้องมีการปรับแต่งมากนัก ไม่มีฟีเจอร์รกรุงรังจุกจิกจนฉุดให้เครื่องหน่วง แถมมีข้อดีตรงที่สามารถรองรับการอัพเดตได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และทางโนเกียประกาศออกมาแล้วว่า Nokia 8 จะได้รับการอัพเดต Android 8 Oreo อย่างแน่นอน ทางฝั่งผู้ใช้งานก็สบายใจกันได้เลยครับ

 

 

ต่อกันด้วยจุดขายหลักก็คือเรื่องกล้องครับ

 

ตามที่ได้เกริ่นไปในตอนต้น Nokia 8 นั้นมาพร้อมกล้องเลนส์คู่ ที่ความละเอียดเท่ากัน13 ล้านพิกเซล โดยแบ่งเป็นเลนส์ที่ใช้รับภาพสี RGB 1 เลนส์ และรับภาพขาวดำ monochrome 1 เลนส์ ซึ่งจะมีจุดเด่นคือรองรับการถ่ายภาพขาวดำได้ดีและจะเด่นในเรื่องไวท์บาลานซ์ที่แม่นยำรวมไปถึงการไล่เฉดสีสันของภาพที่ให้ความสมจริงนั่นเองครับ

แต่ว่าในพรีวิวนี้ผมมีเวลาน้อยมาก จึงขอเน้นการถ่ายภาพปรกติเทียบกับภาพในโทนขาวดำมาให้ดูกันแบื้องต้น และรวมไปถึงฟีเจอร์ Bothie ที่ทางโนเกียชูเป็นจุดขายอยู่ในขณะนี้

 

Preview Nokia 838 

Preview Nokia 839 

ตัวฟีเจอร์ Bothie ไม่ใช่ของใหม่แต่อย่างใด จริง ๆ  แล้วมันก็คือการถ่ายภาพพร้อม ๆ กันด้วยกล้องหน้าและกล้องหลัง ซึ่งบน Nokia 8 นั้นสามารถเลือกได้ว่าจะถ่ายเป็นภาพนิ่ง+ ภาพนิ่ง , ภาพนิ่ง+วีดีโอ หรือวีดีโอ+วีดีโอ เป็นต้น

 

 

Preview Nokia 840 

Preview Nokia 841 

โหมดการถ่ายที่เลือกได้ว่าจะถ่ายด้วยกล้องเลนส์คู่ หรือกล้องเลนส์เดียวโดยแยกเป็นเลนส์สี หรือขาวดำ ซึ่งก็ถือว่าเป็นความยืดหยุ่นที่แปลกดีเหมือนกัน เพราะเราไม่ได้เห็นในสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่น ๆ  ที่ใช้กล้องเลนส์คู่เหมือน ๆ กันครับ

 

 

Preview Nokia 843 

Preview Nokia 842

โหมดหน้าชัดหลังเบลอ หรือโหมดสร้างโบเก้บน Nokia 8 ก็มีมาให้ใช้งานเหมือนกันครับ โดยบน Nokia 8 จะใช้ชื่อว่าโหมด ไลฟ์โบเก้ โดยเราสามารถปรับการเบลอหรือละลายฉากหลังได้ทั้งก่อนการถ่าย หรือจะมาปรับในภาพหลังด้วยตัว Photo editer ก็ได้เช่นกันครับ

 

 

 

จากนี้ไปดูรูปถ่ายจากกล้อง Nokia 8 กันได้เลยครับ

 

Preview Nokia 83 Preview Nokia 84 

Preview Nokia 817

Preview Nokia 816

 

 

ต่อกันด้วยโหมด Bothie จากน้องๆ  พริตตี้ภายในงานครับ

Preview Nokia 85

Preview Nokia 86

Preview Nokia 87

Preview Nokia 88

Preview Nokia 89

Preview Nokia 810

Preview Nokia 811

โหมด Bothie ถ้าในสถาพแสงดี ๆ  ถือว่าน่าประทับใจเลยครับ และโหมดนี้เรายังสามารถประยุกต์นำไปใช้งานได้อย่างยืดหยุ่นอีกด้วย

 

 

เปรีบเทียบระหว่างโหมดปรกติและโหมดขาวดำ

Preview Nokia 812

Preview Nokia 813

Preview Nokia 814

Preview Nokia 815

Preview Nokia 818

Preview Nokia 819

 

Preview Nokia 821

Preview Nokia 820

 

Preview Nokia 822

โหมดไลฟ์โบเก้ ที่ใช้ Software ในการประมวลผล ในภาคการใช้งานจริงก็ทำผลงานได้ดีระดับหนึ่งครับ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นกับองค์ประกอบของภาพรวมด้วยแหล่ะครับ เพราะข้อจำกัดยังไงก็เป็นการใช้ Software ในการขับเคลื่อน ซึ่งเราไม่สามารถปรับแต่งอะไรได้มากนัก

 

สรุปส่งท้าย หลังจากได้จับ ได้สัมผัสเครื่องจริงภายในงานวันนี้ ในด้านดีไซน์การออกแบบ รวมไปถึงฟิลลิ่งการจับถือพกพา ผมมีความประทับใจและให้สอบผ่านครับ แต่ทั้งนี้เป็นแค่การสัมผัสแบบเพียงผิวเผินเพียงไม่กี่ชั่วโมง บางฟีเจอร์ก็ยังไม่มีเวลาทดสอบหรือได้ลองใช้งานอย่างจริงจัง จะให้ฟันธงหรือสรุปออกมาแบบละเอียดคงทำไม่ได้ครับ เอาเป็นว่ารอติดตาม Full Review กันดีกว่า เพราะจะได้มีเวลาทดสอบแบบนาน ๆ และจัดเต็ม ซึ่งถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดคาดว่าทางเว็บจะได้เครื่องมารีวิวในเร็ว ๆ นี้ครับ

สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณที่ติดตามอ่านกันนะครับ



ถูกใจบทความนี้  0