สวัสดีครับ วันนี้มาแนะนำทิปง่าย ๆ ในการแก้ปัญหาหลังการอัพเดต Firmware แบบข้าม OS เช่น Firmware เดิมที่มาจากโรงงานเป็น Android 6.0 และอัพไปยังเวอร์ชั่นที่สูงขึ้น เช่น GR5 2017 ที่ได้อัพเป็น Android 7.0 ซึ่งมีหลาย ๆ เสียงบ่นกันมาว่าอัพแล้วเครื่องหน่วงบ้าง ร้อนบ้าง หรือแบตหมดไวกว่าเดิมเป็นต้น ตรงนี้เราสามารถแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง ถึงแม้จะไม่สามารการันตีว่าจะหายแบบ 100% แต่ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกครับ
เกริ่นนำสักเล็กน้อย ปัญหาจากการอัพเดต Firmware ผมอธิบายง่าย ๆ ไม่อิงวิชาการมากนัก ในกรณีที่เป็นการอัพเดตแพทช์ความปลอดภัยหรือแก้บั๊คทั่วไป ที่ยังอยู่ใน System ROM เวอร์ชั่นเดิม ตรงนี้ไม่ใช่การอัพแบบข้ามโอเอส จึงพบปัญหาค่อนข้างน้อย
ส่วนการอัพข้ามโอเอสนั้นจะมีรูปแบบที่แตกต่างกันครับ เช่นจาก 6.0 ไปยัง 7.0 แบบนี้มีปัญหาแน่ เพราะตัว Firmware นั้นต้องมีการปรับปรุงจาก Core หลักของ Google เพื่อให้เหมาะกับ Hardware หรือฟีเจอร์เฉพาะทางของรุ่นนั้น ๆ ซึ่งการอัพเดตแบบข้ามโอเอสจะมีการปรับ Kernal ปรับชุดคำสั่ง API ฯลฯ เพื่อสั่งงานไปยัง Hardware ภายในเครื่อง หรือแม้กระทั่งแอพต่าง ๆ ที่เราติดตั้งลงไปก็อาจจะไม่ compatible กับ Firmware ใหม่ของเรา จนส่งผลให้เครื่องมีอาการแปลก ๆ ก็มีความเป็นไปได้เช่นกันครับ สรุปง่าย ๆ คือ อัพข้ามเวอร์ชั่นยังไงก็มีปัญหา แต่จะมากหรือน้อยก็ว่ากันไปเป็นเคส ๆ
มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ในกรณีที่เราอัพเดตข้ามโอเอสแล้วพบปัญหา เราสามารถแก้ไขเบื้องต้นได้ง่าย ๆ ด้วยวิธีการทำ factory reset ซึ่งจะมี 2 รูปแบบด้วยกัน
วิธีที่ 1 ลบแบบคลีนเกลี้ยงเกลา
วิธีนี้จะทำผ่านโหมด Recovery ของตัวเครื่องครับ และวิธีนี้จะลบข้อมูลทุก ๆ อย่างของเรา ก่อนลงมือทำให้สำรองข้อมูลต่าง ๆ ไว้ด้วยนะครับ
การเข้า Recovery mode ของ GR5 2017 ให้ทำตามภาพตัวอย่างเลยครับ
หลังจากเข้า Recovery mode ได้แล้ว ให้ทำตามนี้
1. เลือกไปที่ Wipe cache partition
2. ต่อด้วยการ Wipe data/factory reset
3. เมื่อเสร็จทุกขั้นตอนเลือกไปที่ Reboot system now
วิธีที่ 2 factory reset ผ่านเมนูการตั้งค่า ซึ่งหลายคนน่าจะรู้กันแล้ว ส่วนมือใหม่ให้ปฏิบัติดังนี้
1. เข้าที่เมนูการตั้งค่า เลือกไปที่ ” การตั้งค่าขั้นสูง”
2. การสำรองข้อมูลและการรีเซ็ต
3. ให้ทำการสำรองข้อมูลก่อนการ factory reset ด้วยนะครับ
จะแบ็คอัพผ่านตัวระบบ หรือแบ็คอัพผ่าน HiClound ของหัวเว่ยก็ได้เช่นกัน หลัก ๆ ก็จะเป็นการสำรองข้อมูลทั่ว ๆ ไป
เมื่อสำรองข้อมูลเรียบร้อยแล้ว ให้ทำการรีเซ็ตโทรศัพท์ได้เลย
วิธีที่ 3 วิธีนี้บอกตรง ๆ ว่าอาจจะได้ผลน้อยที่สุด
ถ้าเฟิร์มแวร์นั้นไม่มีบั๊ค แต่เป็นปัญหาที่เกิดจากแคชภายในแอพเดิมหรือแอพที่เราติดตั้งไว้ในเครื่อง วิธีนี้จะช่วยประหยัดเวลาได้เยอะ เพราะไม่ต้องรีเซ็ทเครื่องใหม่แต่อย่างใด
ผมขอยกตัวอย่างคร่าว ๆ นะครับ สมมุติว่าเราใช้งานแอพหนึ่งแอพใดแล้วรู้สึกหน่วง ๆ เป็นพิเศษ ก็ให้เดาว่าแอพนั้นอาจจะมีปัญหากับตัวเฟิร์มแวร์ ซึ่งเราสามารถแก้ไขได้โดยไม่ต้องลบแอพและลงใหม่ให้เสียเวลา
มาดูวิธีกัน
1. เข้าไปที่การตั้งค่า เลือกไปที่ แอป (เลือกแอพที่เราสงสัย)
2. ไปที่เมนู ที่เก็บข้อมูลของแอพนั้น ๆ
3. ทำการล้างแคช และตามด้วย ล้างข้อมูล
วิธีนี้แอพไม่หาย แต่ข้อมูลการตั้งค่า การล็อคอินจะหายไป เราก็เพียงเข้าไปล็อคอินและตั้งค่าใหม่เท่านั้นเอง
สรุป วิธีที่ 1 เป็นวิธีที่ดีที่สุด และนอกจากนี้ เรายังสามารถใช้วิธีที่ 1 + วิธีที่ 2 เพื่อการล้างแบบเกลี้ยงเกลาให้หายคาใจได้อีกด้วย
ส่วนวิธีที่ 3 ถ้าเฟิร์มแวร์ปรับแต่งมาดีไม่มีปัญหา ตรงนี้ก็เป็นอีกหนึ่งโซลูชั่นในการแก้ปัญหาระหว่างแอพพลิเคชั่นกับตัวเฟิร์มแวร์ใหม่นั่นเอง
แต่ที่กล่าวมาทั้งหมด ผมไม่สามารถการันตีว่ามันจะหายขาดเป็นปลิดทิ้งนะครับ เพราะองค์ประกอบของปัญหานั้นมีหลาย ๆ อย่างด้วยกัน เอาเป็นว่า บทความนี้เป็นหนึ่งในทางเลือกในการแก้ปัญหาหลังจากการอัพเดตเฟิร์มแวร์แบบข้ามโอเอสสำหรับเพื่อน ๆ ชาว GR5 2017 นะครับ
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณที่ติดตามอ่านครับผม
ถูกใจบทความนี้ 122
You must be logged in to post a comment.