ต้องบอกเลยว่ากล่อง Android TV Box ถ้าเป็นรุ่น Top ในท้องตลาด จะมีสเปคที่ไม่หนีกันมาก อาทิเช่น ตัวชิปเซ็ท แรม จีพียู รวมไปถึงการเชื่อมต่อต่าง ๆ ที่ในภาพรวมนั้นแทบจะมาในแพทเทิร์นเดียวกันก็ว่าได้ครับ สิ่งที่จะสร้างความแตกต่างจริง ๆ คงเป็นเรื่องดีไซน์ งานประกอบ เวอร์ชั่นของตัวระบบปฏิบัติการและดีเทลเล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต่างหากที่ส่งผลต่อการตัดสินใจ และวันนี้ผมก็มีอีกหนึ่งตัวเลือกมาฝาก สำหรับคนที่กำลังมองหา Android TV Box มาใช้งานที่บ้านครับ
MECOOL BB2 PRO Specification
• CPU: Amlogic S912 Octa-core 2.0GHz 64bit
• GPU: ARM Mali-T820MP3 GPU up to 750MHz (DVFS)
• RAM: 3GB DDR4
• ROM: 16GB eMMC Flash
• OS: Android 6.0
• Ehternet: Ethernet:10/100M/1000M, standard RJ-45
• WIFI: Support 802.11 b/g/n ac, 2.4G/5G
• Video Decoder: H.265, VP9
• Support HDR10 4K@60fps Bluetooth 4.0
• ราคา 2,464 บาท
สั่งซื้อได้ที่นี่ครับ https://goo.gl/fDHR51
กล่องแพ็กเกจของ MECOOL BB2 PRO ทำออกมาได้แข็งแรงและดูดีกว่าหลาย ๆ รุ่นที่ผมเคยรีวิวไปก่อนหน้านั้นครับ โดยมาในโทนสีขาวสะอาดตา มีรูปตัวเครื่องพร้อมฟีเจอร์ที่เป็นจุดขายแปะไว้ที่ด้านบนของตัวกล่อง
ด้านหลังพิมพ์บอกสเปคเบื้องต้นมาให้อ่านกันพอสังเขป ในภาพรวม ๆ ของ MECOOL BB2 PRO จะมาพร้อมสเปคระดับเดียวกับกล่องแอนดรอยด์รุ่น Top ในท้องตลาด ส่วนความแตกต่างก็คือ MECOOL BB2 PRO ใช้แรมชนิด DRR4 ซึ่งได้ความสดใหม่และความเร็วกว่าตัว DRR3 ครับ นอกจากนี้ยังมีเสาอากาศมาให้ด้วย เหมาะกับคนที่อยู่บ้าน 2 ชั้น/ตึกแถว หรืออยู่ห่างเราเตอร์ภายในบ้านครับ
สำหรับอุปกรณ์ภายในกล่องของ MECOOL BB2 PRO จะมีดังนี้ครับ
1. คู่มือการใช้งานฉบับย่อ (ภาษาอังกฤษ)
2. Power Adapter 5V แบบพับเก็บขาได้
3. สาย HDMI
4. รีโมทคอนโทรล
5. เสาอากาศ
หลังจากประกอบเสาอากาศเข้าไปก็จะมีหน้าตาประมาณนี้ สำหรับตัววัสดุหลักจะเป็นโพลีคาร์บอเนต หรือพลาสติกนั่นเอง ในแง่ของงานประกอบต้องบอกว่าอยู่ในเกณฑ์ปานกลาง คือไม่ได้ดีเลิศ แต่ก็ไม่แย่แต่อย่างใด เอาเป็นว่าภาพรวม ๆ ทั้งวัสดุและงานประกอบผมให้สอบผ่านครับ
ด้านหน้า มีสกรีนชื่อรุ่น ถัดมาเป็นช่องรับสัญญาณ IR อินฟาเรด ถัดไปคือปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิดเครื่อง ซึ่งกล่องแอนดรอย์ส่วนใหญ่จะไม่มีปุ่มพาวเวอร์มาให้นะครับ ตรงนี้จะบอกว่าเป็นจุดเด่นออีกอย่างของ MECOOL BB2 PRO ก็คงได้มั้ง
เวลาใช้งานจะมีไฟที่โลโก้แบรนด์ กับแผงรับสัญญาณ IR อินฟาเรดที่ด้านหน้า สำหรับไฟสีแดงคือเครื่องปิดอยู่ ส่วนไฟสีน้ำเงินคือกำลังเปิดใช้งาน
สำหรับพอร์ตการเชื่อมต่อนั้นให้มาอย่างครบถ้วน ประกอบไปด้วย
1. RJ45 Port Speed: 1000M
2. HDMI
3. Sound Output SPDIF (ออปติค)
4. AV
5. DC input
ฝั่งซ้ายมือของตัวกล่องประกอบไปด้วย สล็อตใส่หน่วยความจำภายนอก MicroSD Card และพอร์ต USB 2.0 จำนวน 2 พอร์ต
ฝั่งซ้ายจำนมือจะเป็นที่อยู่เสาอากาศ ซึ่งสามารถปรับได้ 2 ทิศทาง คือปรับก้มลงกับเงยขึ้น (ปรับเอียงซ้าย/ขวาไม่ได้)
ด้านล่างมีช่องระบายความร้อน และยางรองฐานทั้งสี่มุม
ลองเปรียบเทียบกับรุ่นที่เคยรีวิวไปแล้ว ทั้ง Alfawise H96 Pro+ และ Beelink GT1 Ultimate ขนาดโดยรวม MECOOL BB2 PRO จะใหญ่กว่า Beelink แต่จะใกล้เคียง Alfawise H96 Pro+
software features
MECOOL BB2 PRO มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 6.0 ในส่วนของ UI จะเห็นได้ว่าดูเรียบ ๆ ในสไตล์ Pure android ที่แทบจะไม่ได้ปรับแต่งอะไรเลย ตรงนี้ถือว่าเป็นข้อดีนะ เพราะจะช่วยให้การทำงานนั้นมีความเสถียรและส่งผลต่อ performance ในภาพรวมนั่นเองครับ
ฝั่งแอพพลิเคชั่นก็จะไม่มีการบัลเดิลมาให้มากมายแต่อย่างใด เรียกว่าใส่มาเฉพาะที่สำคัญ ๆ และได้ใช้งานจริง อาทิเช่น MX Player, AirPin(Pro)
ด้านการเชื่อมต่อก็ถือว่าครบครันครับ ทั้ง WiFi แบบ Dual 2.4 GHz /5 GHz นอกจากนี้ยังรองรับการแคสต์หรือ mirror ได้อย่างสะดวกง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็น iOS หรือ Android ผ่านทาง Media Center และ AirPin(Pro)
ติดตั้งโปรแกรมเสริมภายนอกจากไฟล์ .apk ได้ง่าย ๆ ผ่านทางแอพ File Browser
Benchmarks & Performance
ผลคะแนนไม่ได้หนีไปจากรุ่น Top ของตลาดกล่องแอนดรอยด์มากนัก แต่ MECOOL BB2 PRO ปรับแต่งเฟิร์มแวร์มาดีมาก ๆ เพราะเลือกใช้แนวทาง Pure android จึงส่งผลให้ performance ในภาพรวมออกมาค่อนข้างดี นอกจากนี้ RAM ชนิด DDR4 ที่ทางค่าย MECOOL ชูเป็นจุดขายก็มีผลด้วยเช่นกันครับ
การใช้งานจริง ทั้งดู Youtube หรือท่องเว็บ ขอบอกว่าลื่นไหลดีมาก
ด้านการเล่นเกมก็ฉลุยครับ สมูทลื่นไหล ไม่พบอาการหน่วงหรือสะดุดติดเขัดรบกวนจิตใจ ยังไงลองรับชมคลิปวีดีโอช่วงทดสอบการใช้งานจริงได้จากด้านบนของบทความนี้ครับ
สรุป MECOOL BB2 PRO
สเปคในภาพรวมไม่แตกต่างไปจากรุ่น Top ที่ผมเคยรีวิวไปก่อนหน้านั้น อาทิเช่น Alfawise H96 Pro+ หรือ Beelink GT1 Ultimate แต่สิ่งที่เป็นจุดขายและสร้างความแตกต่างจริง ๆ ของ MECOOL BB2 PRO ก็คือ
1.มีเสาอากาศมาให้ด้วย จึงเหมาะกับการที่ใช้งานในมุมอับ ๆ หรืออยู่ไกลจากเราเตอร์ภายในบ้าน เพราะการที่มีเสาอากาศทำให้ภาคการรับสัญญาณนั้นดีขึ้น
ส่วนที่ 2 ก็คือ เลือกใช้แรมชนิด DRR4 ที่เป็นรุ่นใหม่ จึงส่งในภาพรวมเมื่อเทียบกับรุ่นอื่น ๆ ที่มีสเปคเหมือนกัน แต่ใช้แรมชนิด DRR3
และสุดท้ายก็คือตัวเฟิร์มแวร์ครับ จะพูดว่าเป็นจุดขายก็ได้ เป็นจุดอ่อนก็ย่อมได้เช่นกัน เพราะ MECOOL BB2 PRO ทำ UI ออกมาในสไตล์เรียบ ๆ แถมไม่มีแอพบันเดิลเยอะให้รกเครื่องเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่น ๆ ตรงนี้มีข้อดีคือ ตัวเครื่องจะทำงานได้อย่างสมูทลื่นไหล ส่วนข้อด้อยก็คือหน้าตัวหรือตัว UI ช่างดูโบราญและน่าเบื่อไปสักนิด
สุดท้ายถ้าอ่านรีวิวนี้จบ เชื่อว่าเพื่อน ๆ คงมีคำตอบในใจ เพราะผมบอกเล่าในส่วนที่เป็นไฮไลท์ รวมไปถึงข้อดี ข้อด้อยของ MECOOL BB2 PRO แบบตรงไปตรงมา ถ้าอยากได้ความเร็วลื่นไหล Alfawise H96 Pro+ และ MECOOL BB2 PRO ไม่แตกต่างกันมาก แต่ถ้าต้องใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ต้องการความยืดหยุ่น เช่นระยะห่างจากแหล่งสัญญาณอินเทอร์เน็ต ทาง MECOOL BB2 PRO จะได้เปรียบเพราะมีเสาอากาศมาให้ด้วยนั่นเองครับ
สุดท้ายก่อนจาก ขอขอบคุณที่ติดตามอ่านกันนะครับ และหากเพื่อน ๆ สนใจ อยากจับจองเป็นเจ้าของ MECOOL BB2 PRO สามารถสั่งซื้อได้ที่นี่ครับ https://goo.gl/fDHR51
You must be logged in to post a comment.