Tips! วิธีการสั่งซื้อสินค้าจาก Gearbest ภาคเบสิค ง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ก็สามารถทำตามได้เลย !!

 มาตามคำเรียกร้องครับ หลังจากมีสมาชิกถามกันเข้ามามากมาย เกี่ยวกับวิธีการสั่งซื้อสินค้าจาก Gearbest ซึ่งจริง ๆ แล้ว วิธีการสั่งซื้อนั้นก็ไม่ได้มีความยุ่งยากสักเท่าไหร่ โดยเราสามารถสั่งซื้อได้ง่าย ๆ แม้จะไม่บัตรเครดิตก็ตาม โดยในบทความนี้ผมจะรวบรวมข้อมูลที่สำคัญจำเป็นและเรียบเรียงมาให้อ่านกันง่าย ๆ  เมื่ออ่านจบแล้วการันตีว่าสามารถสั่งซื้อสินค้าจาก Gearbest ได้เลย 

 

ก่อนอื่นมาเตรียมความพร้อมกันก่อนนะครับ โดยสิ่งที่เราต้องมีคือ

1. อีเมล

2. บัตรเครดิต

สำหรับคนที่ไม่มีบัตรเครดิตสามารถใช้ “บัตรเครดิตจำลอง” ซึ่งมีหลายธนาคารที่เปิดให้สมัครใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น ธ.กสิกร ธนาคารกรุงเทพ ไทยพาณิชย์ กรุงไทย ธนชาติ รวมไปถึงสมัครผ่านแอพอย่าง AirPay Card https://goo.gl/katt9r ,  TrueMoney WeCard แล้วผูกกับบัญชี PayPal ก็ได้เช่นกัน เรียกว่ามีหลากหลายช่องทางให้เลือกใช้งาน ตรงนี้ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละคนแล้วครับ

สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมและวิธีการสมัครบัตรเครดิตจำลองได้ที่อากู๋ google  https://goo.gl/rP2SDj

 

หลังจากเตรียมตัวพร้อมแล้ว เราไปเริ่มต้นการสมัครสมาชิกกับเว็บ Gearbest กันได้เลยครับ

ทั้งนี้เพื่อน ๆ  สามารถสมัครผ่านมือถือหรือแท็บเล็ตได้เช่นกันนะครับ ไม่จำเป็นต้องทำบน PC แต่อย่างใด วิธีก็คือเปิดเบราเซอร์ในมือถือหรือแท็บเล็ต แล้วเข้าไปที่การตั้งค่า เลือกการแสดงผลเป็น “เดสก์ท็อป” ซึ่งจะทำให้มุมมองบนมือถือของเพื่อน ๆ แสดงผลได้เหมือนในบทความนี้ครับ

 

เข้าไปที่เว็บ Gearbest.com เลือกไปที่ Sign in ที่มุมขวาบนของหน้าต่าง จากนั้นคลิ๊กที่ Register

 

ในช่อง Register กรอกรายละเอียดให้ครบถ้วน ทั้งอีเมลของเราและรหัสผ่าน

 

เมื่อเรียบร้อยแล้ว จะมีหน้าต่างแจ้งให้เราทำการ activation หรือการยืนยันการสมัครอีกครั้งทางอีเมล

 

เข้าไปที่เมลของเราแล้วคลิ๊กที่ลิงก์เพื่อทำการยืนยันการสมัครครับ

 

ยืนยันการสมัครเรียบร้อยครับ

 

ทั้งนี้เรายังสามารถ Sign In เข้าเว็บ Gearbest ผ่านทางโซเชี่ยลมีเดียอย่าง Facebook หรือ Google+ ได้อีกช่องทางด้วยนะครับ

 

หลังจากล็อคอินเข้ามาครั้งแรก ให้เรามาปรับแต่งแอคเคาท์ของเราสักเล็กน้อย โดยเลือกไปที่ My Profile

 

จะเปลี่ยนรูป เพิ่มรายละเอียดส่วนตัว หรือเปลี่ยนรหัสผ่านก็จัดการได้ที่หน้านี้ แต่สิ่งที่สำคัญคือให้เราทำการเพิ่มที่อยู่ในการจัดส่งสินค้าของเรากันก่อน โดยเลือกไปที่แท็บ Address book

 

เลือก Add a new Address

 

กรอกรายละเอียดให้ครบถ้วน สำหรับ Gearbest นั้นอนุญาตให้เราสามารถกรอกรายละเอียดเป็นภาษาไทยได้ แต่จริง ๆ แล้วควรกรอกเป็นภาษาอังกฤษ เพราะเราสามารถนำไปใช้กับร้านค้าออนไลน์ทั่วไปในต่างประเทศได้นั่นเอง ซึ่งผมมีทริคมาบอกเล่าสักเล็กน้อย สำหรับการกรอกรายละเอียดตรงนี้

Country / Region ช่องนี้จะถูกบังคับเลือกเป็นประเทศอยู่แล้วข้ามได้เลย

ZIP/Postal Code เป็นรหัสไปรษณีย์ของจังหวัดที่เราอาศัยอยู่

State/County  ตรงนี้คือ อำเภอ หรือ “เขต” สำหรับกรุงเทพฯ

City ตำบล หรือ แขวง ในกรุงเทพฯ

Street Address ตรงนี้ใส่เลขที่บ้าน ซอย ถนน อาคาร หรือหมู่บ้านของเราให้ครบถ้วน

สำหรับคนที่อาจจะไม่ถนัดภาษาอังกฤษ สามารถดูลิสต์รายชื่อจังหวัดและอำเภอทั่วประเทศไทยเป็นภาษาอังกฤษได้ที่นี่ https://goo.gl/86JDHx

สำหรับ ตรอก ซอย ตำบล เราสามารถใช้คำทับศัพท์ได้เลย เพราะไปรษณีย์ในพื้นที่จะคุ้นเคยอยู่แล้ว ไม่ต้องกังวลว่าจะส่งผิด

เช่น หมู่ = Moo, ซอย = Soi, ตำบล = Tambon เป็นต้น

ทิ้งท้ายกันด้วยโปรแกรมแปลงภาษาไทยเป็นภาษาเขียนในภาษาอังกฤษ ซึ่งเราสามารถใช้งานในลักษณะของภาษาคาราโอเกะนั่นเอง

 

ดาวน์โหลดได้ที่นี่ Thai Romanization  https://goo.gl/RTQHrX

 

หลังจากใส่ที่อยู่ในการจัดส่งเรียบร้อยแล้ว จะมีหน้าต่างแจ้งมาตามภาพตัวอย่าง

 

จากนี้มาลองสั่งสินค้ากันได้เลยครับ แนะนำว่าครั้งแรกควรสั่งสินค้าราคาถูก ๆ เป็นการทดสอบทั้งเรื่องการขนส่ง และที่อยู่ในการจัดส่งของเรานั้นถูกต้องเรียบร้อยดีหรือไม่ เมื่อเลือกสินค้าที่ถูกใจได้แล้วให้คลิ๊กที่ไปที่ Add to Cart หรือตระกร้าสินค้านั่นเอง

 

และที่ด้านใต้ของราคาสินค้าจะมีลิงก์ของ SHIPPIG Cost ให้เราเลือกในการจัดส่ง ตรงนี้ขอแนะนำเลยว่าพยายามเลือกไปที่ FREE SHIPPIG เป็นลำดับต้น ๆ อย่าเลือกแบบส่งด่วนอย่าง DHL หรือ EMS เพราะมีโอกาสสูงมากที่จะโดนภาษี (ราคาสูง) แม้จะส่งช้าหน่อย แต่ก็ยังพออุ่นใจในเรื่องโดนภาษีได้บ้าง เพราะถ้าไม่ซวยสุด ๆ โดนสุ่มตรวจขึ้นมาจริงๆ  (แต่เปอร์เซ็นต์ที่โดนก็น้อยมากเช่นกัน ) ส่วนการเลือก SHIPPIG Cost สามารถเลือกในขั้นตอนการชำระเงินได้เช่นกันครับ

 

คลิ๊กเข้าไปที่ตระกร้าสินค้าของเรา ในกรณีที่เรามีส่วนลดคูปองก็เอามากรอกได้ที่ช่อง Promotion Code เพื่อน ๆ สามารถติดตามส่วนลดคูปองได้ที่นี่ https://goo.gl/8qH1YE และ  https://goo.gl/AExzCk หากไม่มีคูปองส่วนลด ให้ทำการชำระสินค้าได้เลย โดยคลิ๊กไปที่  Proceed to Checkout

 

หลังจากคลิ๊กที่ปุ่ม Proceed to Checkout จะมีหน้าของที่อยู่ในการจัดส่งเด้งขึ้นมาเพื่อให้เราคอนเฟิร์ม ก็กดปุ่มคอนเฟิร์มตามรูปตัวอย่างไปเลยครับ

 

คราวนี้จะมาถึงตัวเลือกในการชำระเงิน ซึ่งเราสามารถชำระได้ทั้งผ่าน PayPal หรือบัตรเครดิต

จากนั้นก็ทำไปตามขั้นตอนของระบบเลยครับ

มาถึงตรงนี้ก็เป็นอันเรียบร้อย ทั้งวิธีการสมัครบัตรเครดิตจำลอง การสมัครสมาชิก และการสั่งซื้อสินค้าใน Gearbest ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นเบสิคเริ่มต้นนะครับ ส่วนดีเทลรายละเอียดอื่น ๆ ผมจะมาอัพเดตเพิ่มเติมให้ในภายหลัง

 

นอกจากนี้เรายังสามารถสั่งซื้อสินค้าผ่านทางแอพได้อีกด้วย ซึ่งบางครั้งทาง Gearbest จะทำโปรโมชั่นของสินค้าบางรายการเมื่อสั่งซื้อผ่านแอพจะมีราคาที่ถูกกว่าซื้อผ่านเบราเซอร์อีกด้วยครับ

แอพ Gearbest มีให้ใช้งานทั้งบน iOS และ Android

 

หลักการทำงานก็แทบจะไม่แตกต่างไปจากการสั่งซื้อบน PC เลยครับ เอาเป็นว่าถ้าผ่านการซื้อบนเบราเซอร์มาแล้ว มาใช้งานบนแอพก็ไม่ต้องปรับตัวแต่อย่างใด สิ่งที่อยากให้ระวังก็คือ อย่าเลือกส่งด่วนแบบ DHL หรือพวกส่งด่วนต่าง ๆ  เพราะนอกจากจะโดนภาษีแล้วบางทีอาจจะโดนกักสินค้าที่กรมศุลฯ ซึ่งจะทำให้เราเสียทั้งเงินเวลาอีกด้วยครับ

สำหรับบทความการสั่งซื้อสินค้าจาก Gearbest ภาคเบสิคก็ขอลากันไปแต่เพียงเท่านี้

หากเพื่อน ๆ มีข้อสงสัยสามารถสอบทางกันเข้ามาได้เลยนะครับ เดี๋ยวทางแอดมินหรือผู้ที่มีประสบการณ์ในการสั่งซื้อสินค้าจาก Gearbest จะมาช่วยไขข้อข้องใจและให้คำแนะนำครับ 



ถูกใจบทความนี้  62