สำหรับรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Samsung นั่นก็คือ Galaxy Note 9 ที่เพิ่งเปิดตัวไปหมาดๆ ด้วยราคา 33,900 บาท สำหรับรุ่น 6GB+128GB และราคา 39,900 บาท สำหรับรุ่น 8GB+512GB เปิดจองอย่างไว มีโปรโมชั่นมากมาย ทั้งลดราคาจากโอเปอเรเตอร์ 12,000 บาท หรือจะเพิ่มความจุในขณะที่จ่ายเท่าเดิมกับการสั่ง Online แล้วแต่จะเลือก งานนี้ต้องชมทีม Samsung ที่เตรียมการมาดีมาก เปิดตัวปุีปโปรโมชั่นมาปั๊ปพร้อมขายทันที หรืออีกมุมนึงคืออาจจะต้องรีบชิงพื้นที่ก่อน ก่อนที่จะมีแบรนด์อื่นเปิดตัวและขายในระยะเวลาอันใกล้นี้ ไม่ Huawei ก็ Apple เชื่อว่ายังมีคนอีกกลุ่มนึงที่รอดูสองค่ายนี้เปิดตัวแล้วค่อยเลือกเปลี่ยนเครื่อง แต่เจ้า Samsung Galaxy Note 9 มีข้อดีมากมายตามที่เห็นกันตามสื่อต่างๆ ตอนนี้ ทั้งสเปค รูปร่างหน้าตา ฟีเจอร์กล้อง เป็นที่รู้กันว่าไม่ต่างจากที่คาด และไม่ต่างจาก Galaxy S9+ สักเท่าไหร่นัก
เพียงแต่มีปากกา S Pen เพิ่มขึ้น สิ่งที่เน้นก็คือฟีเจอร์ในปากกา ที่พอมี Bluetooth LE มาในตัวทำให้เพิ่มความสามารถของ S Pen ให้มีประโยชน์มากขึ้นมากกว่าการขีดเขียนบนหน้าจอ ตอบโจทย์ในการใช้งานในชีวิตประจำวันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานเป็นรีโมตถ่ายภาพ เปลี่ยนสลับกล้องด้านหน้าและกล้องหลังแค่เพียงสองครั้ง หรือเลื่อนสไลด์ในการพรีเซนต์ หรือการดูภาพ หรือจะควบคุมการดูหนังฟังเพลงให้หยุดหรือเล่นได้ ซึ่งมีข้อจำกัดคือ ใช้การกดปุ่มหรือคลิ๊กได้ประมาณ 200 ครั้ง หรือประมาณ 30 นาทีโดยประมาณ ซึ่งเชื่อว่าอาจจะมีทั้งมากกว่าและน้อยกว่า ด้านการใช้ลักษณะนี้ อาจจะมีปัญหาเรื่องของพรีเซนต์ เพราะต้องมีการจัดการเรื่องพลังงานของ S Pen ดีๆ อาจจะต้องมีการเสียบ S Pen กลับเข้าเครื่องเพื่อชาร์จ เพราะใช้เวลาในการชาร์จแค่ 40 วินาที เท่านั้น ซึ่งในการใช้งานจริง มักจะมีมุก ให้ดูวีดีโอสั้นๆ เป็นตัวอย่างประกอบ ในช่วงนี้เองที่สามารถเสียบปากกาคืนลงเครื่องเพื่อชาร์จได้ อย่างที่บอกครับว่าต้องมีการวางแผนการใช้งานกันหน่อย หากเผลอพรีเซนต์เพลินจนลืมล่ะก็ จะกดไปหน้าต่อไป ก็หยุดเอาดื้อๆ อันนี้ก็ต้องหามุกมาปะหน้าเพื่อเอา S Pen กลับเข้าเครื่องกันไป ซึ่งแบต 4000 mAh ที่ใหญ่ขึ้นจะพอใช้ทั้งวันหรือเปล่า?
ด้านฟีเจอร์ก็ถือว่าเอามาผสมผสานการใช้งานได้ดี แต่ทว่าฟีเจอร์ที่เป็นจุดเด่นของการเขียนที่เน้นมาตั้งแต่ Galaxy Note 1 ใน Galaxy Note 9 นี้ แทบไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง ที่เห็นก็จะมีเรื่อง Screen off memo ที่เขียนเป็นสีได้ หรือที่ไม่มีฟีเจอร์ด้านปากกาเพิ่มเติมอย่างชัดเจนแล้ว ก็คือฟีเจอร์เดิมๆ ก็ใช้งานได้ครอบคลุมทุกอย่างแล้ว ทำให้ไม่ได้มีการพัฒนาด้านการเขียนเพิ่มเติมขึ้น เพราะก่อนหน้านี้จะมีการเปลี่ยนแปลง เรื่องน้ำหนัก ลายเส้น การลงสีที่ละเอียดมากขึ้น แต่พอมาเวอร์ชั่นนี้ ปากกามีลูกเล่นมากขึ้นและไม่ได้เน้นจุดขายด้านการเขียนอีกต่อไป และไม่ใช่แค่ Galaxy Note 9 อีกแล้วที่มีปากกาบน Android เพราะ Huawei Tablet M5 ที่เพิ่งเปิดตัวก็มีปากกาเช่นเดียวกัน แต่ฟีเจอร์ต่างกันหลายช่วงตัว เอาเป็นว่าช่วงระหว่างหยุดพัฒนาเรื่องการเขียน ก็เริ่มมีคู่แข่งอย่าง Huawei เริ่มตีตื้นขึ้นมาบ้าง
คำถามคือ เปลี่ยนไหม? สำหรับแฟน Galaxy Note เดิมที่ยังใช้ 8 หรือ 7FE ผมว่าก็ไม่น่าจะคุ้มในการเปลี่ยน โดยเฉพาะคนที่เน้นใช้งานด้านการขีดเขียน หรืออาศัยฟีเจอร์ปากกาที่มีอยู่เดิมๆ ก็คงเพียงพออยู่แล้ว ถ้าครั้นจะเพิ่มเงินอีกครึ่งหมื่นหรือหมื่นกว่าบาทเพื่อเปลี่ยนใช้เฉพาะฟีเจอร์ S Pen ใหม่เพียงไม่กี่อย่างก็ไม่คุ้ม แต่ถ้าเน้นเรื่องกล้อง ก็ใครที่ถือตัวเก่าอย่าง Galaxy Note 5 ก็ควรเปลี่ยนได้แล้ว ตอนนี้ Samsung ก็โหมโปรโมตจองกันอยู่มีส่วนลดอะไรเยอะอยู่นะ น่าจะพอคุ้ม แต่หลายคนก็กลังกรณีศึกษาเมื่อปีก่อนๆ ที่บางครั้งโปรโมชั่นหลังจากนี้อาจจะดีกว่า โดยเฉพาะในงาน TME ที่จะถึงปลายปีนี้ แต่ อยากใช้ก่อนก็จองก่อน ยังไงก็คุ้มกว่าได้ใช้เร็วกว่า หากไม่รีบอะไรนักก็รอต่อไป เพราะยังมี Huawei และ Apple จ่อคิวเปิดตัวอยู่ อาจจะได้เห็นอะไรใหม่ๆ ออกมาชนกันอีกก็ได้ อาทิเช่น Huawei Mate 20 จะมีปากกาในตัว?
ถูกใจบทความนี้ 3
You must be logged in to post a comment.