แม้ในด้านดีไซน์ของ Galaxy S9 / S9+ จะไม่ได้ฉีกหนีไปจากรุ่นพี่ Galaxy S8 / S8+ มากนัก แต่หนึ่งในด้านความเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจก็คือ Hardware บางส่วนที่มีการอัพเกรดขึ้นมาจากเดิม และส่งผลในแง่ความแข็งแรงให้กับ Galaxy S9 / S9+ เพิ่มมากยิ่งขึ้น อาทิเช่นกระจกหน้าจอที่มีความหนาขึ้น 20% การอัพเกรดโครงสร้างของตัวบอดี้มาเป็นอะลูมิเนียมซีรีย์ AL7003 รวมไปถึงเพิ่มความหนาบริเวณขอบเครื่องที่เป็นโลหะเพื่อช่วยซับแรงกระแทกได้ดียิ่งขึ้น เมื่อนำ Galaxy S9 / S9+ มาทดสอบ Drop test จึงทำผลคะแนนได้ดีขึ้นกว่ารุ่นพี่ Galaxy S8 / S8+ ครับ
การทดสอบของ Square Trade จะใช้เครื่องมือในการทำ Drop test เพื่อไม่ก่อให้เกิดตัวแปรเหมือนการทำ Drop test ด้วยมือเปล่า และจากผลการทดสอบในครั้งนี้พบว่า Galaxy S9 มีคะแนนความเสียงแตกร้าวในระดับปานกลางที่ 71 คะแนน ส่วน S9+ มีความเสียงปานกลางถึงสูงที่ 76 คะแนน ในขณะที่ Galaxy S8 มีคะแนน 76 และ S8+ 77 คะแนนตามลำดับ รวมถึง Galaxy Note8 มีความเสี่ยงสูงอยู่ที่ 80 (คะแนนยิ่งสูงหมายถึงมีความเสี่ยงสูงในการแตกร้าว)
นอกจากนี้ Square Trade ยังได้ทดสอบความทนทานต่อการโค้งงอและพบว่า Galaxy S9 จะเริ่มงอที่แรงกดประมาณ 210 ปอนด์ ส่วน S9 + จะสูงขึ้นโดยเริ่มโค้งงอที่ 230 ปอนด์ สรุปว่าการอัพเกรดในด้าน Hardware ทั้งความหนาของกระจก และเปลี่ยนมาใช้อะลูมิเนียมที่มีเกรดสูงขึ้น นั้นส่งผลในแง่ความแข็งแรงทนทานให้กับ Galaxy S9 / S9+ อยู่ไม่น้อยเลยครับ แต่ท้ายที่สุดผู้ใช้งานอย่างเรา ๆ ก็ต้องหาทางปกป้องด้วยการใส่เคสและฟิลม์ป้องกันไว้อยู่ดี แม้ตัวเครื่องจะแข็งแรงขึ้นแต่ก็ไม่สามารถป้องกันได้ 100% นั่นเอง
อ้างอิง phonearena
You must be logged in to post a comment.