เป็น Multi Sport Watch สำหรับนักวิ่ง นักปั่น นักว่าย หรือไตรกีฬาเลยครับ เจ้า Garmin Forerunner 935 รุ่นนี้ จริงๆ ออกมาสักพักใหญ่มาก มีการปรับราคาลงมาแล้วเหลือ 17,990 บาทตามอายุที่ออกมา สำหรับคนที่ชื่นชอบการออกกำลังกายโดยเฉพาะการวิ่ง ซึ่งถอดเอาฟีเจอร์จาก Fenix 5 มาเต็มๆ แต่ราคาเบากว่า และเอาจริงๆ คือรุ่นต่อยอดจาก Forerunner 735XT ที่รองรับเรื่องมัลติสปอร์ตครบถ้วน เป็นอีกรุ่นที่หากใครยังสนใจ ตอนนี้ก็ยังเป็นตัวเลือกที่น่าใช้นะ
สำหรับ Garmin Forerunner 935 ไม่ได้ใช้แค่แทรควิ่งเหมือนชื่อรุ่น แต่หากเป็นมัลติสปอร์ต รองรับกีฬาได้เรียกว่าแทบทุกอย่างที่นิยมเล่นกัน เรียกว่าดึงมาจาก Garmin Fenix 5 เลยก็ว่าได้ ถึงแม้ว่าจะออกมนานแล้ว แต่ก็ยังน่าสนใจเพราะราคาที่ปรับลงมาส่วนนึง และฟีเจอร์เต็มๆ อีกส่วนนึง
New features:
- Multi-sport Function รองรับประเภทกีฬาที่หลากหลายกว่าเดิม เช่น วิ่ง, วิ่งเทรล, วิ่งลู่, จักรยาน, ว่ายน้ำ, ไตรกีฬา, สกี, ปีนเขา, กอล์ฟ, พายเรือ และ อื่นๆ
- Training Effect ประเมินผลของการฝึกซ้อมว่าส่งผลต่อระบบหัวใจ และความฟิตในระดับใด
- Training Status แสดงประสิทธิภาพของร่างกายหลังจากการฝึกซ้อมว่าได้ผลอย่างไร และอยู่ในระดับไหน (เช่น ออกกำลังกายหนักไป และความฟิตลดลง)
Key features:
- นาฬิกา GPS Multi-sport ของ Garmin น้ำหนักเบาเพียง 49 กรัม สวมใส่สบายตลอดทั้งวัน
- ตอบโจทย์คนรักกีฬาหลากหลายประเภท ด้วยฟังก์ชั่น Multi-sport เช่น วิ่ง, จักรยาน, ว่ายน้ำ, ไตรกีฬา, เทรล, สกี, ปีนเขา, กอล์ฟ, และ อื่นๆ
- หมดกังวลเรื่องแบตเตอรี่ด้วยการใช้งานต่อเนื่องนานสูงสุด 2 อาทิตย์ ในโหมดนาฬิกา, สูงสุด 24 ชั่วโมง ในโหมด GPS, และสูงสุด 50 ชั่วโมง ในโหมด UltraTrac
- รู้ว่าฝึกได้ผลที่ดีหรือไม่ด้วยฟังก์ชั่น Training Status แสดงประสิทธิภาพของร่างกายหลังจากการฝึกซ้อมว่าอยู่ในระดับไหน
สเปครวมดูเพิ่มเติมได้จากลิงค์นี้นะครับ
มาดูรูปร่างหน้าตากันนิดนึง
จริงๆ สีฮีโร่ของเจ้า Garmin Forerunner 935 รุ่นนี้คือสายสีเหลืองนะครับ แต่สีดำก็พื้นๆ ดี
อุปกรณ์ในกล่องจริงๆ ก็มีแค่สายชาร์จที่สำคัญที่เหลือก็เป็นตัวนาฬิกา และคู่มือ ด้านหลังกล่องมีบอกรายละเอียดฟีเจอร์เด็ดๆ ไว้ครบ
ตัวหน้าปัทม์ มีขนาด 1.2 นิ้ว ความละเอียดที่ 240×240 พิกเซล ก็ถือว่าใหญ่ใช้ได้เลยล่ะ แสดงผลได้ครบถ้วน เหมาะกับการออกกำลังกายไม่ว่าจะวิ่ง ปั่น ว่าย แสดงผลได้ 3 ค่า ใน 1 หน้าจอ เช่น เพช ระยะทาง และเวลา ซึ่งอันนี้เป็นปกติของ Garmin อยู่แล้วใครใช้งานอยู่คงจะคุ้นเคยดี เรื่องของกีฬารองรับกีฬาหลักได้ครบ ที่ผมหาอยู่และตรงกับกิจกรรมที่ออกกำลังกายประจำก็คือว่ายน้ำ เจ้า Forerunner 935 ใส่ว่ายน้ำได้ รองรับมาตรฐานการกันน้ำได้ 5ATM หรือลึก 50 เมตรเลยทีเดียว อึดแน่นอน ที่ชอบจริงๆ ก็คือเรื่องของน้ำหนัก เบาแค่ 49 กรัม โดยฟีเจอร์ได้มาแทบจะเรียกว่าเหมือนกับ Fenix 5 อันนี้คือโอเคเลย แต่จริงๆ ผมก็ใช้ได้ไม่หมดหรอกนะ ฮ่ะๆ
การใช้งานไม่ได้เน้นเรื่องของทัชสกรีน ด้วยซีรีส์นี้แล้วเป็นการควบคุมผ่านปุ่มกด ซึ่งเหมาะมากกว่าแบบทัชสกรีน ตัวปุ่มก็เรียงตัวกันตามปกติ ใช้การกดค้างเพื่อเลือกเมนูเพิ่มเติม เช่นกดปุ่ม Light ค้างไว้ จะเป็นการเข้าเมนูการควบคุมเพลง การบันทึกตำแหน่ง และอีกหลายหลายเมนู หรือจะกดปุ่ม Up ค้างไว้จะกลายเป็นการเข้าหน้าการตั้งค่า ซึ่งตอนแรกผมก็หาอยู่ตั้งนาน
ปุ่มอีกด้านนึงคือ ปุ่ม back และปุ่ม start หรือ enter เพื่อใส่คำสั่งและเข้าสู่เมนูกิจกรรมการออกกำลังกายต่างๆ
ส่วนด้านหลังก็จะมีเซ็นเซอร์การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ 3 ดวง ซึ่งอันนี้คือมาตรฐานของ Garmin ที่ใช้ในการวัดอัตราการเต้นของหัวใจมาตั้งแต่รุ่นแรกๆ เป็นเซ็นเซอร์ของ Mio
ที่ผมขอบอย่างนึงก็คือสายที่นิ่ม ยืดหยุ่นได้ดี นอกจากน้ำหนักเบาแล้ว สายที่นิ่มและยืดหยุ่นแบบนี้ ผมว่าใส่วิ่งสบายข้อมือดี จะใส่ว่ายน้ำก็ได้เช่นกัน สายที่ติดมาผมว่ารูถี่มาก คือใส่ได้ตั้งแต่ข้อมือเล็กนิดเดียวไปจนถึงข้อมือระดับใหญ่มากๆ เลย คือไม่ต้องมีสายขนาดต่างๆ ใช้เส้นเดียวขนาดเดียวเนี่ยแหล่ะ จบ
Smart fearture
เค้ารองรับหมดครับ ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งเตือนต่างๆ จาก Smartphone โดยการเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth หรือ WiFi ตั้งค่าไม่ยาก โดยผ่าน Garmin Connect สามารถเปลี่ยน Watch face ได้ผ่าน Garmin IQ มีรายงานสภาพอากาศ ปฎิธิน ควบคุมเพลงได้ หาโทรศัพท์ได้ หาตัวนาฬิกาเองก็ได้ ฟีเจอร์เหล่านี้ก็เป็นฟีเจอร์หลักที่ Garmin หลายๆ รุ่นทำได้อยู่แล้วด้วยนะครับ ใช้งานได้ทั้ง Android และ iOS
เรื่องการใช้งาน
สำหรับผมคือวิ่งเป็นหลักครับ โดยการใช้งานระหว่างวิ่งก็สามารถบันทึกเส้นทางได้ (แต่ไม่มีแผนที่) รองรับการแทรค GPS , Glonass , UltraTrac ที่แม่นยำมากขึ้น
เรื่องการวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ทั้งวัน วัดได้ละเอียด จริงๆ ฟีเจอร์การใช้งานนี่มีเพียบ สำหรับเรื่องเซ็นเซอร์ รองรับการใช้งานร่วมกับเซ็นเซอร์ภายนอก ได้ด้วย เช่นผมมีหูฟัง Jabra Elite ที่วัด HR ได้ ก็สามารถเชื่อมต่อและนำมาใช้งานได้ ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อแบบ Bluetooth Smart นอกจากนั้นยังรองรับ ANT+ เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้อีกเพียบ
รวมถึงที่ชอบอีกอันก็คือ เรื่องของ Vo2Max ที่มีบอกทั้งความฟิตและการแนะนำให้เราพักผ่อน รวมถึง บอกปริมาณการซ้อม และคาดการณ์ได้ว่าเราจะวิ่งที่จบที่ระยะไหนที่เวลาเท่าไหร่? และยังมีเตือนเรื่องความเครียดอีกต่างหาก สามารถผ่อนคลายได้โดยการจับจังหวะหายเข้าออก เพื่อประสิทธิภาพในการออกกำลังกายที่ดี Forerunner 935 เป็นโค้ชที่ติดตัวเราไปตลอดเลย มีทั้งเรื่องแทรครายละเอียดการออกกำลังกายของเราพร้อมคำแนะนำต่างๆ รวมถึงแทรคแอคทิวิตี้การก้าวเดินการนอน การแนะนำให้พักผ่อน ทำได้ล่ะก็สุขภาพดีแน่นอน
ซึ่งคอมเม้นต์เดียวก็คือ ระยะทางอาจจะเพี้ยนนิดๆ ทั้งที่ตั้งระยะสระได้ถูกต้องแล้ว แต่มีแถมระยะให้ ได้ทดสอบหลายครั้งก็ยังคงเป็นเหมือนกัน แต่การวิ่ง และการปั่น จับระยะทางจาก GPS เรื่องนี้ Garmin แม่นยำในระดับนึงอยู่แล้ว แต่ก็มีเพี้ยนบ้างตามปกติ ส่วนเรื่องความเพี้ยนอีกอย่างที่พบก็คืออัตราการเต้นของหัวใจ ขณะการออกกำลังกาย ซึ่งเราอาจจะต้องเช็คเรื่องความแน่นของสาย และตำแหน่งให้ดีอีกทีนะครับ
หน้าจอต่างๆ บน Garmin Forerunner 935
ตัวอย่างรายงานการออกกำลังกาย
รายงานด้านบนคือตัวอย่างการปั่น
ตัวอย่างรายงานด้านบนคือตัวอย่างการว่ายน้ำ
สรุปการใช้งาน Garmin Forerunner 935
สำหรับ Forerunner 935 คงไม่ต้องบอกว่ามีฟีเจอร์เยอะแค่ไหน คือผมว่าใช้ไม่หมด ในแง่ของความเป็น Smartwatch คือก็แทบครบนะ ควบคุมเพลงได้ มี notify เตือนต่างๆ ได้ ค้นหาโทรศัพท์ได้ เปลี่ยน watch face ได้ ลูกเล่นต่างๆ มีให้ครบ การใช้งานแทรคแอคทิวิตี้ประจำวันก็เรียกว่าแทบครบ ได้ทั้งการนอน การเดิน อัตราการเต้นของหัวใจทั้งวัน ที่ชอบจริงๆ ก็คือน้ำหนักและการใส่ใช้งานในแต่ละวัน สบายมาก ที่เหลือก็ฟีเจอร์การออกกำลังกายที่อัดแน่นอยู่แล้ว อันนี้คงไม่ต้องบอกก็รู้ แบตก็อึดชาร์จอาทิตย์ละครั้งได้เลย เรื่องการออกกำลังกาย เท่าที่ได้ลองก็แม่นยำพอสมควร ยกเว้นเรื่องว่ายน้ำ ไม่รู้ว่าเป็นเฉพาะเรือนนี้หรือไม่ มีการแทรคระยะทางเกินจากที่ว่ายจริง ส่วนการออกแบบและวัสดุที่ใช้ก็สมราคา ถูกใจทั้งเรื่องราคาและน้ำหนักการใส่ใช้งานในแต่ละวัน นับว่าเป็นอีกรุ่นที่คุ้มสุดๆ สำหรับคนที่ชอบออกกำลังกาย ทั้งวิ่ง ทั้งปั่น ทั้งว่าย ไปจนถึงไตรกีฬา
ขอบคุณ Garmin Thailand ที่ให้ยืมอุปกรณ์ทดสอบ
You must be logged in to post a comment.