รีวิว Yeelight JIAOYUE 450 LED Ceiling Light อีกหนึ่งดวงไฟสว่างสุดจาก Mijia (Xiaomi)

บอกเลยว่าปีนี้มีอุปกรณ์รุ่นต่อยอดใหม่ๆ ออกมามากมาย ทั้งของ Xiaomi เองและซับแบรนด์ต่างๆ สำหรับ Yeelight ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ทำเรื่องของแสงสว่างหรือหลอดไฟอัจฉริยะโดยเฉพาะ งานนี้เป็นรุ่น Jiaoyue ที่ให้ความสว่าง อยู่ในช่วง 2700 – 4500K ได้ CRI ถึง 95 เลยทีเดียว กันฝุ่นด้วยมาตรฐาน IP50 มีรีโมทควบคุมในตัว แน่นอนว่าควมคุมผ่านแอปได้ เป็นอีกหนึ่ง SmartHome ที่น่าสนใจ พร้อมทั้งรองรับการใช้งานร่วมกับ Mi Band เมื่อเรานอน หรือไม่มีการขยับตัวก็จะปิดให้อัตโนมัติอีกต่างหาก และที่สำคัญก็คือสามารถควบคุมผ่าน Smartphone จากนอกบ้านได้ด้วยนะครับ ถ้าจะให้ดีก็ต้องใช้งานควบคู่กับ Gateway หรือ sensor หรือ กล้องเว็บแคม จะเพิ่มความสะดวกให้กับบ้านเราได้มากขึ้น

สำหรับ Yeelight ผมเคยรีวิวไปเมื่อปีที่แล้วมั้ง แต่วันนี้มีอีกรุ่นนึงออกมา ซึ่งจริงๆ การใช้งานก็เหมือนเดิม หลักๆ คือทำให้บ้านเราสะดวกขึ้น และเจ้า Yeelight JIAOYUE 450 LED Ceiling Light รุ่นนี้อาจจะเรียกว่าเป็นรุ่นปรับปรุงจากเดิมก็ไม่ผิดนัก เพราะว่ามีขนาดโคมใหญ่กว่า สำหรับบ้านผมแล้ว โคมไฟเพดานมีขนาดใหญ่ทำให้รุ่นก่อนหน้านี้เวลาติดตั้งเสร็จแล้ว จะมีรอยโคมเดิมเหลืออยู่ ปิดของเก่าไม่หมด แต่สำหรับรุ่นนี้สบายเลย หากสนใจสั่งซื้อได้ที่ ราคาประมาณ 3,148 บาท https://goo.gl/CEQfo5

ดูสเปคเบื้องต้นกันก่อน

Brand: Yeelight
Color Temperature or Wavelength: 2700 – 4500K
Features: Designers
Shade Material: PVC
Style: LED,Modern/Contemporary
Suggested Space Fit: Bedroom,Dining Room,Indoor
Type: Ceiling Light
Suggested Room Size: 15 – 20㎡
Fixture Width ( CM ): 45CM
Fixture Height ( CM ): 7.8CM
Fixture Length ( CM ): 45CM
Package size (L x W x H): 47.00 x 47.00 x 8.50 cm / 18.5 x 18.5 x 3.35 inches
Package weight: 3.3400 kg
Product size (L x W x H): 45.00 x 45.00 x 7.80 cm / 17.72 x 17.72 x 3.07 inches
Product weight: 3.0000 kg

สนใจสั่งซื้อได้ที่ ราคาประมาณ 3,148 บาท https://goo.gl/CEQfo5

มาแกะกล่องและดูรายละเอียดกัน


ตัวกล่องของ Yeelight ยังได้อิทธิพลจาก Xiaomi อยู่พอสมควรยังเป็นธีมสีเทาอยู่ ซึ่งกล่องรุ่นใหม่ๆ ของทาง Xiaomi จริงๆ จะเป็นธีมสีขาวซะทั้งหมดแล้ว


การสั่งโดยไม่ได้ส่งแบบ DHL หรือเสียตังค์ค่าส่งแพงแบบมีมาตรฐานก็จะต้องทำใจเรื่องกล่องบุบหรือมีสภาพไม่สมบูรณ์ตามปกตินะครับ ถ้าเราเอามาใช้งานอันนี้ก็คงไม่ต้องซีเรียส แต่ถ้าจะซื้อมาเป็นของขวัญ หรือจุดประสงค์อื่นต้องเลือกการส่งแบบดีๆ หน่อยนะครับ


เปิดกล่องมาจะพอบกับเจ้า Yeelight JIAOYUE 450 LED Ceiling Light ซึ่งตัวโคมจะใหญ่ได้มาตรฐานมากกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ที่ผมเคยรีวิวไป ตัวด้านหน้าโคมไม่ได้เป็นแก้วนะครับ น้ำหนักเบามาก และเป็นลักษณะเหมือนเป็นพลาสติกอย่างดี ทนความร้อน และกันฝุ่นด้วยมาตรฐาน IP50 คือกันฝุ่นเข้าไปด้านในนั่นล่ะครับ พวกแมลงหรืออื่นๆ ก็ด้วย



ข้อดีอีกอย่างนึงก็คือ มีรีโมทแถมมาให้ในตัว บางรุ่น อาทิเช่น Philips ที่จับมือกับ Xiaomi ก็ไม่แถมมานะครับ ราคาก็ต้องเพิ่มอีกหลายตังค์อยู่ แต่นี่มีให้เลยก็ดี สะดวกสำหรับใครที่ยังถนัดเรื่องของการใช้รีโมทควบคุมโดยไม่ผ่าน Smartphone จริงๆ เค้าใช้งานทั้งสองอย่างควบคู่กันได้เลย


ที่เหลือก็มีคู่มือที่เป็นภาษาจีน แต่ไม่ต้องกลัวอ่านไม่ออก เพราะเราอ่านไม่ออกแน่นอน แต่เรามีตัวช่วย โดยใช้ Google Translate ผ่านแอปบน Smartphone แล้วกดถ่ายภาพและแปลให้เป็นภาษาอังกฤษเอาครับ เข้าใจได้ง่าย ซึ่งจริงๆ แล้วเค้าจะแนะนำวิธีติดตั้งเป็นหลัก

มีน็อตเกลียวปล่อย และพุกมาให้ครบ อันนี้เวลาติดตั้งก็ต้องอาศัยฝีมือ ลูกอีกช่างไข กันหน่อย ต้องมีไขควงและอุปกรณ์พวกคัทเตอร์เอาไว้ปลอกปลายสายไฟ และความรู้ด้านไฟฟ้าเล็กๆ น้อยๆ


พอพลิกคว่ำมาด้านหลัง ตรงนี้เป็นตัวหลัก เพราะแผงวงจร LED จะอยู่ในส่วนนี้เลยครับ และจะมีฐานพร้อมกับช่องที่มีอยู่รอบตัวสำหรับใส่น็อตเพื่อยึดกับเพดาน


ที่สำคัญเลยก็คือตัวล็อค มีอยู่ทั้งสองด้านดันพร้อมๆ กัน จะเปิดล็อคฐานของออกมาได้ ล็อคก็แน่นดี เวลาติดตั้งเสร็จไม่ต้องกลัวว่าโคมจะหล่นใส่หัวนะ

ตัวฝาสำหรับยึดติดกับเพดานมีเท่านี้ครับ เบาบาง อันนี้คือต้องหมุนออกมาก่อน


ส่วนนี้ที่สำคัญเลยก็คือ ต้องเอาสายไฟ มาเสียบเข้าไปที่ตัวอักษร L และ N ซึ่ง L คือสายที่มีไฟ ถ้าผมเดาไม่ผิดคือย่อมาจาก Line และตัว N คือสายกราวด์ ที่ย่อมาจาก Neutral เส้นนี้จะไม่มีไฟ สังเกตง่ายๆ คือส่วนใหญ่ช่างจะใช้สีดำกับเส้นนี้นะครับ ที่เหลืออีกเส้นนึงคือเป็นสายที่มีไฟ แต่ถ้าเอาชัวร์ ก็ใช้มิเตอร์ หรือไขควงวัดไฟวัดดูได้ ก่อนจะติดตั้งซึ่งห้ามสลับขั้วนะ

มาดูเรื่องการติดตั้งกันหน่อย

และการติดตั้งก็ไม่ยาก สายสามารถติดตั้งแทนโคมตัวเก่าได้เลย อุปกรณ์ที่ต้องใช้หชักเลยก็คือไขควงหัว 4 แฉก ครับ ที่เหลือก็พวกคัทเตอร์ หรือมีคีมตัดสายไฟด้วยก็จะดีมาก


อันนี้คือของเดิมที่ยังเป็นโคมไฟระบบที่เราใช้งานกันอยู่ในปัจจุบัน มีบัลลาสต์ ที่เป็นตัวหลักในการกระตุ้นและควบคุมไฟให้ติด เอาแบบเป็นทางการก็ทำหน้าที่เป็นตัวเพิ่มแรงดันในขณะจุดไส้หลอด หน่วงและจำกัดกระแสไฟให้พอดีตามขนาดของไส้หลอด ในขณะที่หลอดติดแล้ว ประมาณนี้ครับ ซึ่งมันก็มีอายุการใช้งานทั้งตัวหลอดไฟเองและตัวบัลลาสต์ด้วย แต่ส่วนใหญ่ที่เสียคือหลอดไฟ


คราวนี้ก็เอาของเดิมออก โดยใช้ไขควงปลดน็อตที่ยึดกับเพดานเอาไว้ อันนี้ก็ค่อยๆ ทำนะ ซึ่งการปลดสายไฟ ก็อย่าลืมปิดสวิทช์ไฟให้เรียบร้อยซะก่อน เผื่อความปลอดภัย


คราวนี้ก็จะเอาขึ้นไปติดตั้งละ


สำหรับความยกของผมก็คือ ผมตัวเตี้ย หาโต๊ะต่อก็ลำบาก ฮ่ะๆ ส่วนเจ้าตัว Yeelight JIAOYUE 450 LED Ceiling Light นี่พร้อมอยู่แล้ว สายไฟที่ห้อยๆ อยู่ก็ต้องจับใส่ช่องที่เห็นให้ถูกตามขั้วของมัน และใช้ปุ่มสีส้มในการกดเพื่อล็อคหัวด้านใน ผมว่าอันนี้ออกแบบมาสะดวกมาก ใส่สายเข้าไปได้เลย ใส่เข้าไปให้สุด ถ้าไม่แน่น ก็ขยับโดยใช้การกดปุ่มสีส้มเพื่อดึงออกมาก็ได้ อ้อ สายไฟ ก็อย่าลืมปลอกฉนวนหุ้มสายให้เหลือปลายทองแดงเอาไว้ด้วยนะครับ แต่ส่วนใหญ่ของเดิมเค้าจะปลอกเอาไว้อยู่แล้วล่ะ


ก็ใส่ไปประมาณนี้เลย สาย N ที่ใส่ที่บ้านผมใช้สีขาวแทนนะครับ ถ้าไม่สีดำ ก็สีขาวล่ะ และสายที่มีไฟ ก็เป็นสีแดง แต่สีมันซีดเหมือนเป็นสีชมพูเลย อันนี้ช่างน่าจะพอรู้กันดีอยู่แล้ว ส่วนใครที่ติดตั้งเองไม่ได้ก็คงต้องจ้างช่างล่ะนะ แต่เอาจริงๆ ไม่ยากนะครับ ขนาดผมที่แบบ งูๆ ปลาๆ มีพื้นฐานเล็กน้อยก็ติดตั้งได้ในเวลาไม่นานนัก


ติดตั้งเสร็จแล้ว เอาฐานไปแปะเอาไว้พร้อมใช้งานที่เหลือก็แค่ใส่ตัวโคมเข้าไป ยึดได้ง่ายมาก กดแปะเดียวเสร็จ


น้ำหนักตัวโคมคือเบามาก ถือมือเดียวได้สบาย แค่นี้ก็ติดตั้งเสร็จแล้วล่ะครับ

ที่เหลือก็มาดูเรื่องการใช้งานกัน

การใช้งานจริงก็จะเป็นการควบคุมผ่านรีโมทหรือ Smartphone ก็ได้ แต่อย่างแรกเลยคือต้องติดตั้งผ่านแอป Mi Home วิธีการก็ไม่ยากสำหรับมือเก่า มือใหม่เองก็ไม่ยากเช่นเดียวกัน แต่อย่าลืมโหลดแอปมาให้เรียบร้อย ซึ่งจริงๆ แล้วต้องบอกว่าโหลดแอป Yeelight มาก็ได้ แต่สำหรับผมใช้ Mi Home เนื่องจากรองรับการใช้งานกับอุปกรณ์หลายๆ อย่างในบ้าน ซึ่งจริงๆ แล้วหน้าตาหรือการควบคุมระหว่างแอปทั้งสองตัวนี้แทบจะไม่ต่างกันเลย เพราะบน Mi Home เวลาจะเรียกใช้มันจะเป็นการลงส่วนของแอป Yeelight เข้าไปใน Mi Home อาจจะเรียกได้ว่า Mi Home เป็นทางเข้าของอุปกรณ์ต่างๆ พอจะใช้อุปกรณ์ต่างๆ ก็จะมีแอปคอนโทรลแยกจากกันอีกครั้ง

พอเปิดเข้าแอป Mi Home ตรงปุ่ม + จะมี Notify สีแดงขึ้นมาว่าตัวแอปเจออุปกรณ์ใหม่ และพอกด Add Device เข้าไปจะเห็นว่าเจอเจ้า Yeelight JIAOYUE 450 LED Ceiling Light ขึ้นมาให้เลือกทันที จากนั้นก็ทำการเชื่อมต่ออุปกรณ์เข้ากับวงเน็ตเวิร์กของเรา



ติดตั้งเสร็จภายในไม่กี่นาที พร้อมใช้งาน บอกได้เลยว่าไม่ยาก



อันนี้เป็นหน้าตาของ Yeeligh แอป ซึ่งพอเปิดมาปุ๊ปจะเห็นอุปกรณ์เราเพิ่มเติมขึ้นมาด้วย ซึ่งกรณีเห็นอุปกรณ์ที่เพิ่งติดตั้งที่ Mi Home ต้องใช้แอคเคาท์ sign in อันเดียวกันนะครับ


จากนั้นก็มาทำการซิงค์รีโมท โดยการกดสองปุ่มค้างไว้ มีแนะนำอยู่ในแอป ทำตามภาพเลยอีกอึดใจนึงก็จะใช้รีโมทควบคุมได้ อย่าลืมดึงพลาสติกที่กันขั้วแบตออกด้วยนะ เพราะผมเป็นมาแล้ว กดเท่าไหร่ก็ไม่ติด ไม่มีอะไรเกิดขึ้น นึกว่ารีโมทเสีย ที่ไหนได้ user error เต็มๆ ฮ่ะๆ

เปิด ปิดไฟ ลดแสง เพิ่มแสงได้แล้ว ไฟสามารถปรับซีนต่างๆ ได้เพียบ เป็นไฟสีส้ม สีนวล สีดวงจันทร์ หรือจะสว่างจ้าสุดๆ ก็ได้ คือเค้าว่าเจ้า Yeelight JIAOYUE 450 LED Ceiling Light ให้ความสว่างได้เหมือนธรรมชาติในระดับ CRI95 เลยทีเดียว

มาดูเรื่องซอฟท์แวร์กันอีกนิด

แน่นอนว่าเราสามารถควบคุม Yeelight JIAOYUE 450 LED Ceiling Light ผ่าน Smartphone ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในโลกได้ ซึ่งหากจะสะดวกควรติดตั้งกล้องวงจรปิดของ Xiaomi เอาไว้สักตัวนึงเพื่อดูความเป็นไปประกอบกัน หรือถ้าไม่มีก็มองเห็นจากตัวแอปว่าไฟ ณ ขณะนั้นสว่างมากน้อยแค่ไหน ปิดหรือเปิดอยู่


สามารถปรับแสดงเป็นแสงอาทิตย์ หรือดวงจันทร์ก็ได้ แล้วแต่การใช้งาน หรือจะปรับเป็นการใช้งานรูปแบบอื่นๆ อีกก็ได้เช่นเดียวกัน

ซึ่งในการปรับแสงเพื่อใช้งานมีซีนส์ต่างๆ ตั้งค่าเอาไว้อยู่แล้วสามารถนำไปใช้ได้เลย หรือไม่เราก็ตั้งค่าแสงสว่างที่เราต้องการเองก็ได้


นอกจากนั้นสามารถทำ Automation เพิ่มเติมได้ กรณีที่มีการเชื่อมต่อกับอุปกร์ SmartHome อื่นๆของ Xiaomi (Mijia) ผ่าน Gateway รวมถึงสามารถใช้งานร่วมกับ Mi Band เวลาเราหลับ และใส่ Mi Band ตอนนอน ตัวหลอดไฟจะปิดเองเมื่อเราเผลอหลับ หรือไม่มีการขยับตัวอีกด้วย ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งความสะดวกนะ

หรือจะควบคุมผ่าน Yeelight แอปก็ไม่ต่างกัน อาจจะมี UI ที่ต่างและน่าใช้งานมากกว่า แต่หน้าที่หลักคือปรับแสงสว่างและมีซีนต่างๆ ให้เลือก

 

สรุปการใช้งาน Yeelight JIAOYUE 450 LED Ceiling Light 

เจ้า Yeelight JIAOYUE 450 LED Ceiling Light ตัววัสดุก็สมราคา กันฝุ่น (ไม่กันน้ำนะ) ไฟส่องสว่างใช้งานกันได้ยาวๆ และประหยัดไฟกว่าเดิมแน่นอน โดยมีราคาค่าตัวที่ประมาณสามพันกว่าบาท ถามว่าแพงใช้ได้เลยใช่ไหม ตอบเลยว่าใช่ ถ้าเทียบกับชุดหลอดไฟและโคมในปัจจุบันคงซื้อได้สักสามชุดล่ะมั้ง แต่ผมว่าก็คุ้ม ติดตั้งครั้งเดียวใช้กันไปยาวๆ แต่ไม่มีข้อมูลสเปคว่าใช้งานได้กี่ชั่วโมง แต่ก็เชื่อว่าใช้ได้เป็นปีๆ นั่นล่ะครับ เรื่องเสียผมว่าคงน้อยเนื่องจากเป็น LED หลายดวงมารวมกันไม่ได้เป็นหลอดแบบไส้เหมือนเดิม และเจ้า Yeelight JIAOYUE 450 LED Ceiling Light นี่มาเพื่อเติมเต็ม SmartHome ภายในบ้านของผม ซึ่งมี Yeelight รุ่นอื่น อยู่บางส่วนแล้ว ดังนั้นเรื่องการใช้งานก็ไม่ต่างจากของเดิม หลักๆ ก็ปรับแสงให้เหมาะกับสภาพการใช้งานของเรา โดยที่การอ่านหนังสือก็ไม่จำเป็นต้องใช้แสงสีขาวอีกต่อไป ใช้เป็นสีนวลก็ได้เพื่อเซฟสายตา รวมถึงสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่นๆ ที่มีในบ้านของ Xiaomi ได้อยู่แล้ว อันนี้ทำ Automation อะไรได้อีก จึงค่อนข้างสะดวก และจริงๆ แล้วสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Bluetooth เพื่อทำแอคชั่นต่างๆ เพิ่มขึ้นได้ด้วยโดยผ่านมาตรฐาน BLE ซึ่ง Xiaomi มีให้เล่นอีกเยอะเลย  จริงๆ ถ้ามี door sensor หรือ motion sensor ก็จะดีเมื่อเราเปิดประตูก็สั่งให้ไฟเปิด หรือเมื่อไม่มีความเคลื่อนไหวภายใน 10 นาทีก็ให้ไฟปิดอัตโนมัติ ก็ได้ หรือจะตั้งเวลาเปิดปิดก็ได้เช่นเดียวกัน อันนี้แล้วแต่ไปประยุกต์ใช้งาน หากสนใจสั่งซื้อได้ที่ ราคาประมาณ 3,148 บาท https://goo.gl/CEQfo5



ถูกใจบทความนี้  16

4 thoughts on “รีวิว Yeelight JIAOYUE 450 LED Ceiling Light อีกหนึ่งดวงไฟสว่างสุดจาก Mijia (Xiaomi)

  1. เคยลองใช้ Mi band linkage ไหมครับ ใช้แล้ว Work ไหม
    ต้องใช้ Mi band เวอร์ชั่นจีนหรือเปล่า

  2. สอบถามนิดนึงครับ พอดีหลอดไฟตั้งค่าเริ่มต้นเปิดมาทีแรกให้เป็นสีขาวยังไงหรอครับ เปิดมาเป็นสีวอร์มส้มๆครับ แก้ได้ไหมครับ

Comments are closed.