รีวิว Xiaomi Mi Mix 2S สุดยอดรุ่นใหญ่ งามจับใจ

หลังจากที่ Xiaomi ประเทศไทยประกาศขาย Mi Mix 2S ในราคาค่าตัวไม่ถึง 20,000 บาท พร้อมกับ Redmi Note 5 ในช่วงก่อนหน้านี้ ด้วยสเปคที่ค่อนข้างโหดเมื่อเทียบรุ่นอื่นในระดับราคาใกล้กัน และตัวกล้องที่มีการปรับให้ดีขึ้นกว่าเดิม เรียกว่ามีการพัฒนาที่ดีขึ้นเป็นลำดับ ถึงแม้จะยังสู้เรือธงค่ายอื่นๆ ไม่ได้ แต่กับคอนเซ็ปท์ประจำตัวของ Xiaomi ที่ให้ความพึงพอใจกับผู้ใช้งานทั้งด้านความคุ้มค่า สเปคและราคา ทำให้ Xiaomi Mi Mix 2S ถูกพูดถึงมากขึ้นในระยะที่ผ่านมารุ่นนึงเลยทีเดียว ผมเลยขอจัดเอามาทดลองเล่นสักหน่อย

งานนี้ Xiaomi ถือว่านำมาเปิดตัวในประเทศไทย หลังจากที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในจีนไปไม่ห่างกันมากนัก นับว่าเป็นการพัฒนาที่ดีในไทย รวมถึงราคาตัวเครื่องที่ ROM 64 GB ราคา 17990 บาท ส่วนรุ่นที่มีความจุ 128 GB ราคา 19,900 บาท ก็ถือว่าเป็นราคาที่ใช้ได้เลยล่ะ รวมถึงดีไซน์ที่ไม่เหมือนใคร กล้องอยู่ด้านล่าง แต่ด้านบนนี่มีพื้นที่ใช้งานได้ครบถ้วน อย่าเพิ่งบอกหมด เดี๋ยวไม่มีอะไรเขียน ฮ่ะๆ เรามาดูสเปคกันก่อนละกันครับว่าแจ่มสมกับเป็นเรือธงไหม

รายละเอียด Xiaomi Mi MIX 2S

  • หน้าจอ LCD ขนาด 5.99 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (1080 x 2160)
  • CPU : Snapdragon 845
  • GPU : Adreno
  • RAM : 6GB/8GB
  • ความจุ : 64GB/128GB
  • กล้องหลังคู่ : 12MP (f/1.8) + 12MP (f/2.4) IMX363, ซูมออพติคอล 2 เท่า
  • กล้องหน้า : 5MP (f/2.0)
  • ไม่มีรูหูฟัง 3.5 มม. (ในกล่องมีอแดปเตอร์ USB-C เป็น 3.5 มม.)
  • Bluetooth 5.0
  • NFC
  • เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลัง
  • แบตเตอรี่ : 3400 mAh รองรับ QC 3.0 และชาร์จไร้สาย
  • ระบบ Android 8.0 ครอบด้วย MIUI 9.5
  • ราคาเปิดตัว
    – รุ่น RAM 6GB / ROM 64GB ราคา 17,990 บาท
    – รุ่น RAM 6GB / ROM 128GB ราคา 19,990 บาท

แกะกล่องและรอบตัวเครื่อง

สำหรับดีไซน์กล่องยังมาฟอร์มเดิมๆ เหมือนกับ Mi Mix ซีรีส์ นี่ล่ะครับ กล่องสีดำที่มีโลโก้สีทองแปะอยู่ตรงกลาง


ในกล่องก็มีอุปกรณ์มาให้ครบตามสไตล์ Xiaomi คือไม่มีหูฟัง และกันรอยหน้าจอ ที่เหลือครบ มีสายแปลงจาก USB-C เป็นช่องเสียบหูฟังให้ด้วยนะ


อะแดปเตอร์สำหรับการชาร์จแบตขนาด 3400 mAh รองรับ Quick Charge


Xiaomi Mi Mix 2S เป็นรุ่นล่าสุดที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.99 นิ้ว และเทคโนโลยีกันรอยอย่าง Gorilla Glass 4 ซึ่งยอมรับเลยว่ากันรอยดีขึ้นมาก เพราะใช้งานจริงไม่ได้ใส่ฟิล์ม แต่ก็มีรอยขีดข่วนขนแมวตามเรื่อง ถ้าไม่ส่องจริงๆ ก็ไม่เห็น กับอีกอันนึงคือ ถ้าไม่ได้โดนขูดขีดแรงๆ เอาแค่ใส่กระเป๋าใช้งานทั่วไป ไม่มีรอยลึกให้เห็นแน่นอน


หน้าจอที่มีดีไซน์เต็มขอบแนบชิดติดขอบจริงจัง ตั้งแต่ Mi Mix ตัวแรกแล้ว นับว่าเป็นผู้นำด้านจอไร้ขอบอันดับแรก และด้านบนจะไม่มีกล้อง จะมีแค่เพียงลำโพงแค่นั้นเอง แต่ก็เป็นรอยแหว่งไปนิดเดียว อาจจะเรียกว่าเป็น notch เล็กๆ ก็ได้นะ


ตำแหน่งด้านล่างที่ยังไม่สามารถทำให้เต็มขอบจอได้ เนื่องจากยังมีกล้องด้านหน้า แต่ก็ถือว่าได้พื้นที่แสดงผลเกือบเต็มขนาดหน้าจอ 5.99 นิ้ว


ส่วนด้านหลังของตัวเครื่อง เงาวับ ตัวเครื่องจริงๆ เป็น เฟรมอะลูมิเนียมแข็งแรงในระดับหนึ่ง ด้านหลังเป็นเซรามิคที่เห็นเงาวับแบบนี้ล่ะ เป็นรอยนิ้วมือง่ายแต่ก็ทำความสะอาดได้ง่ายด้วย ความร้อนก็ระบายได้ดี แต่ข้อเสียสำหรับคนรีวิวก็คือ ถ่ายรูปออกมาได้ยากเลหือเกิน มีเงาสะท้อนตลอด แต่ผมว่าผู้หญิงน่าจะชอบเพราะไม่ต้องใช้กระจกดูความสวยของตัวเองอีกต่อไป ใช้เจ้า Xiaomi Mi Mix 2S นี่ล่ะ เครื่องเดียวจบ ส่วนคุณผู้ชายคงต้องมาดูเรื่องฟีเจอร์  นอกจาก quick charge 3.0 แล้ว ยังมาพร้อมกับชาร์จไร้สาย Qi ซึ่งชาร์จเร็วด้วยพลังงานที่ 7.5 W


Mi Mix 2S มาพร้อมกับกล่องคู่ ที่สเปคอาจจะไม่ได้มีความละเอียดอะไรมากมาย แต่ว่าเค้ามาพร้อมกับ A.I. และ Beautify ซึ่งตัวกล้องใส่เทคโนโลยีมาค่อนข้างดีเลยทีเดียว ตามเทรนด์ ซึ่งเริ่มเห็น Xiaomi ในการพัฒนาด้านกล้องและการถ่ายภาพเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ


ด้านข้างทั้งสองด้าน มีปุ่มเรียงตัวกันตามคอนเซ็ปท์ปกติ ปุ่มปิดเปิดเครื่องและเร่งลดเสียง อันนี้แอบอยากได้ปุ่ม shutter แยกออกมาต่างหากตรงตำแหน่งท้ายเครื่อง เวลาถ่ายรูปจะสะดวกมากขึ้น


ด้านบนขอบมนตามคอนเซ็ปท์ปกติ ไม่เน้นเรื่องความบางของขอบซึ่งจริงๆ ก็ถือว่ามาตรฐาน ไม่ได้บางมากที่ 8.1 มม. ซึ่งยังจับถนัดมืออยู่นะ แต่ที่เสียใจก็คือไม่มี IR หรือ อินฟราเรด จะได้ครบเครื่อง


ส่วนด้านล่างใช้พอร์ท USB-C เรียบร้อย ซึ่งกลายเป็นพอร์ทมาตรฐานไปแล้ว ณ ตอนนี้ รุ่นเล็กๆ ก็คาดว่าจะเปลี่ยนตามรุ่นใหญ่ในอีกไม่นาน และด้านล่างมีไมค์อีกหนึ่งตัว ทำให้การใช้งานโทรศัพท์นี่หายห่วง


สำหรับการใช้งานด้านอินเทอร์เน็ต ถาดซิมรองรับ nano SIM ทั้งซิม 1 และ ซิม 2 และไม่มี microSD คือใส่เพิ่มไม่ได้ อันนี้อาจจะเป็นจุดอ่อนนึง แต่ความจุระดับ 64 GB หรือ 128 GB ยังไงก็พอใช้อยู่แล้ว (สำหรับคนทั่วไปนะ) ซึ่งส่วนใหญ่ถ้าไม่พอคือเราจะใช้งานไปในระยะเวลานึง เป็นเดือนแล้วใช้เรื่อง backup ขึ้น cloud ต่างๆ เอาครับ รวมถึง Mi Cloud ก็มีซัพพอร์ทให้ 5GB ด้วย

พอดีมีเคสแถมด้วย เอาเคสมาดูกันหน่อย

 


ซึ่งเวลาใส่เคสแล้ว แม้ว่าความสวยจากเงาวับวาวจะหายไป แต่ก็แลกมาด้วยความเข้ม และความปลอดภัยของเลนส์ ที่ไม่ต้องวางเอาไว้กับพื้นแล้วกลัวรอยขูดขีด ถึงแม้ว่ากระจกเลนส์กล้องจะกันรอยในระดับนึงแล้วก็ตาม เพลยเซฟไว้ก่อนดีกว่า


ตัวเครื่องรองรับมัลติทัช 10 จุด ลื่นๆ คะแนนก็ประมาณนึง แรงใช้ได้อยู่นะ ก็ Snap 845 นี่นา

มาดูเรื่องซอฟท์แวร์ภายในเครื่องกันหน่อย

MIUI ตอนที่ได้มารีวิวยังคงเป็น 9.x อยู่ ตอนนี้คงใกล้จะได้รับอัพเดท MIUI 10 กันแล้ว ยังคงมาพร้อมคอนเซ็ปท์เดิมๆ มี softkey ใช้งานอยู่หรือจะเปิดการใช้งานแบบ full touch ก็ได้ แล้วแต่ถนัด

 


ตัวการตั้งค่าอื่นๆ  มีให้ครบ มี NFC ในตัว การปรับความเปรียบต่างของสีและแสงของหน้าจอให้เข้ากับโหมดอ่านก็ยังมีให้ครบตามสไตล์ MIUI ต้องบอกว่าเป็น UI ที่มีฟีเจอร์ครบๆ อันดับต้นๆ เลย

เปิดหรือปิดโหมดเต็มหน้าจอได้ แล้วแต่ถนัด  วิธีการใช้งานมีแนะนำไว้แล้ว ไม่ยาก ใช้แป๊ปเดียวก็ชิน


จริงมีเรื่องพื้นที่ทับซ้อนที่เป็นจุดเด่นที่ชอบนะ อีกอันนึงคือตัว แอปโคลนที่ใช้ได้ทุกแอปไม่ได้จำกัด

มีโหมดถนัดมือมาให้ จริงๆ เป็นมาตรฐานของ MIUI เลยนะ


ตัวปุ่มลัดต่างๆ สามารถตั้งค่าได้เพียบ

เรื่องกล้องถ่ายภาพและรูปถ่าย

อย่างที่บอกล่ะครับว่ามีการพัฒนามาตลอดจนล่าสุดใส่ A.I. ที่ทำให้ฉลาดมากขึ้น ซึ่งจริงๆ แล้วก็เหมือนโหมดออโต้ แต่ว่าจะฉลาดกว่านั้นนิดนึงนะ


โหมดกล้องต่างๆ มีให้ใช้งานเยอะแยะ มากมาย การเลือกแบบเมนวลก็เป็นอีกทางเลือกนึงที่ปรับได้หลากหลาย และเนื่องจากเป็นกล้องคู่ 12 ล้านพิกเซล สามารถซูมแบบ 2X ได้


โหมดวีดีโอ ก็มีเรื่องของเคลื่อนไหวช้า แต่ว่าตั้งค่าไม่ได้ว่าเอาช้าแค่ไหน ซึ่งต้องบอกว่าเทรนด์ตอนนี้ไป super slomo กันแล้ว แต่ Mi Mix 2S คงต้องรอต่อไป

ด้านตัวกล้อง ที่อาจจะต้องสลับจากด้านล่างเป็นด้านบน ถึงแม้ว่าการดีไซน์ด้านหน้าจะดูดี สวยงาม แต่เรื่องการใช้งานต้องปรับให้ชินเหมือนกัน ถ้าอยากจะให้เซลฟี่ตามปกติ ที่คุ้นเคย ต้องกลับเอากล้องที่อยู่ตรงล่างเครื่องขึ้นมาอยู่ทางด้านบน และปุ่มชัทเตอร์ที่เราใช้ปุ่มเร่งลดเสียง ก็จะสลับที่ไปด้วย อย่างที่บอกล่ะครับว่าต้องปรับตัวในการใช้งานกันหน่อย และโหมดกล้องด้านหน้า นอกจากจะมีโหมด Beautify แล้ว ยังมีโบเก้ที่สามารถปรับให้ภาพด้านหลังเบลอ ทำให้ภาพบุคคลเด่นขึ้นมาด้วย

ภาพถ่ายตัวอย่าง

ภาพจบหลังตัวเครื่องเลย เอามาลดขนาดอย่างเดียว ฝีมือบ้านๆ เล่นกล้องไม่เป็น ยูสเซ่อร์ ทั่วๆ ไปเลยครับ

ภาพถ่ายพื้นๆ

ผมชอบท้องฟ้าวันนั้นจัง

ภาพภ่ายอาหารพื้นๆ


เปรียบเทียบเจ้าแมวเหมียวกับการซูม 2X

ภาพทั่วๆ ไป ลืมถ่ายภาพดอกไม้เก็บไว้  แฮะ

ภาพจากกล้องหลังจากน้องที่ช่วยเป็นนางแบบให้ ทำให้คนเล่นกล้องไม่เป็นอย่างผม ถ่ายออกมานางแบบดูดีขนาดนี้ (จริงๆ นางแบบเค้าน่ารักอยู่แล้ว) ได้ Xiaomi Mi Mix 2S เข้าไปอีก จัดเต็ม


กล้องด้านหน้า A.I. Beautify จัดไปงามได้ใจ

สรุปว่า Xiaomi Mi Mix 2S

โดยภาพรวมถือว่าชอบเลย ด้วยดีไซน์และสเปคที่แบบว่าโดน ดีไซน์คือสวย แต่พอใส่เคสที่แถมมาในกล่องปุ๊ป ความสวยหายไป กลายเป็นโหมดโปรเทคตัวเองไปซะงั้น ซึ่งจริงๆ ก็คงขึ้นอยู่กับการใช้งานว่าจะโชว์สวย หรือจะกันให้สวยนานขึ้น น้ำหนักและขนาดจับพอดีมือ ผมว่าดูแล้วทุกคนคงรู้สึกเหมือนกันว่ามันแจ่ม แต่ที่ขัดใจ แตก็เป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์นี้ก็คือเรื่องตำแหน่งกล้องที่เคยมีข่าวว่าจะย้ายไปอยู่ด้านบน แต่สุดท้ายก็ยังเหมือนเดิม ดังนั้นเรื่องการใช้งานอาจจะมีขลุกขลักกันเล็กน้อย ปรับตัวกันนิดนึง ภาพรวมเรื่องการใช้งาน ความลื่น อันนี้สอบผ่านอยู่แล้ว เรื่องการเล่นเกมส์ ก็ร้อนแต่น้อยผิดคาด อาจจะด้วยการพัฒนาของ Snapdragon 845 รวมถึงการใช้วัสดุอย่างเฟรมอะลูมิเนียมและขอบหลังที่เป็นเซรามิกทำให้ระบายความร้อนได้ดี ส่วนของกล้องมีการพัฒนาคุณภาพมากขึ้น แบตอึดมีควิกชาร์จทั้งไร้สายและมีสาย จัดเต็มมาก เรื่อง 4G ก็ใช้งานได้ทั่วโลกเลยล่ะมั้ง ซัพพอร์ทคลื่นความถี่แบบว่ามากมาย เป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจ น่าใช้งาน และน่าเป็นเจ้าของอย่างแรง

ขอบคุณ Xiaomi Thailand ที่ให้ยืมเครื่องทดสอบ



ถูกใจบทความนี้  24