รีวิว! JUMPER EZbook X4 อัลตร้าบุ๊ค วัสดุพรีเมี่ยม รุ่นต่อยอดความสำเร็จ พร้อมอัพเกรดสเปคที่แรงขึ้นกว่าเดิม !!

แบรนด์ Jumper สร้างชื่อมาจาก EZBOOK 3 PRO อัลตร้าบุ๊คบางเบา วัสดุพรีเมี่ยม ในราคาจับต้องได้ ซึ่งเป็นรุ่นยอดนิยมที่ขายดีมาก ๆ ใน GearBest โดยทางเว็บของเราก็เคยรีวิวให้ได้รับชมกันไปแล้ว https://bit.ly/2NVpiwN ล่าสุด Jumper เปิดตัว EZbook X4 อัลตร้าบุ๊ครุ่นใหม่ ที่ยังคงคอนเซ็ปต์ในแง่ความคุ้มค่าไว้ได้เหมือนเช่นเคย และรอบนี้ยังอัพเกรดสเปคให้แรงขึ้นด้วย CPU และกราฟิกการ์ดรุ่นใหม่ พร้อมปรับปรุงคีย์บอร์ดให้พิมพ์ได้สะดวกแม่นยำยิ่งขึ้น แถมมีไฟ black light ของตัวคีย์บอร์ดมาให้ใช้งานเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ ใครที่สนใจและมองหาอัลตร้าบุ๊ควัสดุพรีเมี่ยมในราคาไม่แรง JUMPER EZbook X4  จัดว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยครับ

 

Main Features:
Microsoft Windows 10 Home OS
Offers more powerful performance, brings you more smooth and wonderful user experience
14.0 inch FHD Screen
Offers good experience for watching videos and browsing the Web
Intel Gemini Lake N4100 Quad Core 1.1GHz, up to 2.4GHz
Ultra-low-voltage platform and quad-core processing provide maximum high-efficiency power
Intel HD Graphics 600 Integrated Graphics
Better and faster in playing games and watching videos
Rated 4GB DDR4L RAM for Advanced Multitasking
Substantial high-bandwidth RAM to smoothly run your games, photos and video-editing applications
128GB SSD Storage Capacity
Provides room to store pictures, videos, music and more
Front Camera for Photos and Face-to-face Chat
2.0MP front camera allows you to capture memorable moments or chat with friends
Dual Band 2.4GHz / 5.0GHz WiFi
Allows you to connect to the Web while within range of an available wireless network
HDMI Output

JUMPER EZbook X4 ราคา 11,840 บาท

สั่งซื้อได้ที่นี่ http://bit.ly/2HDnDZ7

 

Specification

Basic Information Brand: Jumper
Caching: 4MB
Core: 1.1GHz,Quad Core
CPU: Intel Gemini Lake N4100
CPU Brand: Intel
Graphics Chipset: Intel HD Graphics 600
Graphics Type: Integrated Graphics
Model: EZbook X4
OS: Windows 10
Power Consumption: 4.8W
Process Technology: 14nm
Type: Notebook
Graphics Card Frequency: 200 – 700MHz
Storage Hard Disk Interface Type: M.2
Hard Disk Memory: 128GB
RAM: 4GB
RAM Type: DDR4L
Rotational Speed: 500M/S
Network Bluetooth: 4.0
Support Network: Dual WiFi 2.4GHz/5.0GHz
Display Display Ratio: 16:9
Screen resolution: 1920 x 1080 (FHD)
Screen size: 14 inch
Screen type: 1080P FHD
Camera Camera type: Single camera
Front camera: 2.0MP
Connectivity 3.5mm Headphone Jack: Yes
DC Jack: Yes
Micro HDMI slot: Yes
TF card slot: Yes
USB Host: Yes (2x USB 3.0 Host)
General AC adapter: 100-240V 12V 2A
Battery Type: 9600mAh, lithium polymer battery
MIC: Supported
Speaker: Built-in Dual Channel Speaker
Standby time: 4 – 5 hours
Keyboard Backlight Type: Backlit keyboard
Package Contents Charger: 1
English Manual : 1
Notebook: 1
Dimensions Package size: 40.00 x 34.50 x 8.00 cm / 15.75 x 13.58 x 3.15 inches
Package weight: 1.8070 kg
Product size: 33.30 x 22.00 x 1.30 cm / 13.11 x 8.66 x 0.51 inches
Product weight: 1.3630 kg

Unboxing

กล่องแพ็กเกจจะเหมือนกับรุ่น Jumper EZBOOK 3 PRO คือเป็นกล่องที่ผลิตออกมาเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยสามารถนำกลับไปรีไซเคิลได้ 100% นั่นเอง

 

อุปกรณ์ภายในกล่องที่ให้มาจะมีคู่มือการใช้งานฉบับย่อภาษาอังกฤษ/จีน และอแดปเตอร์ชาร์จแบบหัวเข็ม 0.45A (สามารถใช้งานร่วมกับ EZBOOK 3 PRO ได้)

 

วัสดุหลักและการดีไซน์ของ JUMPER EZbook X4 ยังใช้แนวทางเดิมที่มีอยู่ใน EZBOOK 3 PRO ครับ โดยวัสดุหลักจะเป็น Aluminum Alloy ที่ให้ความหรูหราพรีเมี่ยมเกือบทั้งตัว ส่วนที่เป็นพลาสติกก็คือกรอบของแผงหน้าจอ และปุ่มของคีย์บอร์ดครับ

 

การออกแบบในภาพรวมมีความคล้ายคลึงกับ MacBook Air เรียกว่าเอาโลโก้ Apple มาแปะติดไว้ตรงกลางดูผ่าน ๆ แทบแยกไม่ออกเหมือนกันครับ (ฮ่า)

 

สำหรับพอร์ตการเชื่อมต่อต่าง ๆ ที่ให้มา ทางฝั่งซ้ายมือของตัวเครื่องจะประกอบไปด้วย  USB 3.0, Micro HDMI, และไฟแจ้งเตือนสถานะการชาร์จ

 

ส่วนฝั่งขวาของตัวเครื่องจะมี DC พอร์ตจ่ายไฟเลี้ยงและชาร์จแบต, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม., USB 3.0, และการ์ดรีดเดอร์ (รองรับเฉพาะ MicroSD Card)

 

หน้าจอใหญ่ขึ้นเป็น 14 นิ้ว แต่เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ไม่ได้มาพร้อมจอ IPS เหมือน EZBOOK 3 PRO โดยทางค่าย Jiumper เลือกใช้พาแนลจอ TN ใน EZbook X4 ซึ่งภาพที่ได้ก็จะเหมือนจอ TN ทั่ว ๆ ไป กล่าวคือจะไม่ค่อยสะท้อนแสง แต่ความสว่างสดใส และมุมมองที่ได้จะต่างต่างจอ IPS อย่างเห็นได้ชัด แต่ทั้งนี้คุณภาพจอของ JUMPER EZbook X4 ไม่ได้จัดว่าแย่จนรับไม่ได้แต่อย่างใดนะครับ โดยในด้านความสว่าง คอนทราสต์และความคมชัดนั้นอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่ถ้านำไปเปรียบเทียบกับ IPS แล้ว ยังไงก็ด้อยกว่าอยู่ดีนั่นเอง

 

กล้องเว็บแคมความละเอียดเท่าเดิมที่ 2 ล้านพิกเซล พร้อมขนาบข้างด้วย Dual ไมโครโฟน

 

ตามที่เกริ่นไป EZbook X4 ให้จอแสดงผลชนิด TN ความละเอียด Full HD 920 x 1080 (ไม่รองรับ ทัชสกรีน) และผมลองเปรียบเทียบให้ดูว่าจอ TN นั้น ถ้าเรามองตรง ๆ จะให้ความคมชัดแม่นยำอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่มุมมองจะไม่กว้าง เมื่อมองด้านข้างภาพก็จะดูดรอปลงไป ซึ่งเป็นเรื่องปรกติของจอแสดงผลชนิดนี้

 

เมื่อกางจอจนสุดก็จะได้ประมาณนี้ครับ น่าจะพอ ๆ กับ Jumper EZBOOK 3 PRO

 

ไฟแจ้งเตือนสถานะการทำงานที่อยู่ที่ฝั่งซ้ายบนของแผงคีย์บอร์ด

 

ทัชแพดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม ใช้งานได้สะดวกสบาย พร้อมรองรับฟีเจอร์ multi finger ลาก 2 นิ้วเพื่อซูมเข้าออก เลื่อนหน้าจอได้เหมือนเช่นเคย

 

บานพับเป็นแบบแกนยาว ในด้านความหนืด ความแข็งแรง เท่าที่ทดสอบเบื้องต้น ให้ฟิลลิ่งที่แทบไม่ต่างไปจาก Jumper EZBOOK 3 PRO เลยครับ

 

คีย์บอร์ดเป็นแบบ Chiclet สไตล์เหมือนเดิม แต่สิ่งที่เพิ่มเติมเข้ามาก็คือ มีการยกระดับความสูงของปุ่มเพิ่มเข้ามาอีกนิด ทำให้พิมพ์ได้สะดวกและแม่นยำขึ้น ในด้านของการตอบสนองของตัวปุ่มก็ทำได้ดีกว่า Jumper EZBOOK 3 PRO อีกด้วยครับ แต่แน่นอนว่าไม่มีไม่มีคีย์ภาษาไทยมาให้นะ ซึ่งตรงนี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะเราสามารถซื้อสติ๊กเกอร์ภาษาไทยราคาไม่ถึงร้อยมาติดก็พิมพ์ไทยได้ง่าย ๆ แล้วครับ

 

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาก็คือ ไฟ black light สำหรับคีย์บอร์ดนั่นเอง โดยสามารถเปิดใช้งานด้วยการกดปุ่ม FN+Space Bar และปรับความสว่างได้ 2 ระดับ

 

ด้านล่างมียางรองกันลื่นทั้งสี่มุม และสามารถถอดประกอบเครื่องได้โดยง่าย โดยขันน็อตเพียงไม่กี่ตัว

 

ทั้งนี้ RAM จะเป็นแบบออนบอร์ด ทำให้ไม่สามารถอัพเกรดได้ แต่ผู้ใช้งานสามารถอัพเกรด SSD ได้ครับ โดยรองรับทั้งแบบ M.2 2280 และ M.2 2242 ซึ่งยืดหยุ่นกว่า EZBOOK 3 PRO ที่รองรับแค่ M.2 2242 เพียงขนาดเดียว

 

 

ลองเปรียบเทียบกับ Jumper EZBOOK 3 PRO ให้ดูคร่าว ๆ นะครับ ในภาพรวมดีไซน์แทบจะไม่ต่างกัน แต่  EZbook X4 จะมีขนาดที่ใหญ่กว่าหน่อย เพราะด้วยขนาดหน้าจอที่เพิ่มขึ้นเป็น 14 นิ้วนั่นเอง

 

และสิ่งที่น่าประทับใจก็คือ JUMPER EZbook X4 อัพเกรดคีย์บอร์ดและทัชแพดได้ดีขึ้นกว่าเดิม ใครที่เน้นการทำงานด้านเอกสาร ต้องพิมพ์งานเยอะ ๆ ตรงนี้ EZbook X4 ตอบโจทย์ได้ดีกว่าแบบเห็นผลชัดเจน

 

สเปคเบื้องต้นของ JUMPER EZbook X4

CPU: Intel Celeron N4100 quad-core 2.4GHz

Graphics:  Intel UHD Graphics 600

RAM: 4GB DDR4L

Screen: 14-inch 1920 x 1080 resolution

Storage: 128GB SSD

Ports: 2 x USB 3.0, audio jack, microSD card slot, mini-HDMI

Connectivity: 802.11ac Wi-Fi, Bluetooth 4.0

Camera: 2MP front webcam

Weight: 1.36kg

Size: 333 x 220 x 13mm (W x D x H)

Battery: 9600mAh

 

ข้อดีของ JUMPER EZbook X4  ก็คือมาพร้อม Windows 10 Home ลิขสิทธิ์แท้ ทำให้สามารถใช้งานได้ยาว ๆ อัพเดตได้ตลอดอายุการใช้งานของตัวเครื่อง

 

คะแนน benchmark เหนือกว่า EZBOOK 3 PRO พอสมควร ส่วนหนึ่งคือการที่ได้ชิปเซ็ตรุ่นใหม่มาใช้งาน บวกกับ RAM DDR4 และ SSD ที่ใส่มาให้ตั้งแต่โรงงานนั่นเอง

 

ตามสเปคระบุให้แบตมาที่ความจุมาที่ 9600mAh แต่ถ้าวัดจากตัว Software แล้วจะมีความจุที่สามารถใช้งานได้จริง ๆ อยู่ที่ 6316mAh

ในการใช้งานพื้นฐานทั่ว ๆ ไป เช่นท่องเว็บ พิมพ์เอกสาร สามารถใช้งานได้ราว ๆ 4 – 4.5 ชั่วโมงครับ

 

รองรับการใช้งานด้านเอกสาร พิมพ์งาน ท่องเว็บ ใช้งานทั่ว ๆ ได้สบาย ๆ แถมยังลื่นไหลกว่าเดิมเพราะได้ชิปเซ็ตตัวใหม่อย่าง Gemini Lake N4100 และ Intel HD Graphics 600 ที่นอกจากใช้งานพื้นฐานทั่วไปได้ดีแล้ว ยังรอบรับด้าน เอนเตอร์เทนได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย ไม่ว่าจะเะป็นการเล่นไฟล์วีดีโอความละเอียดสูง ๆ อย่าง 4K รวมไปถึงสามารถเล่นเกมที่มีกราฟฟิคหนัก ๆ ซึ่งบน Jumper EZBOOK 3 PRO นั้นไม่สามารถเล่นได้

 

อย่างเกม Street Fighter IV ถ้าปรับแต่งในด้านการแสดงผลให้เหมาะสมก็จะสามารถเล่นได้อย่างลื่นไหลเลยครับ

 

Need for speed hot pursuit ก็เล่นได้เช่นกัน ทั้งนี้เคยลองบน  EZBOOK 3 PRO แต่ไม่สามารถรันตัวเกมขึ้นมาได้ ตรงนี้ก็เห็นความแตกต่างที่ชัดเจนในแง่ของประสิทธิภาพจาก Performance ที่เพิ่มขึ้นมาใน JUMPER EZbook X4 เรียกว่าตอบโจทย์คอเกมได้ในระดับหนึ่ง แม้จะเป็นเกมเก่า ๆ และต้องปรับตั้งค่าความละเอียดลดลงมา แต่อย่างน้อยก็สามารถเล่นฆ่าเวลาคลายเหงาได้บ้างนั่นเองครับ

 

จากนี้ไปรับชมในรูปแบบคลิปวีดีโอกันต่อได้เลยครับ

 

 

สรุป JUMPER EZbook X4

ข้อดี

1. สเปคแรงขึ้นมาพร้อม CPU รุ่นใหม่

2. วัสดุและงานประกอบดี มีความพรีเมี่ยมในตัว และมาพร้อม Windows ลิขสิทธิ์

3. รองรับ Wifi Dual band 2.4/5 GHz

4. คีย์บอร์ดและทัชแพดปรับปรุงได้ดีขึ้นจาก EZBOOK 3 PRO และมีไฟแบ็คไลท์สำหรับคีย์บอร์ดมาให้ใช้งาน

5. แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนาน 4 – 4.5 ชั่วโมง

6. สเปคต่อราคาถือว่าค่อนข้างคุ้ม

 

สิ่งที่ต้องพิจารณา

1. โดนเปลี่ยนจากจอ IPS มาเป็น TN

2. ไม่มีพอร์ต Type-C

3. อัพเกรด RAM ไม่ได้

 

สำหรับรีวิว JUMPER EZbook X4 ก็ขอจบแต่เพียงเท่านี้ หากเพื่อน ๆ สนใจ สามารถสั่งซื้อได้ที่นี่ครับ JUMPER EZbook X4 ราคา 11,840 บาท  สั่งซื้อได้ที่นี่ http://bit.ly/2HDnDZ7

 

ลากันไปแต่เพียงเท่านี้ ขอขอบคุณที่ติดตามรับชมกันนะครับ 

 

 

วิธีสั่งซื้อสินค้าจาก Gearbest https://goo.gl/tDt2E9

 

ถูกใจบทความนี้  4