คือเห็นแล้วแบบว่า มันก็นะ เนื่องจากช่วงนี้เครื่องกรองอากาศ หรือเครื่องฟอกอากาศทั้งหลาย ขายดีจนของหมดสต็อค เพราะเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ จำได้ว่าเคยมีอาจารย์พูดถึงเมื่อหลายสิบปีก่อนว่า อีกหน่อยเราคงต้องซื้อออกซิเจนสูดกันแล้ว เพราะมลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรมที่ทำให้เกิดเรือนกระจกมากเหลือเกิน จนปัจจุบัน ชั้นบรรยากาศที่ปกคลุมโลกไม่เหลือแล้วล่ะมั้ง โดนรังสีกันเต็มๆ จากการเติบโตของเศรษฐกิจที่ต้องสร้างมลภาวะกันไม่รู้จักจบสิ้น เพราะแต่ละธุรกิจต่างก็ต้องการยอดขายที่เพิ่มขึ้น ลูกค้าใช้งานมากขึ้น อะไรๆ ก็มากขึ้น จนไม่ได้นึกถึงสิ่งที่ตามมาไม่ว่าจะเป็นการสร้างมลพิษต่างๆ หรือจะเป็นการทิ้งเศษซากของสิ่งของที่ไม่ได้ใช้แล้ว กลายเป็นขยะเอาไว้ให้ลูกหลานคอยจัดการให้ ซึ่งตอนนี้เอง ก็มีกลุ่มพ่อค้า หรือไม่ก็กลุ่มคนหัวใส หาผลประโยชน์กับกระแสฝุ่นจิ๋ว PM 2.5 ขายเครื่องฟอกอากาศเกินราคาจากที่ควรจะเป็นซึ่งก็เข้าใจได้ และก็ขึ้นอยู่กับผู้ซื้อ เพราะขายแพงจริงแบบไม่มีเหตุผลก็คงไม่มีคนซื้อ แต่ตอนนี้คือมันขาดตลาดหาของไม่ได้ ก็จำเป็นและจำใจต้องซื้อ เพื่อให้คุณภาพชีวิตของตัวเองและครอบครัวดีขึ้น โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็กๆ ก็อาจจะต้องลงทุน แต่ทว่า ณ ปัจจุบัน สถานการณ์เหมือนจะดีขึ้น และจากกราฟที่เห็นผ่านตามาคือในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านไปแล้วมักจะเป็นช่วงพีค เพราะอากาศหนาว อากาศมันจะนิ่งทำให้ฝุ่นอยู่กับที่ ไม่ไปไหน แต่เดือนนี้ล่ะครับที่มันจะเริ่มดีขึ้นแล้ว ไม่ใช่ว่าไม่ให้ซื้อนะ แต่ซื้อในราคามาตรฐาน ผมเองซื้อมาในช่วงปีที่แล้ว ถังเครื่องฟอกอากาศและหน้ากากที่มีพัดลม ซึ่งเอาไว้ใช้ในชีวิตประจำวัน เนื่องจากเจอฝุ่นอยู่บ่อยครั้ง ทั้งที่ตอนนั้นฝุ่นที่เห็นด้วยตาเปล่า ผมก็ไม่เอาแล้ว และที่บ้านเองก็ด้วย อยู่ใกล้กับถนน เปิดหน้าต่าง เปิดบ้านวันเดียวฝุ่นตรึม เลยตระหนักและจัดหามาก่อน ซึ่งราคาค่าตัวดีมาก ปีก่อนอย่างของ Xiaomi นี่แถมมากับ Smartphone เลยเสียด้วยซ้ำ แต่พอมาปีนี้นี่คือเหมือนทองเลย ขึ้นโหดมาก รวมถึงยี่ห้ออื่นด้วยนะครับ อย่าไปตื่นตระหนกจนเกินไป ลองหาข้อมูลโดยละเอียด และป้องกันโดยที่ไม่ต้องเปลืองตังค์เยอะนักจะดีกว่าในช่วงนี้ ผมเชื่อว่าอีกไม่นานเราก็ไม่ต้องผจญฝุ่นอีกแล้ว (ดูจากเทรนด์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา) แต่ซื้อเอาไว้ไม่เสียหลาย เพราะเชื่อว่าปีหน้าเราจะเจอสถานการณ์นี้อีก และอาจจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่อย่าไปอุดหนุนร้านค้าหน้าเลือดที่กอบโกยเอาแต่ผลประโยชน์เข้าตัวเอง จนไม่ได้ดูเลยว่าคนอื่นเค้าเดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือ ภัยร้ายที่ ร้ายยิ่งกว่า ฝุ่นจิ๋ว PM 2.5 ก็เห็นจะเป็นมนุษย์ด้วยกันเองนี่ล่ะ
You must be logged in to post a comment.