เปิดตัวตามนัดสำหรับสมาร์ทโฟนเรือธงจาก Nokia กับ Nokia 9 PureView ที่มาพร้อมกล้องหลัง 5 ตัวตามข่าวลือเป๊ะ ซึ่งแน่นอนว่าเปิดตัวกันในงาน Mobile World Congress 2019 นั่นเอง ยัดกล้องมาขนาดนี้คงเน้นเรื่องกล้องกันสุดๆ แน่นอน
ก่อนจะพูดถึงเรื่องกล้องก็มีอีกจุดเด่นที่ชัดเจนคือเรื่องของดีไซน์ด้านหลังตัวเครื่องที่ครั้งนี้ Nokia ได้ตัดสินใจใช้กระจกครอบด้านหลังมาคู่กับขอบอลูมิเนียมพร้อมใส่การกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP67 ให้มา
หน้าจอตัวเครื่องเป็นแบบ P-OLED ขนาด 5.99 นิ้ว รองรับ HDR10 ความละเอียด 2,880 x 1,440 พิกเซล และใช้กระจก Gorilla Glass 5 ครอบไว้เพื่อป้องกันการแตกนั่นเอง (ไม่ทำตกดีสุดนะ) ซึ่งภายใต้หน้าจอนั้นยังได้ใส่เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเอาไว้และยังรองรับการใช้งาน Face Unlock ด้วยเช่นกัน
ทว่าน่าเสียดายที่ชิปเซ็ตตัวเครื่องยังคงมาพร้อม Snapdragon 845 ซึ่งเชื่อได้ว่า Nokia ได้ทุ่มเทกับการพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทั้ง CPU, GPU, ISP และ DSP ให้เข้ากันที่สุดนั่นเอง ซึ่งถ้าเป็นไปได้และการทุ่มพัฒนานั้นสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับ SD855 ได้คงดีไม่น้อย แต่นั่นก็ทำให้ราคาของ Nokia 9 นั้นไม่ได้แพงมากเกินไปนักล่ะ
โดย Nokia 9 PureView จะมีสีเดียวคือ Midnight Blue และมีเวอร์ชั่นเดียวคือ RAM 6GB และหน่วยความจำเครื่อง 128GB รองรับการใช้งาน MicroSD Card ด้วย
ในส่วนของกล้องหลังตัวเครื่องทั้งหมด 5 ตัวนั้นได้ใช้งานเลนส์หลักจาก Zeiss ความละเอียด 12MP f/1.8 ระยะโฟกัส 28มม. ไม่มีเลนส์ Wide หรือ Tele ทั้งสิ้น โดยแบ่งเป็นเลนส์ RGB 2 ตัว และเลนส์ Monochrome 3 ตัว ส่วนรูกล้องอีกรูนั้นเป็น ToF เพื่อสร้างรายละเอียดของระยะชัดตื้นในการถ่ายภาพนั่นเอง พร้อมกันนี้ได้ติดไฟแฟลช LED 2 ดวงมาให้ด้วยแบบ True Tone
แม้จะไม่มีระยะพิเศษอย่างรุ่นอื่นเค้าแต่ Nokia 9 ก็จะมีจุดเด่นที่สามารถถ่ายภาพได้พร้อมกันจริงจังทีเดียวทั้ง 5 กล้องความละเอียด 12MP และนำภาพทั้งหมดมารวมเข้าไว้ด้วยกันเพื่อเก็บ Dynamic Range ทั้งหมด 12.4 stop ทำให้ได้ทั้งแสงสีและเงาเสมือนใช้กล้องที่เซ็นเซอร์ใหญ่กว่ากล้องมือถือเลยก็ว่าได้
นอกจากนี้ Nokia 9 ยังได้เพิ่มประสิทธิภาพกับผู้ที่ชื่นชอบการปรับแต่งภาพไฟล์ RAW เช่นการเปิดเงา, การเพิ่ม Highlight ฯลฯ ซึ่งได้รวมกันพัฒนาการรองรับ RAW นี้ร่วมกันกับ Adobe ซึ่งสามารถใช้งานได้อย่างดีกับ Lightroom (ตัวฟรี) และ Nokia เองยังได้เป็นพาร์ทเนอร์ที่ดีของ Google ในการใช้งาน Google Photo เสมือนเข้าใจกันดีอย่างลึกซึ้งกับกล้องหลังทั้งห้าตัวซึ่งสามารถปรับแต่งภาพทั้งจุดโฟกัสและโบเก้ได้รวมถึงสามารถดูภาพไฟล์ RAW ผ่าน Photo ได้ทันที (ไฟล์ DNG)
ส่วนความร้ายกาจของ ToF นั้นสามารถผลิตความชัดตื้นได้มากถึง 1200 layers ซึ่งจะยิ่งทำให้โบเก้ที่ถ่ายได้นั้นเสมือนจริงและเบลอได้เนียนตากว่าการถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอของสมาร์ทโฟนที่ผ่านมา
แน่นอนว่า Nokia 9 ยังรองรับการปรับตั้งค่าแบบ Manual ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นการตั้งสปีดชัตเตอร์ได้มากถึง 10 วินาที หรือการปรับแต่ง ISO, White Balance และจุดโฟกัส
ในส่วนของการถ่ายวิดีโอรองรับที่ 4K HDR@30fps
กล้องหน้าตัวเครื่องความละเอียด 20MP f/1.8 รองรับ Tetracell pixel ที่ช่วยให้การถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยนั้นดีขึ้นจากการรวมภาพทั้งหมดจนเหลือความละเอียด 5MP ทำให้ลด Noise ลงไปได้มาก
Nokia 9 มาพร้อม Android One (Pie version) ซึ่งแน่นอนว่าการเป็น Android One จะทำให้ตัวเครื่องได้รับอัพเดทที่รวดเร็วทันใจแน่นอน และยังจะไม่มีอะไรมากิน RAM เครื่องมากเกินไปอีกด้วย
สุดท้ายตัวเครื่องมีแบตขนาด 3,320mAh รองรับ Fast Charging (QC3 และ USB-PD) และ Wireless Charging 10W แต่ตัวเครื่องไม่มีช่องเสียบหูฟังนะ โดยเปิดตัวที่ราคา $699 หรือประมาณ 21,990 บาท ซึ่งจะมีวางจำหน่ายในจำนวนไม่มากนัก เป็นไปได้ว่าแผนการอาจล่าช้าจนบริษัทต้องหันไปทำสมาร์ทโฟนตัวใหม่ที่มาพร้อมชิปเซ็ตปัจจุบันก็เป็นได้ ซึ่งอาจมี Nokia 9 เวอร์ชั่น SD855 ออกมาภายในปีนี้ ก็ต้องรอดูกัน แต่จากภาพนับว่ากล้องของ Nokia 9 นี่ร้ายไม่เบาเลยนะ
ที่มา gsmarena
You must be logged in to post a comment.