วันนี้เปิดตัวกันไปแล้วครับ กับ Vivo V15 Pro อย่างว้าวเลยครับ ด้วยดีไซน์ที่มาพร้อมกับเทรนด์สีสะท้อนแสงแล้วทำให้เห็นบอดี้เป็นอีกสีในอีกมิตินึง ไม่ใช่แค่นั้น ยังมีหน้าจอแบบเต็มตา Ultra Fullview แบบไร้ขอบที่แท้จริง ไม่มีติ่งเล็กติ่งน้อยด้านหน้าเลย ทำให้การแสดงผลเต็มตา การใช้งานโดนใจจริงจัง มาพร้อมกล้อง AI Triple Camera กล้องสามตัวที่มี AI สุดฉลาดความละเอียดสูง 48 ล้านพิกเซล แถมกล้องด้านหน้าเป็นแบบ pop up เลื่อนขึ้นอย่างรวดเร็วแค่เสี้ยววินาที ความละเอียดถึง 32 ล้านพิกเซลที่มีความละเอียดสูงที่สุดในโลกในบรรดากล้องด้านหน้าแล้ว ไม่แค่นั้นยังคอนเฟิร์มว่าเลื่อนขึ้นลงได้ถึง 300,000 ครั้งเลยทีเดียว เรียกว่าเป็นอีกรุ่นที่สุด ณ ตอนนี้
มาดูเรื่องสเปคกันก่อน
CPU : Snapdragon 675 Octa-core 2.0GHz
Display : 6.53 นิ้ว Ultra Fullview ความละเอียด 1080 x 2340 พิกเซล อัตราส่วน 19.5:9
GPU: Adreno 612
Memory: RAM 6GB ROM 128GB สามารถเพิ่ม microSD ได้ 256GB
OS: Funtouch OS 9 based on Android 9
Connection : WiFi 802.11 a/b/g/n/ac , Bluetooth 5.0 , OTG
Mobile : 2G/3G/4G
Camera: กล้องด้านหลัง ความละเอียด 48MP + 8MP + 5MP (Triple Camera) ƒ/1.8 กล้องด้านหน้า ความละเอียด 32 MP ƒ/2.0
Battery : 3,700 mAh
Color: Topaz Blue, Glamour Red
Price: 14,999 บาท
รายละเอียดตัวเครื่อง
Vivo V15 ถือว่าเป็นรุ่นแรกในปีนี้ ที่เปิดตัวในบ้านเรา ซึ่งเป็นรุ่นที่มีกล้องด้านหน้าแบบ pop up ขึ้นด้านบน ทำให้ไม่มีติ่งบนหน้าจอแม้แต่นิดเดียว ซึ่งการแสดงผลในการใช้งานทุกแอปทุกเกม ทำได้ดีกว่ารุ่นอื่นๆ นั่นเองยังไม่รวมบรรดาฟีเจอร์กล้องอีกมากมาย พร้อมกับ AI Triple Camera อีก 3 ตัว ที่มีความละเอียดมาก เอาเป็นว่ามาติดตามกันครับว่า เจ้า Vivo V15 จะตอบโจทย์การใช้งานของเราได้แค่ไหน
แกะกล่องดูอุปกรณ์
ในกล่องมีอุปกรณ์มาให้ครบครับ ตัวเครื่องเองก็ติดฟิล์มกันรอยหน้าจอพร้อมใช้งาน มีเคสแถมมาให้ไม่ต้องหาซื้อเพิ่ม หูฟังก็มีครบ และตัวหัวชาร์จพร้อมสายชาร์จแบบ micro usb รองรับการชาร์จแบบรวดเร็ว
มาดูรอบๆ ตัวเครื่องกันบ้างครับ
Vivo V15 Pro มาพร้อมกับหน่วยประมวลผลหรือ CPU จากค่าย Qualcomm ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในวงการ โดยใช้ Snapdragon 675 เรียกว่าเป็นรุ่นล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวมาเลยก็ว่าได้ ในรุ่นที่มีความแรงไม่มากนัก แต่มากด้วยความสามารถ ทั้งเรื่อง AI และการประหยัดพลังงาน รวมถึงการใช้งานโดยภาพรวมที่เหนือกว่า CPU เมื่อปีที่แล้วอยู่พอสมควรเลยทีเดียว โดยมีความเร็วที่ 2.0 GHz เป็น Octa-core
Vivo V15 Pro มีขนาดหน้าจอที่ 6.39 นิ้ว ซึ่งถือว่าเป็นขนาดหน้าจอที่กว้างมาก ได้เทคโนโลยี Ultra Fullview Display และยังมีอัตราส่วนของหน้าจอที่ 19.5:9 ซึ่งทำให้แสดงผลได้กว้างกว่าที่เคย พร้อมกับไม่มีติ่งหรือรอยบากให้เกะกะสายตา เรียกว่าการแสดงผลการใช้งานร่วมกับทั้งแอป เกม หรือคลิปต่างๆ ได้ครบถ้วน ไม่มีส่วนหน้าจอส่วนไหนที่ขาดเลย รวมถึง ไม่ต้องปรับหลอกตาว่าไม่มีติ่งอีกด้วย ซึ่งนับว่าโดนใจผม เพราะไม่ว่ารุ่นไหนที่มีติ่ง ยังไงซะมันก็ยังบดบังการแสดงผลอยู่ดี หรือไม่ก็ทำให้อัตราส่วนภาพในการแสดงผลอาจจะเพี้ยนไปก็มี
ด้านหน้าที่มีลำโพงซ่อนอยู่ด้านบนขอบนิดเดียวจริงๆ เรียกว่าเป็นจอไร้ขอบของจริง และไม่มีแม้กระทั่งช่องของรูกล้องที่ซ่อนไว้บนหน้าจอ คงไม่ต้องสงสัยหรอกครับเพราะว่าตัวกล้องเป็นแบบ pop up เลื่อนขึ้นมาและซ่อนเอาไว้เมื่อไม่ได้ใช้งานนั่นเอง
ตัวบอดี้ด้านหลัง มาพร้อมกับสีให้เลือก 2 สี คือสีฟ้า Topaz Blue และ Ruby Red สีสวยงามเนื่องจากมีการออกแบบมาให้สะท้อนกับแสงและจะมีลายสวยงามแสดงขึ้นมา รวมถึงเฉดสี อย่างสีฟ้า Topaz Blue ที่ได้มารีวิวเครื่องนี้ เมื่อถือไปที่ไหนก็แตะตาคนทั่วไปอย่างแน่นอน เรียกว่าเป็นสีที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่นในปัจจุบัน ส่วนขนาดตัวเครื่องจับถนัดมือ ไม่ใหญ่เกินไป
ด้านข้างที่มีการวางปุ่มกดไว้ในสไตล์ของ Vivo ด้านซ้ายมือจะเป็นปุ่มเรียก google assistant ที่เป็นผู้ช่วยสุดฉลาด อยากสั่งอะไรก็สั่งด้วยเสียง แค่เรียก OK Google
ซึ่งตรงด้านข้างนี้เองที่มีช่องสำหรับใส่เมมโมรี่เพิ่มเติม โดยเพิ่มได้สูงสุด 256GB เลยทีเดียว ซึ่งในตัวเครื่องเองมีความจุมากถึง 128 GB สามารถเก็บข้อมูลทั้งเพลง หนัง ลงเกมเล่นได้แทบเรียกว่าไม่อั้น หรือจะถ่ายวีดีโอความละเอียดสูง และเก็บภาพได้อีกเป็นหลายพันภาพเลย
ทางด้านขวามือ คือปุ่มปิดเปิดเครื่องที่อยู่ตรงกลาง และปุ่มเร่งลดเสียงที่เป็นปุ่มติดกันแนวยาว ดีไซน์สีกลืนไปกับตัวเครื่อง
ด้านบนที่มีส่วนของกล้อง Pop Up ขนาด 32 ล้านพิกเซล ที่เรียกได้ว่าเป็นความละเอียดกล้องด้านหน้าที่มากที่สุดในโลกแล้ว ณ ขณะนี้ ซ่อนเอาไว้อย่างเนียน ซึ่งเดี๋ยวเราคงดูรายละเอียดเพิ่มเติมกันอีกที และมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. พร้อมไมค์ที่อยู่ข้างๆ เสียงและพูดคุยได้ชัดเจน
ด้านล่างมีช่องสำหรับใส่ซิม ซึ่งรองรับ 2 ซิม เป็น 4G ทั้งคู่ มีพอร์ทแบบ micro-USB และลำโพง ตามลำดับ
ลองใส่เคสที่แถมมาให้ดูหน่อย
แต่ละมุมต้องบอกว่าเคสที่แถมมาให้ก็ทำได้ดี อย่างด้านล่างก็มีตัวปิดพอร์ท micro USB มาหใ้ด้วย ส่วนด้านบนก็เว้นสำหรับกล้อง pop up มาให้เรียบร้อย
อ่านต่อด้านซอฟท์แวร์และกล้อง AI Triple Camera และ POP Up กล้องหน้าความละเอียดมากที่สุดในโลก คลิ๊กที่นี่ >>> Page2
ด้านซอฟท์แวร์ที่มาพร้อมกับ FunTouch OS 9
ด้วยความเป็น Vivo V15 Pro ที่มาพร้อมกับ FunTouch OS โดยครอบบน Android 9.0 ที่เป็นตัว OS หลัก ทำให้การใช้งานลื่นไม่ว่าจะทัชสกรีนไปเลื่อนไปซ้ายหรือขวาก็หายห่วง รวมถึงฟีเจอร์การใช้งานต่างๆ ก็จัดเต็มอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น notification bar ที่สามารถปรับรายละเอียดเครือข่าย ตำแหน่ง การแสดงสถานะแบตเตอรี่เป็นตัวเลข ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่จำเป็นไม่ต้องหาลงแอปเพิ่ม รวมถึงเมนูต่างๆ ที่เรียกใช้งานได้สะดวกด้วยการปัดขึ้นมาจากด้านล่าง สามารถปรับแต่งได้เพียบเลย
เรามาถึงยุค AI ที่จะเข้ามาช่วยให้ชีวิตสะดวกขึ้น ซึ่ง Vivo V15 Pro จัดเต็ม ด้วย Jovi ที่เป็นผู้ช่วยเหลือในทุกสถานการณ์ ไม่ใช่แค่เรื่องกล้องเท่านั้น ซึ่งตัวกล้องเอง เจ้า AI อย่าง Jovi จะช่วยให้เลือกใบหน้าสวย วิเคราะห์สีผิว ใบหน้า อายุ เพศ ให้เหมาะกับภาพที่ถ่าย มีเรื่องสภาวะต่างๆ เช่นภาพอาหาร ภาพวิว เจ้า Jovi ก็รู้จักมากถึง 17 ฉากด้วยกัน ยังมีสถานการณ์อัจฉริยะที่คอยแจ้งเตือนเวลาพักผ่อน เวลาตื่น ไม่พลาดนัดต่างๆ ซึ่งแน่นอนว่า Jovi จะเรียนรู้ไปกับการใช้งานของเรา และสามารถเรียก Google Assistant ด้วยปุ่มกดด้านข้างซ้ายมือ กดเรียกใช้งาได้ทันที
ส่วนฟีเจอร์เช่นการใช้นิ้วลากสามนิ้วจากด้านบนจะเป็นการแบ่งหน้าจอ หรือลากจากด้านล่างขึ้นไป จะเป็นการจับภาพหน้าจอ ก็ทำได้สะดวก ยังมีฟีเจอร์อื่นๆ อีกเพียบ
ใครที่ขับรถมอเตอร์ไซด์ Vivo V15 Pro ก็รองรับ ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยเพราะโหมดนี้จะช่วยให้ไม่พลาดการติดต่อ ด้วยการตั้งค่าส่ง SMS ตอบกลับและปฎิเสธสายเข้าอัตโนมัติ ไม่ต้องเสียสมาธิในการขับขี่
มีปุ่ม Easy Touch เพิ่มการใช้งานให้สะดวกขึ้นไปอีก โดยปุ่มจะลอยอยู่บนหน้าจอ พอกดมาปุ๊ป ก็เรียกใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ ในตัวเครื่อง Vivo V15 Pro ได้สะดวก รวมถึงเรียกใช้งานแอปที่ใช้ประจำได้ทันที่ เราเลือกตั้งค่าแอปได้ ไม่ต้องสไลด์หน้าจอไปหลายหน้า สะดวกและรวดเร็วด้วย FunTouch OS นี่ล่ะ
เรื่องความปลอดภัย
สำหรับความปลอดภัยในการใช้งาน Vivo V15 Pro มีทั้งการตั้งรหัสผ่านการเข้าใช้งานเครื่อง แต่ที่สำคัญคือมีสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ รวมถึงสแกนใบหน้าที่ช่วยยืนยันตัวตน คนอื่นไม่สามารถใช้งานเครื่องเราได้อย่างแน่นอน เรียกว่าเป็นการล็อคถึง 3 ชั้นเลยทีเดียว
โดยการสแกนลายนิวมือในการปลดล็อคเข้าใช้งานรวดเร็วมาก แต่ยังไม่เท่าสแกนใบหน้า ที่ระบุตัวตนของเราได้ชัดเจน เป็นความปลอดภัยอีกขั้นในการใช้งาน โดยการแตะปุ่มเปิดเครื่อง แล้วปัดหน้าจอขึ้นด้านบน กล้องจะ POP UP ขึ้นมาอย่างรวดเร็วเพียงเสี้ยววินาที นอกจากการล็อคหน้าจอแล้ว ยังสามารถล็อคการเข้าใช้งานแอปพลิเคชั่นได้อีกด้วย
การเล่นเกม
สำหรับการเล่นเกม ไม่น่าเชื่อว่า Vivo V15 Pro จะทำได้ คือเล่นเกมได้ดีกว่าที่คาดไว้ในเครื่องราคาระดับนี้และไม่ใช่ CPU ตัวแรงสุด เล่นได้ลื่นและตั้งค่าความละเอียดสูงได้เลย
นอกจาก CPU จะแรงในระดับที่เรียกว่าเล่น ROV หรือ PUBG คุณภาพระดับ HD สบายๆ เลยทีเดียว และยังมี Game Turbo Mode อีกด้วย โดยแนะนำให้เข้าไปตั้งค่าที่ Game Cube ที่ช่วยให้การเล่นเกมไม่สะดุด ทั้งเรื่องสายที่เรียกเข้ามาระหว่างการเล่นเกม น ทั้งเรื่องการแจ้งเตือน งดรับสายเรียกเข้า รวมถึงยังบู้สประสิทธิภาพเครื่องให้สุดอีกด้วย ทำให้เล่นเกมไม่สะดุดแน่นอน อันนี้คือไว้ใจได้เลย
ซึ่งคะแนนการทดสอบตัวเครื่องทั้งบน Antutu และ Geekbench 4 ก็การันตีได้อีกระดับนึง ถือว่าเป็นคะแนนที่สูงในรุ่น CPU Snapdragon ซีรีส์ 6xx ทั้งแรงทั้งประหยัดพลังงานไปในตัว เหมาะกับทุกสภาพการเล่นเกมและทำงาน
มาดูเรื่องกล้องกันบ้าง
Vivo V15 Pro มีกล้องหลังถึง 3 ตัวด้วยกัน เป็นรุ่นที่มีกล้อง 3 ตัวอีกรุ่นนึงของค่าย โดยมีกล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล เป็นเทรนด์ในปีนี้เลย Vivo เป็นรายแรกๆ ที่เปิดตัวในประเทศไทยและมีกล้องความละเอียด 48 ล้านพิกเซลเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ครับ ซึ่งกล้องอีกสองตัว มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และ 5 ล้านพิกเซล สำหรับเก็บภาพในแนวกว้าง และเบลอฉากหลัง
ตัวกล้องที่ผมชอบก็คือ ซอฟท์แวร์ฉลาด สมความเป็น AI Triple Camera ช่วยให้การถ่ายภาพบุคคลง่ายขึ้น มีการตรวจสอบใบหน้าให้อยู่กึ่งกลางภาพ มีลูกศรให้ขยับไปยังใบหน้าของแบบ และช่วยถ่ายภาพให้โดยไม่ต้องกดชัทเตอร์ และยังมีโหมดให้เลือกอย่างครบถ้วนครบถ้วนมากกว่า ทั้งฟีเจอร์ปกติ ที่เป็น Live Photo หรือจะเป็น AI ใบหน้าสวย สามารถปรับแสงเงาแบบต่างๆ มีให้เลือก และยังสามารถปรับ มีการถ่ายภาพบุคคลที่ปรับค่า F ให้เบลอฉากหลังได้ในภายหลังอีกด้วย และยังมีโหมดถ่ายภาพกว้างเก็บภาพได้กว้างโดยไม่ต้องย้ายตำแหน่งยืน พร้อม AR Sticker ที่เหมาะและโดนใจวัยรุ่นแน่นอน
ส่วนกล้องด้านหน้า 32 ล้านพิกเซลนี่คือสุดแล้ว ณ ขณะนี้ เป็นกล้องหน้าเซลฟี่ที่มีความละเอียดมากที่สุดในโลก ณ ขณะนี้ เก็บภาพเซลฟี่ได้ประทับใจอย่างแน่นอน โดยกล้องด้านหน้า POP Up นั้นสามารถเลื่อนขึ้นลงได้อย่างรวดเร็วเพียง 0.46 วินาที และยังเลื่อนได้ไม่ต้องกลัวว่าจะเสียเพราะการันตีว่าเลื่อนขึ้นลงได้มากถึง 300,000 ครั้ง ถ้าหากนับจริงๆ วันละร้อยครั้ง ก็จะใช้ได้ถึง 3,000 วัน หรือประมาณ 10 ปีเลยทีเดียว
ที่น่าสนุกที่สุดของเด็กๆ และวัยรุ่นก็คือ AR Sticker นี่ล่ะ มีให้เลือก ให้โหลดเพียบ ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง น่ารักคิขุ โนเนะ มีหมด เรียกว่า Vivo V15 Pro ไม่ได้เอาใจแค่ผู้หญิงเท่านั้น ยังเอาใจผู้ชายวัยสะรุ่นอีกด้วยครับ
ส่วนของ AI อีกอย่างนึงก็คือ สามารถถ่ายภาพออกมาได้อย่างเนียนเลยครับ เนียนเพราะว่า ปรับรายละเอียด นอกจากหน้าใส หน้าขาว เจ้า AI ยังสามารถปรับสัดส่วนของเราให้ดูดีขึ้นได้ด้วย ช่วยให้ขายาวขึ้น ตัวผอมลง งานนี้ไม่ต้องทำอะไรเพิ่มแค่มี Vivo V15 Pro ก็ดูดีได้ทันที และหากไม่พอใจก็สามารถปรับภาพในภายหลัง ในโหมดรีทัชได้ด้วย ซึ่งง่ายมาก ทำให้ตาโต เอารอยช้ำใต้ตาออก หน้าเรียว จมูกโด่ง หน้าใส เพิ่มความสูงได้ อีกอันนี้สุดๆ แแล้ว
ส่วนกล้องวีดีโอสามารถถ่ายวีดีโอเนียนได้ความละเอียดสูงถึง 4K และยังถ่ายแบบ wide ได้อีกด้วย เรียกว่าเก็บทั้งภาพและวีดีโอได้กว้างสุดโดยไม่ต้องขยับไปไหน ซึ่งใช้สำหรับเก็บภาพวิว หรือภาพกลุ่มที่มีพื้นที่จำกัดได้อย่างดีเลย
ภาพถ่ายตัวอย่าง
คลิ๊กดูภาพเพื่อดูภาพตามแนวตั้งและขนาดขนาดใหญ่ได้เลยนะ
กล้องด้านหน้าที่ต้องบอกว่า เนียนสุดๆ ไม่ว่าเด็ก วัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ ได้ครบ ถ้ายังไม่พอใจก็มาปรับทีหลังได้อีก รีทัชง่ายเพียงแค่แตะไม่กี่ครั้ง ใช้งานง่ายด้วย pop up ขึ้นมาความละเอียดสูงอีกต่างหาก
รูปแบบแสงในลักษณะต่างๆ ที่สามารถเลือกได้ในเอฟเฟ็คภาพถ่ายบุคคล ก็จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันไปตามแสงที่จัดให้ ไม่ต้องมีไฟสตูจริงๆ หรือแม้กระทั่งฉากหลังขาวดำก็ทำได้ ภาพที่ได้จะได้ความรู้สึกที่แตกต่าง นี่คือพลังของกล้อง AI Triple Camera ของ Vivo V15 Pro นั่นเอง
ภาพถ่ายตัวอย่าง AI Beauty ที่มีโหมดทั้งหน้าสวย ที่เราใช้กันประจำ แต่สำหรับเรื่องการปรับความสูง และขนาดร่างกายให้ดูผอมลงได้ พี่โดนัลคอนเฟิร์ม
ภาพถ่ายเลนวาย ถ่ายได้ในมุมกว้าง และมุมธรรมดาเทียบกันดู รู้เลยว่าเก็บภาพได้กว้างมาก ดังนั้นเวลาจะเก็บภาพหมู่คณะ ที่มีพื้นที่จำกัด ก็จัดได้ทันที และการถ่ายภาพบุคคลก็จัดเต็มอีกด้วย เนียนๆ เลย
ภาพของกินก็มา
ภาพถ่ายทั่วไป ดอกไม้ วิวทั่วไป เหมาะในทุกสภาพแสงด้วย AI Triple Camera
ภาพตัวอย่างในโหมดกลางคืน
สรุปการใช้งาน Vivo V15 Pro
สำหรับ Vivo V15 Pro นับว่าเป็นรุ่นที่ลงตัวมากในทุกการใช้งาน ตัวเครื่องที่มีดีไซน์ทันสมัย สีฟ้าสวยงามสะท้อนกับแสงแล้วได้เฉดสีที่เห็นแล้วแตะตาอย่างแน่นอน อีกทั้งหน้าจอที่แสดงผลได้เต็มตา ด้วยเทคโนโลยี Ultra Fullview Display และยังมีเรื่องการใช้งานกล้องด้านหน้าที่ pop up การันตีว่าได้มากถึง 300,000 ครั้ง และยังมีความรวดเร็วในการเลื่อนขึ้นลงเพียง 0.46 วินาทีเท่านั้น ยังมาพร้อมกับ CPU ที่ทรงพลังสุดในซีรีส์ Snapdragon 675 แล้วครับ เล่นเกมได้ ดูหนัง ฟังเพลง ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน และที่สำคัญยังประหยัดแบตอีกต่างหาก ใช้งานกันได้ยาวๆ เป็นวันสบาย และยังมี AI อย่าง Jovi ที่ฉลาดสุด และ Funtouch OS 9 ที่ลงตัวและทำให้การใช้งานในชีวิตประจำวันง่ายและสะดวกขึ้น การถ่ายภาพที่มาพร้อมกับกล้องสุดยอด ทั้งกล้องด้านหน้าเซลฟี่ AI และกล้องด้านหลัง AI Triple Camera ที่มีความละเอียดมากสุดๆ ถึง 48 ล้านพิกเซล แต่ถ้าจะให้มากที่สุดในโลกก็ต้องความละเอียด 32 ล้านพิกเซล ที่กล้องหน้าของ Vivo V15 Pro รุุ่นนี้ล่ะครับ อาจจะมีเรื่องของ AI ที่เชื่อว่าจะพัฒนาขึ้นในรุ่นถัดไป อาทิเช่น ยังปรับขาเรียว ปรับความสูงได้ระดับบุคคลเท่านั้น ยังไม่สามารถปรับเป็นกลุ่มได้ อื่นๆ นี่เรียกว่าผ่านเลยครับ ความครบเครื่องแบบนี้มาพร้อมด้วยราคา 14,999 บาท เท่านั้น ทั้งครบเครื่อง ทั้งคุ้มค่า คงไม่พ้น Vivo V15 Pro แล้วล่ะ
You must be logged in to post a comment.