ก็นิดนึงครับ กับ Wearable ใหม่ล่าสุด จริงๆ มีหลายค่ายนะ อย่างของ Huawei Honor Band 4 ก็เพิ่งออกมาไม่นานในไทยนี่ล่ะ ครบเครื่องเหมือนกัน พันต้นๆ ก็โอเคนะ แต่สำหรับด้า Wearable ต้องบอกว่า Xiaomi ทำตลาดมาตั้งแต่แรกๆ และประสบความสำเร็จไม่น้อย หลังจากที่ใช้งาน Xiaomi Mi Band 4 มาแล้วหลายวัน (ยังไม่ถึงสัปดาห์) ก็ได้พรีวิว รีวิวไปแล้วล่ะ ไว้เอามาทดสอบเรื่องออกกำลังกายกันอีกที ส่วนการใช้งานทั่วๆ ไป ก็ตอบโจทย์ได้เหมือนพวก smartband ราคาไม่กี่ร้อย แต่ถ้าจะเทียบกันก็เทียบชั้นกับ Band 4 ของ Huawei Honor ได้อยู่ แถมราคาก็ใกล้เคียงกันด้วย ในออนไลน์ก็อาจจะถูกกว่านะ แล้วแต่ที่ ลองอ่านรีวิวกันก่อน http://bit.ly/31LAJ1H ได้นะ เรียกว่าแก้ข้อเสียไปจนหมดแล้วก็ว่าได้ แต่เอาจริงๆ ผมว่า Xiaomi ควรก้าวไปมากกว่านี้ ผมรอฟังก์ชั่นของพวกการวัดความดัน วัดออกซิเจนในเลือดบน Xiaomi มานาน แต่ยังไม่ทำออกมาสักที คาดว่าปีนี้น่าจะมาได้แล้ว แต่ก็ไม่มา ยังไม่เป็นผู้นำสักที ผมบอกได้เลยว่า Mi Band 4 นี่ อาจจะเรียกได้ว่าเป็น Mi Band 3S ก็ไม่ผิดนักนะ เพราะฟังก์ชั่นต่างๆ นั้นไม่ได้ต่างจาก Mi Band 3 สักเท่าไหร่ เพียงแต่แก้จุดอ่อนของ Mi Band 3 ไปจนหมดแค่นั้นเอง ยกตัวอย่างเช่น ที่ชาร์จปรับปรุงแล้ว ตัวก่อนชาร์จไม่เข้ากันเยอะเลย เนื่องจากไม่แน่น แสงบนหน้าจอที่สู้แดดได้แล้ว (ต้องปรับแสง 4 ชีด) หรือจะเป็นเรื่องการแสดงผลที่แสดงข้อความได้หลายบรรทัดมากขึ้น ในขณะที่ขนาดหน้าจอขยายไม่มากนัก อีกอันก็คือ แสดงผลเป็นสี ยังไม่รับภาษาไทยนะ แต่คาดว่าอนาคตคงไม่พลาด อ้อที่ลืมไม่ได้ คือสามารถออกกำลังกายได้ทันทีโดยไม่ต้องกดเริ่มจากแอป Mi Fit อีกต่อไป ซึ่งจริงๆ ควรจะทำได้นานแล้วนะ ผมว่ามันดีเลยล่ะ คือครบจบในตัวเดียว แต่ในความเข้าใจที่ตั้งชื่อว่า Mi Band 4 ก็คงเป็นฟีเจอร์ที่น่าใช้งานมาก แต่มีเฉพาะเวอร์ชั่น NFC ก็คือ AI ที่สามารถใช้งานในประเทศจีนได้อย่างสะดวก รวมถึงใช้งานร่วมกัน Smarthome สั่งเปิดปิดได้ อันนี้แหล่ะที่อยากได้ ก็นะ เอามาใช้งานในไทยก็ไม่คุ้ม และต้องเรียนรู้ภาษาจีนเพื่อใส่คำสั่งเพิ่มอีกด้วย Xiao AI พัฒนามาถึงแม้ว่าจะพอรู้ภาษาอังกฤษบ้าง แต่ก็น้อยมากจริงๆ งานนี้คนไทยรอกันไป และดูท่าทาง Xiao AI ก็คงไม่ Global ง่ายๆ ล่ะนะ สรุปคือ Mi Band 4 น่าซื้อมาใช้งาน เปลี่ยนจาก 3 เป็น 4 ก็โอเคนะครับ สะดวกกว่าเดิมมาก โดยเฉพาะสายออกกำลังกาย อาจจะเทียบได้กับ Amazfit BIP ก็ได้นะ แค่ลดขนาดหน้าจอลงมาแค่นั้น มี watch face ให้เปลี่ยนเพียบ คือสรุปโอเคเลยละ่ ข้อเสียเดียวตอนนี้ที่พบ คือแบตเตอรี่ที่บอกว่า 20 วัน ผมว่าถ้าเปิดแสงสว่างสุดและเปิด notification ทุกอย่างเต็มที่ รับรองว่าไม่เกิน 10 วัน เพราะทดสอบแล้วว่า แบตลดลงไปประมาณ 7-10% ต่อวัน ราคาตอนนี้ในออนไลน์ก็แล้วแต่ร้านเลยมีตั้งแต่หลักร้อยจนหลักพันกลางๆ ส่วนประกันร้าน Mi Store ตอนนี้ที่เห็นก็คือราคา 1290 บาท ที่ Mi Store by MoreFun central พระรามเก้าที่ ที่มีประกันให้่ 1 ปี เต็มๆ อันนี้ก็แล้วแต่หาก็แล้วกัน ตอนนี้คือส่วนที่ผมสนใจก็คือ การบอกแบตเตอรี่ในร่างกาย SPO2 ซึ่งตอนนี้เห็นบน Garmin นี่เริ่มใส่มาให้แล้ว เป็นอีกจุดนึงสำหรับคนที่อยากรู้เรื่องสุขภาพตัวเองมากยิ่งขึ้น รวมถึงคนที่ออกกำลังกายด้วย
ถูกใจบทความนี้ 46
น่าใช้นะผมว่า