จริงๆ ต้องบอกว่าเป็นประเด็นต่อเนื่องที่ยังไม่จบง่ายๆ ที่ฟังจากอาจาร์ยท่านนึงได้ให้ความเห็นไว้คือมันเป็นเรื่องระหว่างประเทศ ไม่ใช่แค่ด้าน smartphone อย่างเดียวเท่านั้น เป็นเรื่องเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง กระทบกันไปเป็นทอดๆ อย่างตามข่าวที่ผ่านมานั่นล่ะครับ แน่นอน เลยว่าจะมีการตอบโต้กันไปมา จนกว่าจะหาทางลงตัวได้ ไม่ทางใดก็ทางนึง ซึ่งจริงๆ เรียกได้ว่าเป็นประเทศจีนกับอเมริกา ที่ตอนนี้จีนกำลังจะเดินก้าวขึ้นนำหน้า เพื่อกุมอนาคตของโลกนี้เลยก็ว่าได้ เพราะอย่างช่วงที่ผ่านมาก็เห็นชัดเจนว่าใครครองการสื่อสารได้ ไม่ว่าจะเป็น 1G 2G 3G 4G จะกี่ G ที่ผ่านมา บริษัทที่ผ่านยุคนี้มาด้วยกันก็จะมีทางฝั่งยุโรปและอเมริกา จะมีญี่ปุ่นและเกาหลี ที่อยู่ในโซนเอเชีย ที่เห็นได้ชัดหน่อย ซึ่งช่วงที่ผ่านมาอุปกรณ์การสื่อสารจากจีน เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในยุคแรกๆ ก็ต้องบอกเลยว่าจีนก๊อปเทคโนโลยีของเค้ามาแล้วก็เอาไปปรับปรุงต่อ หรือไม่ก็ก๊อปมาขายดื้อๆ เลย สมัยก่อนยังมีเรื่องลิขสิทธิ์มาโดยตลอด แต่ก็ทำอะไรพี่จีนไม่ได้สักที จนจีนบ่มเพาะเรื่องเทคโนโลยีมาในระดับนึง เรียกว่าได้ที่และ จนมาถึงยุค 5G ที่ตอนนี้บอกได้เลยว่าเป็นผู้นำของโลกเลยก็ว่าได้ โดย Huawei นี่ล่ะ ที่มีรัฐบาลจีนหนุนเต็มกำลัง ดังนั้นไม่แปลกใจเลยว่าจะเป็นรายที่โดนเพ่งเล็งและโดนโจมตีมากที่สุด จนล่าสุด ในยุค 5G ของ Smartphone นั้น แต่ละค่ายก็ล้วนแต่เอาเครื่องที่รองรับยุค 5G ออกมาทั้งนั้น ที่จะไม่เห็นก็คือ iPhoneสัญชาติอเมกิกานั่นล่ะ ที่มีข่าวแว่วๆ ว่ายังไม่พร้อมจนกว่าเครือข่ายจะพร้อมกว่านี้ เพราะนี่คือช่วงเริ่มต้น จะเห็นว่าช่วยหลัง iPhone หรือ Apple ไม่ได้เน้นเรื่องของเทคโนโลยีใหม่ แต่เป็นการนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพทางธุรกิจสูงสุด และคุ้มที่สุด
เช่นเดียวกับเรื่อง 5G เพราะออกมาก็รู้ว่ามีกลุ่มผู้ใช้งานน้อย นับจำนวนได้ แต่ก็ไม่แน่เพราะสถานกาณณ์อาจจะเปลี่ยนไป อย่าง Smartphone ที่รองรับ 5G ส่วนใหญ่ที่ออกมาก็ล้วนแล้วแต่เป็นแบรนด์จากจีนทั้งนั้น มีเกาหลีอย่าง Samsung ก็เช่นกัน วันนี้ศูนย์กลางเทคโนโลยีอาจจะกำลังจะเปลี่ยนไป ผู้กำหนดทิศทางอาจจะไม่ใช่ฝั่งอเมริกา อาจจะเป็นจีนแทนก็ได้ แต่อย่างว่าครับ เรื่องมาตรฐานหรืออีกหลายเรื่องมันไม่ง่าย ภาษาจีนที่ไม่ได้ยอมรับเป็นภาษากลางที่ใช้งานกันทั่วโลกดังเช่นภาษาอังกฤษ แต่ในหลายๆ เรื่องอเมริกาก็เอารัดเอาเปรียบประเทศอื่นๆไม่น้อยเช่นกัน ตัวอย่างข้าวหอมมะลิไทย ที่โดนจนลิขสิทธิ์ไปทั้งๆ ที่ต้นฉบับอยู่ที่บ้านเรา อย่างที่บอกครับว่า ไม่มีใครดีไปกว่าใคร แต่เราต้องปรับตัวให้อยู่กับโลกที่หมุนไปอย่างรวดเร็ว ณ ปัจจุบันให้ได้นั่นล่ะครับ ส่วนผู้ใช้งานอย่างเราๆ ก็ตามข่าวกันต่อไป คนใช้งานอาจจะมีความกังวล แต่เชื่อเถอะครับว่า อย่าง Huawei ที่อยู่ในมือ กว่าจะผลัดใบ หรือมีการประกาศเปลี่ยนแปลง เครื่องที่อยู่ในมือเราจะยังตอบโจทย์การใช้งานไปได้อีกนาน ข่าวที่มือสอง Huawei P30 Pro เหลือเครื่องละ 4000 บาท จากต่างประเทศ หากจะมีใครขายราคานี้ ก็ตามสบายเลยนะ มีคนรอช้อนเยอะเลย ซึ่งก็แปลกใจว่า มีคนรับซื้อจริงซะด้วย แต่ใครจะขายล่ะ ซึ่งคงปฎิเสธไม่ได้ว่า ราคาเครื่องขายต่อจะถูกกดลงมาด้วยกระแสข่าวต่างๆ นั่นล่ะครับ ดังนั้นถือใช้งานกันไปก่อนดีกว่า รอข่าวดี เปรียบเหมือนหุ้นขึ้น ค่อยว่ากัน ยังใช้ได้ใช้ไป ถ้าพังแล้วจะเปลี่ยนค่ายก็ค่อยว่ากันใหม่นะ
You must be logged in to post a comment.