สรุปว่า ศึกภายในของสหรัฐเองที่มีความเห็นไม่ตรงกันก็ยังมีอยู่ เพราะความเดือดร้อนของการทำธุรกิจร่วมกันระหว่างบริษัทอเมริกันและจีนอย่าง Huawei ย่อมมีข้อดีมากกว่าข้อเสีย จากการแบนของ ทรัมป์ในช่วงที่ผ่านมาจน Google เองก็เรียกร้องให้หาทางออกที่ดีกว่านี้ ล่าสุดทำเนียบขาวอาจจะยืดเวลาออกไปอีกอย่างน้อย 2 ปี เพื่อหาข้อสรุปกฎหมายในส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้
ไม่ใช่เป็นเรื่องง่าย หรือทำได้ทันที เพราะธุรกิจต้องเดินต่อไป อยู่ดีๆ จะให้หยุดทันที มันก็กระทันหันจนเกินไป และทำให้มีผลกระทบต่อวงกว้าง ไม่ว่าจะทางใดก็ตาม ทั้ง Huawei จากจีน และบริษัทต่างๆ จากอเมริกา ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ทาง Huawei ก็ออกมาปฎิเสธข้อกล่าวหาเรื่องความปลอดภัยในด้านอุปกรณณ์ 5G โดยตลอด แต่สหรัฐโดยผู้นำ โดนัล ทรัมป์ ก็ยังยืนยันจนเกิดเหตุแบนดังช่วงที่ผ่านมา
ส่วนทำเนียบขาวก็ได้ข้อสรุปว่าต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนถึงผลกระทบ และพิจาณากฎหมายที่ใช้ร่วมกันทั้งหมดอย่างชัดเจนเสียก่อนซึ่งจะใช้เวลาอีกประมาณ 2 ปีเป็นอย่างน้อย นั่นหมายถึงช่วงที่อยู่ในการพิจารณาครั้งนี้ บริษัทต่างๆ อาจจะยังคงทำธุรกิจเช่นซื้อขายชิ้นส่วนอุปกรณ์ได้ แต่ก็ต้องผ่านการยินยอม หรือได้ลายเซ็นต์จากนายโดนัล ทรัมป์ เพราะ Huawei จะยังคงติดอยู่ในแบล็คลิสต์ ตามที่เคยประกาสมาก่อนหน้านี้เช่นเดิม ล่าสุด โดนัล ทรัมป์ ก็เซ็นต์ยินยอมออเดอร์พิเศษไปเมื่อปลายเดือนก่อน
เรียกว่าอาจจะเป็นเรื่องดี เพราะผลกระทบคงมีในภาพกว้างจริงๆ จึงทำให้ทำเนียบขาว หยิบยกมาพิจารณาเพิ่มเติม และยืดเวลาออกไป ทำให้มีโอกาสทำธุรกิจกันต่อ แม้ว่าอาจจะดูยุ่งยากกว่าแต่ก่อน แต่ก็ยังไม่ระงับซะทันที คราวนี้น่าจะลดแรงกระเพื่อมได้ในระดับนึง แต่ก็ต้องดูว่าทาง Huawei จะตอบโต้อย่างไรต่อไป
อ้างอิง reuters
You must be logged in to post a comment.