สำหรับ Smartband ในปัจจุบัน มีให้เลือกเพียบ ทั้งติดแบรนด์ที่เรารู้จักกันดี และแบรนด์จีนต่างๆ ราคาถูกแสนถูก สำหรับ Huawei ชื่อนี้คงรู้จักกันดี และการันตีได้ว่าจะได้ของที่มีคุณภาพดีกว่า Smartband ราคาหลักไม่กี่ร้อยที่ขายทั่วๆ ไป ซึ่ง Huawei เพิ่มเปิดตัว Huawei Band 4 ในประเทศไทยล่าสุดไปเมื่อไม่นานนี้เอง และแน่นอนว่าจัดเต็มด้วยฟีเจอร์ต่างๆ พร้อมราคาที่ไม่ถึงพันบาท (แอบทอนให้บาทนึง) มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจเช่น True Sleep ที่สามารถแทรคการนอนระหว่างวันได้ รวมถึงรองรับการออกกำลังกายเบื้องต้นครบเลย และไม่ยุ่งยากด้วยการชาร์จผ่านพอร์ท USB มีหลายอย่างที่น่าสนใจ ว่าแล้วมาดูภาคต้นกันก่อนก็แล้วกันนะ
Huawei Band 4 Spec
ตัวเครื่อง (ยาว x กว้าง x สูง):56 มม. (ความยาวไม่รวมสายรัดข้อมือ) x 18.5 มม. (กว้าง) x 12.5 มม. (ความหนาของสายรัดข้อมือ)
สายรัดข้อมือกว้าง:17 มม.
สายรัดข้อมือยาว:123 มม. + 85 มม.
ประมาณ 24 กรัม (รวมสายรัดข้อมือ)
วัสดุ – กรอบด้านหน้า:พลาสติก สายรัด:ยางซิลิโคน
แบตเตอรี่ : ความจุ:91 mAh
ระบบตรวจจับ : ระบบเซ็นเซอร์ตรวจวัดการเร่งความเร็ว 3-axis acceleration Sensor
ระบบเซ็นเซอร์ Infrared Wear Sensor
ระบบเซ็นเซอร์ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบออฟติคอล
หน้าจอ : หน้าจอแสดงผลแบบสี TFT ความละเอียด:80 x 160 พิกเซล ขนาด:0.96 นิ้ว
บลูทูธ : ระดับความถี่ของระบบบลูทูธ:2.4 GHz ระบบบลูทูธ 4.2
CPU : Apollo 3
Memory: ROM:384 KB ROM:1 MB Flash:32 MB
ปุ่มกด : หน้าจอทัชสกรีนแบบ Full Screen + ปุ่มโฮม
อื่นๆ กันน้ำลึก 5ATM
ในกล่องก็จะมีอุปกรณ์มาให้เพียงเท่านี้ล่ะ ตัว Huawei Band 4 และคู่มือ แนะนำการใช้งานเบื้องต้น
สำหรับการออกแบบ Smartband ของ Huawei Band 4 นั้น ไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากที่มีอยู่ในตลาด ดีไซน์ของ Smartband จะคล้ายๆ กัน แต่สิ่งที่แตกต่างจุดเด่นก็คือ Huawei Band 4 มีหน้าจอที่ใช้ TFT แสดงผลสีต่างๆ ได้ครบ และยังแสดงผลได้เต็มตาด้วยขนาด 0.96 นิ้ว การแสดงผลตัวอักษรได้ 5 บรรทัด และที่สำคัญคือรองรับการแจ้งเตือนและระบบทั้งหมดเป็นภาษาไทย ตั้งแต่เริ่มแกะกล่องมาใช้งานเลย
หน้าจอเป็นทัชสกรีน ใช้แตะใส่คำสั่งบนหน้าจอได้เลย รวมถึงมีปุ่มกด home สำหรับคอนโทรลอีกด้วย
แน่นอนว่าสามารถวัดอัตตราการเต้นของหัวใจได้วัดได้ต่อเนื่องทั้งวันด้วยนะ อย่าลืมไปเปิดในการตั้งค่า ซึ่งข้อดีของ Huawei Band 4 ก็คือ เวลาใส่นอน จะไม่มีแสงไฟสีเขียวแยงตา คือไม่รบกวนเวลาเรานอนว่างั้น บางคนอาจจะไวต่อแสง มีแสงลอดออกมานิดหน่อยก็เป็นการรบกวนได้ ซึ่งอันนี้ก็ถือว่าดี และมี Huawei TruSeen 3.5 ที่มีอัลกอริธึ่มในการตรวจเช็คเรื่องหัวใจ และมีการเตือนในกรณีที่หัวใจเต้นสูงหรือต่ำจนเกินไป เรียกว่าเป็นการวัดที่แม่นยำไม่แพ้ตัวอื่นๆ เลยทีเดียว
ตัวกรอบด้านหน้าเป็นพลาสติก และตัวยางเป็นซิลิโคน ซึ่ง Huawei Band 4 รองรับการกันน้ำได้ 5ATM หรือกันน้ำลึกได้ถึง 50 เมตร เลยทีเดียว นับว่าแจ่มอยู่นะ ฟีเจอร์นี้ แน่นอนว่าใส่ว่ายน้ำได้ รองรับแอคทิวิตี้การออกกำลังกายเพียบ
สายออกแบบมาให้ยืดหยุ่นกับข้อมือทุกขนาด ปรับใส่ได้ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ตัวล็อคสายก็แน่นดี ใส่สบาย
ตัวสายสามารถถอดเปลี่ยนได้ง่าย มีปุ่มกดอยู่ตรงขั้วทั้งสองด้าน รวมถึงสามารถถอดออกมาเพื่อชาร์จผ่าน USB ได้
ตัวอย่างบนหน้าจอของ Huawei Band 4
เมนูหลัก ใช้นิ้วสไลด์หน้าจอไปทางด้านล่างหรือด้านบนเพื่อเปลี่ยนเมนู
เมนูการออกกำลังกาย
การตั้งค่าเพิ่มเติม
มาดูซอฟท์แวร์กันบ้าง
Huawei Band 4 สามารถใช้งานร่วมกับ Android และ iOS ได้เลย ดาวโหลด Huawei Health และกดเพิ่มอุปกรณ์และเชื่อมต่อตามปกติ อันนี้ขอข้ามไปเลยเพราะคิดว่าเป็นเบสิคในการใช้งานอุปกรณ์ในยุคนี้ล่ะนะ ใครเชื่อมต่อไม่ได้ค่อยมาคุยกันอีกที
Huawei Health หรือ สุขภาพ จะเป็นแอพที่บอกรายละเอียดต่างๆ ของการใช้งานอุปกรณ์ของ Huwei ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น Smartband รุ่นต่างๆ หรือจะเป็น Watch GT
แน่นอนว่ามีรายละเอียดเพียบ แต่คราวนี้เราจะมาดูเฉพาะส่วนของรายงานบน Huawei Band 4 ซึ่งสามารถตั้งค่าต่างๆ ได้มากมายรวมถึงการเปิดการวัดอัตราการเต้นของหัวใจต่อเนื่องและการเปิดแทรค TrueSleep เนื่องจากกินแบตมากขึ้นดังนั้นเบื้องต้นจึงปิดไว้
สามารถเปลี่ยน watch face หรือ theme บนหน้าจอได้นะ มีให้เลือกเยอะมาก แต่แค่ customize เองไม่ได้ ถ้าได้จะดีมากเลย
การนอนที่มีการแนะนำรายละเอียดให้เราปรับปรุงให้การนอนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
การก้าวเดินที่มีรายละเอียดแยกในแต่ละช่วงเวลา ว่าเดินช่วยไหนมากน้อย แบ่งเป็น % ในแต่ละวันด้วย
การวิ่งที่บอกรายละเอียดการวิ่งแบบพื้นฐานได้ครบถ้วน แต่ที่ทดสอบวิ่งแล้ว ระยะวิ่งจะมากกว่าระยะจริงพอสมควรเลยทีเดียว ที่วัดจากรุ่นอื่นจากการวิ่งครั้งนี้คือประมาณ 6 กิโลกว่าๆ
กีฬาอื่นๆ ทั่วไป เช่น ซิทอัพ อะไรแบบนี้ก็ใช้โหมดการแทรคแบบอื่นๆ จะมีรายงานประมาณนี้
การแทรคอัตราการเต้นของหัวใจ ถ้าเปิดแบบต่อเนื่องก็จะเห็นกราฟประมาณนี้ ให้รู้ว่าช่วงระหว่างวันเต้นเท่าไหร่ มีผิดจังหวะ เต้นสูงหรือไม่ ถ้าสูงหรือต่ำไปก็จะมีเตือน และมีรีพอร์ทแบ่งเป็นช่วงต่างๆ บอกไว้ด้วย
ลองแทรคหัวใจระหว่างวิ่ง ก็พบว่าตรงกับรุ่นอื่นๆ ซึ่งผมให้ Apple Watch แม่นสุดนะ Huawei Band 4 ก็ถือว่าโอเคเลยล่ะ
สรุปเบื้องต้น Huawei Band 4
มีฟังก์ชั่นการทำงานครบถ้วน ในขณะที่ราคาไม่ถึงพันบาท ที่ผมชอบเลยก็คือการแทรคนอนกลางวัน หรืองีบหลับชั่วคราว จะได้รู้ว่าร่างกายเราได้พักผ่อนไปจริงๆ กี่ชั่วโมง เพิ่มความถูกต้องได้ เพราะส่วนใหญ่ Smarband ในตลาดแถมจะบอกว่า 90% ขึ้นไปไม่มีการแทรคลักษณะนี้ไม่ว่าจะเป็นค่ายน้อยใหญ่ก็ตาม ผมถือว่าให้ความสำคัญกับเรื่องของสุขภาพจริงๆ อีกส่วนนึงก็คือ การกันน้ำที่ 5ATM ด้วยราคาแบบนี้คือจัดเต็มให้ และรองรับการว่ายน้ำซึ่งถ้าได้ลองแล้วจะมาบอกอีกทีนึง แต่ก็ต้องดูว่าจะกันน้ำกันได้อึดแค่ไหน ต้องอาศัยเวลาทดสอบ ส่วนการแทรคด้านหัวใจผมถือว่าแม่นใช้ได้เลย เพราะเทียบกับตัวอื่นๆ ที่ใส่ด้วยกัน ขณะออกกำลังกายก็ค่อนข้างตรงและใกล้เคียงกัน มีแค่เรื่องการนับก้าวขณะเปิดโหมดออกกำลังกาย Huawei Band 4 ไม่ได้จับ GPS กับ Smartphone ดังนั้นความถูกต้องจะมีน้อยกว่า ระยะที่ได้จริงจะได้มากกว่าระยะที่เราออกวิ่ง ซึ่งก็อาจจะทำให้ผิดเพี้ยนได้เช่นกัน ส่วนอื่นๆ ทั้งฟีเจอร์ต่างๆ การชาร์จที่ใช้แค่พอร์ท USB การถอดก็ง่าย ชาร์จได้ทุกที่ แบตเตอรี่ที่ใช้เท่าที่ดูน่าจะได้ 7 วัน โดยเปิดการแทรคหัวใจและการแจ้งเตือนเต็มที่ เรื่องดีไซน์และการออกแบบผมว่าก็คล้ายกับ Smartband ทั่วไป แต่ Huawei มีสีอย่าง Amber Sunrise สวยๆ ให้เลือก แน่นอนว่าเปลี่ยนสายได้ไม่ยากอีกด้วย รีพอร์ทต่างๆ ผมว่าละเอียดและชัดเจน และรองรับภาษาไทย 100% ทั้งบนตัว Huwei band 4 เองและบนแอพ สรุปคือคุ้มอีกรุ่นล่ะ แถมยังเป็นค่ายที่เรารู้จักกันดี มีการรับประกันชัดเจน
70 thoughts on “รีวิว Huawei Band 4 สายรัดสุดฉลาดที่คุ้มสุดๆ ภาคต้น”
Comments are closed.