หูฟังทรูไวร์เลส Beoplay E8 เจนเนอเรชั่นที่ 3 : ยิ่งกะทัดรัด ยิ่งทรงพลัง


Bang & Olufsen ประกาศเปิดตัวหูฟังไร้สาย Beoplay E8 รุ่นใหม่ ที่กะทัดรัดและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น Beoplay E8 เจนเนอเรชั่นที่ 3 ได้รับการออกแบบใหม่หมดจด เป็นการพัฒนาครั้งสำคัญเพื่อต่อยอดผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับในฐานะการออกแบบที่สวยงามที่สุดและให้เสียงที่ดีที่สุดในตลาด

Beoplay E8 3.0 ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้ยิ่งสวมใส่สบาย เพิ่มความชัดเจนในการคุยโทรศัพท์ และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานยิ่งขึ้น วิศวกรของ Bang & Olufsen ใช้การสร้างแบบจำลอง 3 มิติ พร้อมไปกับการทดลองสวมใส่กับผู้บริโภค เพื่อให้แน่ใจว่า Beoplay E8 3.0 เหมาะกับรูปร่างและขนาดของหูที่หลากหลายยิ่งขึ้น ขนาดของหูฟังเล็กลงถึง 17 เปอร์เซ็นต์ และมีน้ำหนักเพียง 5.8 กรัมต่อชิ้นและด้วยขนาดที่เล็กลง รวมถึงการออกแบบที่เหมาะสมนี้ ทำให้ Beoplay E8 3.0 สามารถสวมใส่สบาย และเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น ยิ่งขึ้นทั้งกับหูที่มีขนาดเล็กและขนาดปกติ

 

Bang & Olufsen เพิ่มประสิทธิภาพอายุการใช้งานแบตเตอรี่ใน Beoplay E8 3.0  ด้วย 119 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ด้วยชั่วโมงการใช้งานได้นานถึง 35 ชั่วโมง หูฟังมีเวลาเล่นต่อเนื่องนานถึง 7 ชั่วโมงและชาร์จได้อีก 4 รอบกับตลับชาร์จไร้สายหนังคุณภาพสูง ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้บางคนสามารถใช้งานได้นานหลายสัปดาห์ก่อนที่จะชาร์จเคส ซึ่งก็สารมารถชาร์จเต็มได้รวดเร็วภายใย 2 ชั่วโมงเท่านั้น

Bang & Olufsen ได้เพิ่มจำนวนไมโครโฟนจาก ตัว เป็น 4 ตัว เพื่อให้สามารถใช้เทคโนโลยี บีม ฟอร์มมิ่ง (Beam forming) ในการปรับทิศทางการรับเสียงของไมโครโฟนให้พุ่งตรงเข้าหาปาก ซึ่งเทคโนโลยีนี้ทำให้แน่ใจว่าเสียงจะถูกส่งอย่างราบรื่นในขณะที่ลดเสียงรบกวนรอบข้างจากสภาพแวดล้อม ไมโครโฟนเพิ่มเติมยังปรับปรุงโหมด Transparency ซึ่งช่วยให้คุณฟังสภาพแวดล้อมผ่านตัวหูฟังได้ด้วยการแตะที่หูฟังง่ายๆ

 

“ด้วย Beoplay E8 เจนเนอเรชั่น 3 เราได้ทำให้หูฟังไร้ ทรูไวร์เลส ที่เสียงดีที่สุดในโลกให้ดีขึ้นยิ่งกว่าเดิม ที่ Bang & Olufsen เราไม่เคยหยุดท้าทายขีดจำกัด ดานประสิทธิภาพการออกแบบและการออกแบบ และความหลงใหลนี้ทำให้เราสร้าง Beoplay E8 เจนเนอเรชั่นใหม่นี้ โดยมุ่งหวังให้ลูกค้าของเราได้รับประสบการณ์ไร้สายที่ทรงพลัง พร้อมกับคุณภาพเสียงที่ดีขึ้น ในรูปทรงยิ่งกะทัดรัดกว่าเดิม “ Christoffer Østergaard Poulsen รองประธานฝ่ายการจัดการผลิตภัณฑ์ของ Bang & Olufsen กล่าว

 

Beoplay E8 มาในตลับชาร์จไร้สายหนังที่บรรงจงสร้างอย่างประณีต ที่ให้คุณพกพา Beoplay E8 ไปกับคุณได้ทุกวัน และหูฟังสามารถเก็บในตลับชาร์จหนังได้อย่างสมบูรณ์แบบด้วยระบบแม่เหล็กดูด

 

ปรับแต่งประสิทธิภาพของเสียง

ด้วยความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมเสียงที่ยาวนานถึง 94 ปีวิศวกรของ Bang & Olufsen ได้ปรับปรุงประสิทธิภาพของเสียงด้านวิศวกรรม โดยใช้พอร์ตเบสใหม่ที่ช่วยให้อากาศไหลเข้าและออกจากข้างในหูได้อย่างดี ซึ่งจะทำให้ตัวไดร์ฟเวอร์ใน Beoplay E8 สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระมากขึ้นและให้เสียงเบสที่หนักแน่นและแม่นยำยิ่งขึ้น ผู้ใช้ยังสามารถดาวน์โหลดแอป Beoplay เพื่อปรับแต่งเสียงผ่านทางอีควอไลเซอร์ แบบToneTouch โดยการลากจุดไปรอบ ๆ ระหว่าง 4 รูปแบบเสียง เพื่อเปลี่ยนประสบการณ์เสียงได้อย่างต่อเนื่อง และเพื่อเปลี่ยนระดับเสียง หรือเปลี่ยนการตั้งค่าที่บันทึกไว้ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว

 

การเชื่อมต่อที่รวดเร็วและการสตรีมที่ไร้ที่ติ

ด้วยเทคโนโลยีล่าสุดรวมถึง Bluetooth 5.1 ทำให้ Beoplay E8 สามารถเชื่อมต่อได้รวดเร็ว และประสบการณ์การใช้งานที่ไร้ที่ติ ในขณะที่การใช้งานแบตเตอรี่จะถูกใช้อย่างจำกัดที่สุด ตัวแปลงสัญญาณ ACC และ aptX ™ทำให้มั่นใจได้ว่าเสียงจะคมชัดและบริสุทธิ์ ทั้งในอุปกรณ์ iOS และ Android

 

ราคาและสถานที่จัดจำหน่าย

Beoplay E8 เจนเนอเรชั่น 3 จัดจำหน่ายในราคา 12,900 บาท มาพร้อมกับตลับชาร์จหนังไร้สายระดับพรีเมี่ยม จุกหูฟัง 5 ชุด และสายชาร์จ USB-C

 

หูฟังกำลังเปิดตัวในสีดำและจะวางจำหน่ายในช็อป iStudio by copperwired, SPVi, Studio7, King Power, Munkong Gadget, Digital Lab Siam Discovery, Power Mall, Power Buy, Bang & Olufsen (Gaysorn Village, Crystal Veranda, EmQuartier), และร้านค้าออนไลน์อย่างเป็นทางการ Mercular.com, Lazada, Shopee, JD.co.th and Gadgetthai.net. ติดตามเราได้ที่ @bangolufsen ใน Instagram, Facebook, Twitter และ Youtube ด้วย #BeoplayE8

ถูกใจบทความนี้  2