รีวิว ROG Phone 3 (Republic of Gaming) จาก ASUS ตัวแรงของจริง

อยากบอกว่า ASUS นี่ไม่ได้จับมารีวิวสักพักใหญ่ละ มีโอกาสก็จัดไป คือช่วงหลัง ASUS คงไม่ได้แข่งในตลาดทั่วไป แต่ชัดเจนว่าเทรนด์ gaming มา ดังนั้น ASUS นี่ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งในผู้นำทางด้าน gaming notebook ที่ปั้น ROG มาติดตลาด คุ้นชื่อเป็นอย่างดี แน่นอนว่าคอนเซ็ปท์นี้ก็มาอยู่บน Smartphone ด้วย และนี่คือรุ่นที่ 3 ของซีรีส์นี้แล้วกับ ROG Phone 3 ที่ย่อมาจาก Republic Of Gaming นั่นเอง มาด้วยตัวแรงสุด Snapdragon 865+ หน้าจอ 144Hz ROM 512GB RAM 12GB LPDDR5 และอื่นๆ อีกเพียบ คือต้องบอกว่าเป็นรุ่นนึงที่สุดแล้วในตลาดตอนนี้ ออกมาตอบโจทย์คนเล่นเกมโดยเฉพาะจริงๆ

ROG Phone 3 ตอนนี้เริ่มวางจำหน่ายกันแล้ว โดยไม่ได้มาเพียงรุ่นเดียว แม้ว่าวันนี้จะจับ ROG Phone 3 รุ่นใหญ่มาให้ชมกัน แต่ในพี่น้องซีรีส์นี้ ปีนี้เปิด Strix มาด้วยอีกหนึ่งรุ่นในราคาที่เบาลง สเปคก็ยังคงแรงเป็นอันดับต้นๆ ล่ะนะ เอาเป็นว่าวันนี้เรามาดู ROG Phone 3 กันดีกว่า คอนเซ็ปท์ของ Gaming Smartphone ในวันนี้ทาง ASUS เองก็ทำการบ้านมาได้ดีในทุกปีอยู่แล้ว และปีนี้เองก็มาพร้อมอาวุธจัดเต็มเช่นเคย คือด้วยคอนเซ็ปท์ของการเล่นเกมบน Smartphone จะให้เล่นเพียวๆ กับตัวเครื่องคงไม่ใช่ และยิ่งสเปคแรงแบบนี้ด้วยแล้ว ก็ต้องมีอุปกรณ์เสริมหรือ Gaming Gear เพิ่มเติมนั่นเอง วันนี้เรามาดูรายละเอียดปลีกย่อยกันดีกว่า

ส่วนสเปคเต็มๆ สามารถดูตามเว็บไซด์ของ ROG ได้เลยครับ

สเปคและรายละเอียด ROG Phone 3

CPU : 3.1 GHz Qualcomm® Snapdragon™ 865 Plus 5G Mobile Platform with 7nm, 64-bit Octa-core Processor
GPU: Qualcomm® Adreno™ 650
Display : 6.59 นิ้ว ความละเอียด 2340 x 10800  พิกเซล 144Hz ความสว่าง 650 nit
Memory: RAM 12GB แบบ LPDDR5 / ROM 512GB
Size: 171×78×9.85 มม. น้ำหนัก 240 กรัม
OS: Android10
Connection : WIFI6 Z802.11a/b/g/n/ac/ax, 2×2 MIMO) , Bluetooth 5.1 | port  USB-C
Mobile :  รองรับซิมคู่ 5G/4G/3G/2G
GPS: GNSS support GPS (L1/L5), Glonass (L1), Galileo (E1/E5a), BeiDou (B1/B2a), QZSS (L1/L5) and NavIC (L5)
Sound: Speaker คู่หน้า
Camera: กล้องหลัง 64MP f/1.8 + UltraWide 13 MP + Macro 5MP | กล้องหน้า 24MP
Battery : 6,000 mAh รองรับ Quick Charge 4.0 และ PD Charging สูงสุด 30W
Other: fingerprint , สแกนใบหน้า
Color: Black Glare
Price:  32,990 บาท

มาดูกล่องกันก่อนจ้า

ตัวกล่องดีไซน์ออกมาได้สมกับเป็น Gaming Smartphone ดูสมราคาจริงๆ กับ ROG Phone 3 ที่ราคาเปิดตัว 32,990 บาท ก็เรียกว่าสมกับเป็น ROG นั่นล่ะครับ

ตัวเครื่องอยู่ด้านใน กล่องคือเวลาเปิดฝามาก็สไลด์ออกด้านข้างนะครับ


มีตัว AeroActive Coller3 มาให้เลย แน่นอนว่าของแรงมาพร้อมกับความร้อน และก็ต้องมีตัวทำความเย็นเข้าช่วย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวอุปกรณ์สริมที่สำคัญมากเลยนะ

อุปกรณ์ทั้งหมดในกล่องมีประมาณนี้เลย ให้มาครบ ทั้งตัวเคสด้วย

อันนึงที่ผมชอบมากก็คือ ขนาดเข็มจิ้มถาดซิมยังถูกเอาใจใส่ออกแบบมาให้เหมาะกับ ROG อย่างยิ่งเลยทีเดียว

หน้าจอขนาด 6.59 นิ้วถือว่าหน้าจอขนาดใหญ่และมีความละเอียดที่ 2340 x 1080 พิกเซล และความถี่  144 Hz / ที่ 1 ms เรียกว่าการตอบสนองบนหน้าจอนี่สุดๆ ไปเลย และยังเป็นหน้าจอแบบ AMOLED โดยแสดงผล 10-bit และเป็น HDR display อีกต่างหาก ยังไม่พอครับ ยังใช้ Corning® Gorilla® Glass 6 ที่เป็นกระจกที่แข็งแรงที่สุดกันรอยขีดข่วนได้ อีกด้วย

ซึ่งทั้งด้านล่างและด้านบนก็มีลำโพงคู่จัดมาให้ เสียงกระหึ่มจริงๆ นอกจากนี้ตัวเครื่องยังรองรับ 5G ด้วยนะ แต่ทว่าต้องรออัพเดท ตามข่าวกันอีกทีนึงกับค่ายโอเปอเรเตอร์รายเดิมที่เคยจัดกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไร

ดีไซน์ด้านหลังจะมีโลโก้ ROG ประดับเอาไว้ชัดเจน ตรงนี้ จุดขายเขาก็คือมีไฟที่โลโก้ด้วยนะ

 

 

มุมต่างๆ ของตัวเครื่อง ROG Phone 3 มาพร้อมกับแบตขนาด 6000 mAh รองรับ Quick Charge 4.0 และ PD Charge

ด้านข้างของตัวเครื่องหัวท้าย มี AirTrigger ที่พัฒนาให้รองรับกับการเล่นเกมมาเป็นเวอร์ชั่น 3 แล้ว ก็ตามชื่อรุ่นล่ะนะ พัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิม

ส่วนอีกด้านนึงตรงกลางจะสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมสำหรับเป็นพอร์ทชาร์จได้

ตัวกล้องด้านหลัง มีให้สามตัว ก็ถือว่ามาตรฐานนะ สามารถใช้งานถ่ายได้ครบทุกช่วง ส่วนตัวแล้วก็ใช้งานได้ดีระดับนึง แต่ก็คงไปเทียบกับชาวบ้านไม่ได้ขนาดนั้น ROG เอาก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อันนี้ก็แล้วแต่ชอบล่ะนะ คุณภาพกล้องถือว่าดีอยู่  เพราะใช้ Sony® flagship IMX686 64 ล้านพิกเซล f1.8 เป็นตัวหลัก ส่วนตัวที่ 2 ขนาด 13 ล้านพิกเซลสำหรับเก็บ ultra-wide และสุดท้าย Macro ขนาด 5 ล้านพิกเซล ที่สำคัญคือสามารถถ่ายวีดีโอความละเอียดสูงสุด 8K ได้ด้วยนะ แน่นอนว่าถ่าย 4K ที่60FPS สบายๆ มีกันสั่นมาให้ครบ ส่วนกล้องด้านหน้าก็ 24 ล้านพิกเซล ฟีเจอร์กล้องก็มีถ่ายหน้าสวย ก็ต้องบอกว่ากล้องนี่พอได้นะ แต่ไม่ได้เน้นมากสำหรับ ROG Phone 3

งานนี้มีอุปกรณ์เสริมเพียบ เสียดายที่ไม่ได้ ROG Kunai Pad 3 ติดมาด้วย เลยไม่ได้ลองทดสอบ แต่ที่เป็น Gaming Gear ที่มีอยู่ก็ TwinView Dock 3 อันนี้ก็เอาไว้ทำสองหน้าจอ ซึ่งก็มีเกมเอาไว้เล่นสองหน้าจอได้ เนียนๆ ไป มีตัว clip ที่เอาไว้ต่อกับจอย PS มีฟิล์มกันรอย และเคส ROG

Lighting Armor Case เป็นเคสสำหรับ ROG Phone 3 โดยเฉพาะ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าที่เห็นน่ะคือช่องระบายอากาศ แต่มากกว่านั้นคือ เวลาเครื่องด้านหลังเรืองแสงนี่ก็จะดูสวยงามมาก อันนี้ก็ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของเขาเลย

อันนี้ต่อกับ Active Coller ซึ่งจำเป็นเลยถ้าหากจะใช้กับ Clip สำหรับต่อจอยนอกเพื่อเล่นเกม

ซึ่ง Clip ที่ให้มาในกล่องคือจะแบ่งเป็นรองรับขนาดจอยของ XBox/ PS4/Standia นะ

ต่อกับ จอย PS4 ก็เอามาเล่นเกมได้สบาย

อีกหนึ่งอุปกรณ์เสริม TwinView หน้าจอที่สองที่ไม่ต้องไปหาซื้อเครื่องหน้าจอพับได้ อันนี้คือใช้สองหน้าจอกันไปเลย

ตัวเกมที่รองรับ ก็จะสามารถควบคุมจากหน้าจอด้านล่างได้เช่น Asphalt9 ส่วนอื่นก็คือสามารถเปิดหน้าจอเล่นเกมพร้อมทำอย่างอื่นไปด้วยได้ เนื่องจากเครื่องแรงดังนั้นการทำงานแบบมัลติทาส์ก ก็เลยสบาย แต่ก็แอบร้อนเหมือนกันนะ

ซอฟท์แวร์นิดนึงดีกว่า

 

ส่วนตัวแล้ว UI ของ ASUS ก็คือมาในแนว Tech หรือ Gaming ซึ่งเอาจริงๆ รู้สึกว่าแข็งไปหน่อย ไม่ได้มินิมอลเหมือนยุคสมัยนี้ แต่ก็นะ แล้วแต่คนชอบล่ะอันนี้ การเข้าใช้งานเรื่องของซีเคียวริตี้ก็มีพร้อมทั้งสแกนนิ้วและใบหน้า แน่นอนว่ามาพร้อมกับ Android 10 ก็รองรับการอัพเดท

ส่วนของซอฟท์แวร์อื่นๆ อาจจะไม่ได้ลงลึกนะครับ ก็จะเป็นตัวทั่วไปของ Android อยู่แล้ว เรื่องการปรับแต่งการใช้งานต่างๆ ก็มีให้ตามเทรนด์ของ Android ยุคนนี้

ทดสอบความแรงของเครื่องกันนิดนึง

โหมดกล้องก็มีมาให้ครบนะครับ อย่างที่บอกว่าการถ่ายวีดีโอก็ได้ถึง 8K การถ่ายภาพก็มีโหมดที่จำเป็นครบล่ะ ซูมได้ หน้าชัดหลังเบลอ มาโคร ภาพมุมกว้างครบหมด

มาดูภาพตัวอย่างกัน

 

 

สรุปเบื้องต้นจากการใช้งาน ROG Phone 3

เท่าที่ได้ลองทดสอบ คือด้วยสเปคแรงสุดอยู่แล้ว หน้าจอคือ 144Hz ก็เริ่มมีเกมรองรับพอสมควร และแน่นอนว่าหากได้เล่นเกมในรีเฟรชเรทแบบนี้แล้ว กลับไปมองหน้าจอรุ่นอื่นก็จะแบบว่ารู้สึกได้เลยนะ สิ่งที่สังเกตุได้ก็คือ สเปคแรง แต่ใช้หนักๆ ก็ร้อนตามสไตล์ล่ะครับ แต่ทว่า ROG Phone 3 เค้าออกแบบมาให้มีตัวช่วยระบายความร้อนซึ่งมันก็ดีในระดับนึงนะ แต่ยังไงซะหากใช้งานเต็มที่แล้วยังไม่พอใจก็มีการ overclock ที่ช่วยเร่งสปีดได้อีกระดับนึง แต่ก็แลกมาด้วยความร้อนนั่นล่ะครับ แม้ว่าชิปเซ็ตเองจะพัฒนาเรื่องนี้มาโดยตลอดแต่ของแบบนี้ยังอยู่คู่กัน แต่ก็ไม่ได้ร้อนจนจับไม่ได้อะไรแบบนี้น่ะ การชาร์จ ก็รวมเร็วดี การใช้งานอื่นโดยรวมคือก็ครบถ้วนนะ ขาดแต่ 5G ในไทยที่ยังต้องรออีกสักหน่อย สิ่งที่ชอบก็คงเป็นการออกแบบของความเป็น Gaming Smartphone ที่ทำให้ ROG Phone3 ครบเครื่องด้วย Gaming Gear ที่หลากหลาย ครบถ้วน ใครชอบเล่นเกมพลาดไม่ได้เลย และยังมีสเปครองลงมาอย่าง Strix Edition ที่ราคาหลักสองหมื่น แหม่ งานนี้เค้าทำการบ้านมาดีจริงๆ คนที่อยู่สายเกมไม่น่าพลาดนะรุ่นนี้

ขอบคุณ ASUS TH ที่ให้ยืมเครื่องทดสอบ

ถูกใจบทความนี้  3