รีวิว JBL Go 3 จิ๋วแต่ตัว แต่แจ๋วพลังเสียง

JBL GO ซีรีส์ เรียกว่าเป็นรุ่นเล็ก ราคาสมค่าตัว ออกมาแต่ละ gen พัฒนาขึ้นตลอด จาล่าสุดก็รุ่น JBL GO 3 ที่ขนาดอาจจะต่างจากเดิมเล็กน้อย แต่ทว่างานนี้จิ๋วแต่แจ๋วเหมือนเคย เรื่องพลังเสียงนี่เชื่อมือ JBL ได้เลย โดยราคาค่าตัวคราวนี้อยู่ที่ 1590 บาท โดยมีดีไซน์ในแนวสตรีท และเหมาะกับการสื่อสารในยุคนี้ ที่มีการเคลื่อนที่ไปข้างหน้า อย่างไม่หยุดยั้ง มีเจ้า JBL GO 3 ติดตัวไปทุกที่ ทุกกิจกรรมที่เราทำ กันน้ำกันฝุ่น ติดตัวกับการวิ่ง พกไปสระว่ายน้ำ หรือชายทะเล ก็ยังไหว แถมแบตอึดใช้งานต่อเนื่อง 5 ชั่วโมง

ลำโพง bluetooth นั้นยังเป็นทางเลือกนึงสำหรับคนที่ชอบฟังเพลง ซึ่ง JBL GO 3 ก็ตอบโจทย์คนใช้งานที่ชอบขนาดเล็ก แต่เสียงไม่เล็ก มีคุณภาพ พกพาสะดวก และงานนี้ดีไซน์ยังมาในแนวสตีทอาร์ดหน่อยๆ ดูสวยงามดีนะครับ

 

สเปคเบื้องต้น ของ JBL GO

ขนาด (WxHxD) ซม. 7.50 x 8.75 x 4.10
เวลาการใช้งานแบตเตอรี่ (นาที) up to 5 hours (dependent on volume level and audio content)
ระยะเวลาการชาร์จ 2.5 hours (5V/1A)
ขนาด Driver:43 x 47mm/1.5″
กำลังขับ (วัตต์) 4.2W RMS
กันน้ำ กันฝุ่น IP67
Bluetooth version: 5.1
      สำหรับ JBL GO 3 ดีไซน์คือสวยงาม ตามเทรนด์ ผมว่าวัยรุ่นต้องชอบนะ พกพาติดตัวได้เลย ออกแบบมาให้พกพาได้สะดวก ด้วยห่วงที่แขวนไปกับอะไรก็ได้ เหน็บเข็มขัด คล้องไปกับจักรยาน หรือจะวางไว้ใช้งานทั่วไป ก็ได้เช่นกันส่วนตัวก็วางใช้งานนี่ล่ะครับ ซึ่งเสียงจาก JBL GO 3 คือตึ้บใช้ได้อยู่แล้ว เสียงดังกว่าตัวเยอะเลย
ด้านดีไซน์ก็มีลวดลายสวยดี เหมาะกับการลุยจริงๆ ปุ่มที่ออกแบบมาก็ใหญ่กดง่าย
มียางที่ใส่มาเอาไว้รองกันลื่นด้านหลังของลำโพง ก็ทำให้เวลาไปวางในที่เรียบๆ หน่อย หรือลื่น ก็ช่วยได้อยู่นะ
ปุ่มกดนี่อย่างใหญ่ สัญลักษณ์ชัดเจน สื่อสารให้เข้าใจ ใช้งานง่าย
พอร์ตที่ชาร์นี่ก็อินเทรนด์เป็น USB-C คาดว่าส่วนใหญ่ไม่น่าจะติดเรื่องนี้ เพราะยังไงซะสายเค้าก็แถมมาให้ในกล่องนั่นล่ะ
การใช้งานก็เชื่อมต่อพื้นฐานผ่าน bluetooth ซึ่งตอนนี้ก็รองรับ 5.1 ใช้งานสะดวก แบตก็อึด ลดน้อย ใช้งานกันยาวไป 5 ชั่วโมง ซึ่งก็ไม่ได้ฟังถึง 5 ชั่วโมงต่อเนื่องสักที พกไปมา ก็ยังอยู่ได้นะ ออกกำลังกายตอนเช้า ติดตัวไปสองชั่วโมง ว่ายน้ำเย็นๆ อีกสองชั่วโมง กลับมาบ้านก็ยังเหลือ ทำกิจกรรมทั้งวันของผมได้สบาย กลับบ้านมา เอามาต่อใช้งานฟังข่าว ฟังเพลงอีกนิดหน่อย แล้วก็เสียบชาร์จไปตามปกติ ก็นับว่าพกพาสะดวกดีนะครับ
ส่วนตัวแล้วก็เป็นลำโพงอีกตัวนึงที่มีพลังเสียงโดนใจ ในราคาที่พันกว่าบาท ก็คุ้มอยู่นะครับ แต่ถ้าเทียบกับอีกหลายแบรนด์ในท้องตลาด ถ้าเรื่องราคาล่ะก็อาจจะดูแรงกว่าค่ายอื่นก็จริง แต่ JBL นี่ก็ชื่อเสียงสั่งสมมานานนะ ราคาที่ 1590 บาทผมว่าก็สมค่าตัวแล้วล่ะ
ขอบคุณมหาจักร สำหรับสนุนอุปกรณ์ทดสอบ

ถูกใจบทความนี้  1