Oppo Find N มือถือจอพับได้เปิดตัวด้วยหน้าจอ 7.1 นิ้ว ไม่มีช่องว่าง

oppo เปิดตัวสมาร์ตโฟนหน้าจอพับได้ (foldable) ของแบรนด์ออกมาเป็นรุ่นแรกซึ่งได้ผ่านการพัฒนามาหลายรอบมากกว่าจะปล่อยอกมาเพื่อแข่งกับเจ้าอื่นในตลาด

จุดเปลี่ยนหลักของตัวเครื่องคือเริ่มต้นด้วยหน้าจออัตราส่วน 18:9 ในภายนอก จากนั้นภายในเป็นอัตราส่วน 8.4:9 ซึ่งแตกต่างจาก Galaxy Z Fold 3 ที่จอด้านนอกอัตราส่วน 25:9 และ Mi Mix Fold ที่จอด้านนอกอัตราส่วน 27:9 มีเพียง Mate X ที่อัตราส่วนจอด้านนอกใกล้เคียงคือ 19.5:9

Flexion Hinge (บานพับ) แบบใหม่มีชิ้นส่วนกว่า 136 องค์ประกอบเพื่อเป้าหมายใหม่คือให้ช่องว่างขณะพับจอลดลงและในตอนกางออกมาไม่มีรอยต่อระหว่างหน้าจอ นอกจากนี้ในขณะที่กางออกมายังสามารถตั้งในองศา 50 / 120 ได้ด้วยซึ่งก็จะสามารถใช้งานแทนขาตั้งกล้องเลยยังได้ (ถ่าย time-lapse สบายเลย)

สำหรับสเปคหน้าจอได้ใช้งาน Custom Serene Display (12 layers) ที่เรียกว่า Flexion Ultra Thin Glass โดยมีขนาดบางเพียง 0.03มม. เทียบกับคู่แข่ง 0.6มม. ถือว่ากินขาดและยังเพิ่มความยืดหยุ่นของหน้าจอด้วย โดยทาง TUV รับรองจากการทดสอบว่าไม่มีรอยเกิดขึ้นหลังจากการพับไปกว่าสองแสนครั้ง

ทั้งนี้หน้าจอเป็นแบบ LTPO AMOLED ที่สามารถปรับ Refresh Rate ได้ตั้งแต่ 1-120Hz และมี touch sampling rate สูงถึง 1,000Hz และทางบริษัทฯ ได้ calibrated สีสันและความสว่างของหน้าจอทั้งด้านในและด้านนอกให้มีความสว่างสูงสุด 1,000nits และมีค่าความสว่างกว่า  10,240  ระดับ ซึ่งจะได้ค่าความสว่างที่เหมาะสมกับทุกสถานการณ์

สำหรับหน้าจอด้านนอกมีขนาด 5.49 นิ้ว ครอบด้วย Gorilla Glass Victus มีความละเอียดหน้าจอ 1,972 x 988 พิกเซล (402ppi) Refresh Rate 60Hz ส่วนหน้าจอด้านในมีความละเอียด 1,792 x 1,920 พิกเซล (370ppi)

ด้านหน่วยประมวลผลมาพร้อม Snapdragon 888 ทำงานกับ LPDDR5 RAM 12GB / UFS 3.1 Storage 512GB รองรับการใช้งานแบบ split screen / floating windows

กล้องถ่ายรูปด้านหลังให้มาสามตัวด้วยกันเป็นกล้องหลัก 50MP (Sony IMX766 1/1.56 นิ้ว 1.0 µm pixels) + Ultrawide 16MP (14 mm, IMX481) + Telephoto 13MP (52 mm, S5K3M5)  ส่วนกล้องหน้ามีสองตัวคือหนึ่งตัวที่จอในและหนึ่งตัวที่จอนอก

แบตเตอรี่ตัวเครื่องจุ 4,500mAh รองรับการชาร์จผ่านสายและไร้สาย 33W SuperVOOC และ 15W AirVOOC รวมถึงสามารถ reverse charging 10W

สำหรับการวางจำหน่ายเริ่มวันที่ 23 ธันวาคมนี้ในราคา RMB7,699 หรือประมาณ 39,990 บาท สำหรับบ 8/256GB และ RMB8,999 หรือประมาณ 46,990 บาท สำหรับ 12/512GB

Source



ถูกใจบทความนี้  2