บอกเล่า เก้าสิบ Huawei P50 Pro

รุ่นใหญ่ รุ่นใหม่ ที่กำลังจะลงตลาดเร็วๆ นี้จาก Huawei นั่นก็คือ Huawei P50 Pro ซึ่งนับว่าเป็นเรือธงที่ในจีนเองออกมาได้สักพักแล้ว แต่ทว่าในไทยกำลังจะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 28 มกราคมนี้ วันนี้มีโอกาสจับมาบอกเล่ากันครับ แน่นอนว่าเป็นรุ่นเรือธงที่มีสเปคแรงสุดๆ  เค้าเรียกคอนเซ็ปท์ตัวเองว่าเป็น Legendary Reborn หรือการกลับมาของตำนาน และยังมาพร้อมกับกล้องคุณภาพจัดเต็ม อย่าง Dual Matrix Camera หรือวางตัวกันเป็นลักษณะของวงแหวน และจัดมาให้ถึง 4 ตัว การทำงานเร็วแรงทันใจ และมาพร้อมกับการใช้งาน GMS ได้โดยผ่านแอปที่ชื่อว่า GSpace

 

สำหรับสเปคฉบับเต็มของ Huawei P50 Pro ดูที่ Huawei นะครับ

งานนี้เรื่องสเปคคงไม่ต้องสืบ คือสเปคแรงสุดๆ ด้วย Snapdragon 888 แต่ทว่ารองรับที่ 4G นะ อันนี้ที่น่าแปลกใจ ไม่ใช่รุ่น 5G ซึ่งในบ้านเราปกติระดับ top น่าจะเอาตัวที่รองรับ 5G มานะ แต่ยังไงซะ 4G ถือว่าได้ความเร็วในการใช้งานที่สูงอยู่ล่ะ ส่วน RAM และ ROM จัดเต็ม 8/256GB สบายๆ  จากการใช้งาน เรื่องความร้อนก็มีบ้างตามลักษณะการใช้งานของเรา เช่นการถ่ายภาพหรือวีดีโอติดต่อกันนานๆ เล่นเกมหนักๆ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของ CPU ตระกูลนี้อยู่แล้ว แต่ไม่ได้ถึงกับร้อนจัดมากเพราะเค้าก็มีการพัฒนาเรื่องจัดการพลังงานและความร้อนมาโดยตลอดอยู่แล้ว

ด้านดีไซน์ ของ Huawei P50 Pro

มาพร้อมกับสีฮีโร่อย่าง Cocoa Gold ที่มีพื้นผิวสะท้อนแสง แวววับ จับใจ แน่นอนว่าแลกมากับการเปื้อนลายนิ้วมือได้ง่ายหน่อย แต่ก็เช็ดออกได้ง่ายเช่นกัน ส่วนอีกสีคือ Golden Black ก็สวยไปอีกแบบ ตัวที่ได้มาทดสอบก็เป็นสีทองนะครับ นอกจากสีสัน ก็กล้องนี่ล่ะที่จัดวางมาให้เป็นจุดเด่น เป็นกล้องคู่ที่ใหญ่มากๆ เลยทีเดียว คือรู้เลยว่าเป็น Huawei P50 Pro อย่างไม่ต้องสงสัย และการออกแบบของรุ่นเรือธงแบบนี้ ก็จะได้หน้าจอที่โค้งมน ที่ดูสวยงาม ช่วงหลังหน้าจอโค้งก็มีการปรับให้ไม่ได้โค้งมากนักทำให้การพิมพ์ทำได้ไม่ลำบากแล้วล่ะ

 

หน้าจอ ที่ให้มารองรับความถี่ที่ 120 Hz ก็เรียกว่าจัดเต็มอยู่เหมือนกัน การแสดงสีสันต่างๆ Huawei นี่จัดจ้าน สดใสและขนาดหน้าจอที่ 6.6 นิ้วก็พกพาได้สะดวกพร้อมการแสดงผลก็โอเคใช้งานได้ครบ จบทุกอย่างในเครื่องเดียว ด้านหน้ายังมีกล้องที่เป็นรูเจาะอยู่ อันนี้ก็เทรนด์มานานละ ไม่น่าจะแปลกอะไรขนาดก็ไม่ได้ใหญ่มากมายนัก

การใช้งานอึดๆ ด้วยแบตเตอรี่ 4360 mAh สำหรับตัวแบตก็อยู่ในมาตรฐานของตัวเรือธงประมาณนี้ล่ะ รวมถึงชาร์จไว้ที่รองรับ 65W ก็นับว่าทำได้โอเคละ มาตรฐานดี ก็ช่วยชาร์จให้เร็วขึ้นได้ ซึ่งก็เอาไปเล่นเกม ถ่ายรูป และใช้งานอื่นๆ ได้นานอยู่นะครับ วันนึงหากไม่ได้ใช้งานหนักก็อยู่ได้

มีเรื่อง UI ที่ยังมาพร้อมกับ EMUI12 ซึ่งเอาจริงๆ ตอนนี้ยกให้ EMUI เป็น OS หลักไปแล้ว ซึ่งก็มีพวกฟีเจอร์ล้ำๆ เมื่อใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ของ Huawei ใน ecosystems ของตัวเอง ซึ่งมันก็ใช้งานได้อย่างสะดวก แบบไร้รอยต่อจริงๆ

 

ด้านกล้องและการถ่ายภาพ

แน่นอนครับว่ากล้องสเปคจัดเต็ม 4 ตัว ตั้งแต่กล้องหลัก ที่ให้มา 50 ล้านพิกเซล และยังมีกล้องรองอีก 40่ล้านพิกเซล กล้องอัลตร้าไวด์อีก 13 ล้านพิกเซล สุดท้าย กล้องซูม 64 ล้านพิกเซล ทั้งหมดคงดูที่ภาพถ่าย ที่แน่ๆ คือภาพถ่ายที่สามารถถ่ายดวงจันทร์ได้ และซูม 100 เท่าเลยทีเดียว สามารถนำการซูมไปใช้ประโยชน์ในการมองระยะไกลๆ ได้อย่างดี แต่ขอบอกว่าจากที่ลองคือมือต้องนิ่งพอสมควร ยิ่งซูมไกลเท่าไหร่ยิ่งต้องนิ่งมากๆ ซึ่งผมเองจากที่ใช้นิ่งไม่พอจริงๆ กล้องมาโครก็ใช้ได้ และยังเอาภาพแบบขาวดำในสไตล์ Leica กลับมาอีกด้วย

 

ดูจากภาพถ่ายตัวอย่าง

 

การใช้งานอื่นๆ ผ่าน GSpace

อันนี้คงไม่พูดถึงไม่ได้ นอกจากภาพรวมในการใช้งานแล้ว หลักใหญ่ใจความสำคัญคือ GMS ที่ไม่รองรับมาสักพักใหญ่และอีกยาวๆ แต่คราวนี้สำหรับ Huawei P50 Pro มีทางเลือกสำหรับใครที่เคยชินกับการใช้งาน GMS โดยสามารถลงแอปที่ชื่อว่า GSpace ซึ่งจะเป็นเหมือนกับโหมด Emulator จำลองระบบขึ้นมาให้เราเข้าไปลงชื่อและใช้งาน GMS ได้โดยผ่านหน้ากากหรือแอป Gspace นี้ล่ะครับ ซึ่งหากใครใช้ Huawei รุ่นอื่นๆ ที่ไม่มี GMS มาให้ด้วย ก็สามารถใช้ GSpace นี้ได้เช่นเดียวกัน โดยสามารถลงแอปจาก Playstore ได้ แต่เดี๋ยวก่อน ถึงแม้ว่าลงได้ แต่บางอย่างก็ไม่สมบูรณ์ เช่นการเล่นเกม หากใครจะเน้นเล่นเกมอันนี้เกมหลักๆ อย่างพวก ROV PUBG พวกนี้เด้งออกนะครับ ส่วนการใช้งานอื่นๆ เช่นแอป facebook นี่ได้เลยจัดเต็ม หรือจะเช็คเมล ดู Youtube อะไรแบบนี้ได้หมด อีกอย่างที่ต้องรับให้ได้ก็คือโฆษณาจาก GSpace นี่ล่ะ หากรับสิ่งเหล่านี้ได้ก็โอเคละ โดยส่วนตัวก็ถือว่าเป็นการใช้งานที่สะดวกขึ้นมาอีกนิด อาจจะไม่สมบูรณ์แต่ก็ดีล่ะครับ เสริมด้วยการใช้งานผ่าน AppGellery เพิ่มเติมก็โอเคละ

โดยภาพรวมผมว่าบริการที่ Huawei พยายามให้ผู้ใช้งานได้รับความสะดวกสบายผ่านแอปต่างๆ ในซีรีส์ Pental ผมว่าก็ดีขึ้นมากเช่น Pental Maps ก็สามารถใช้งานนำทางได้แทน Google Maps ได้เลยนะ

สรุปการใช้งาน Huawei P50 Pro

โดยหลักใหญ่ใจความคือ การกลับมาของตำนานซีรีส์ P ซึ่งนับว่าจัดเต็มเหมือนเดิม ทั้งสเปคตัวเครื่องเองหรือกล้องก็ตามแต่ ผมว่าอย่างเรือธง ไม่ว่จะเป็นความลื่นไหล การทำงานต่างๆ ตอบสนองได้ดีอยู่แล้ว แต่หลักๆ ก็ยังคงเป็นเรื่อง GMS ที่ยังคงมีการแก้ไขได้บ้างจากการใช้งานผ่านแอปซึ่งก็ไม่ได้สมบูรณ์ 100% ทุกอย่าง แอปในช่วงหลังบน AppGellery เองก็มีให้ใช้งานกันแทบครบถ้วนอยู่แล้วในบ้านเรา แต่ก็อาจจะมีอะไรที่ผูกกับ GMS ที่เอาจริงๆ ก็ใช้งานได้แหล่ะ แต่ไม่สะดวกเท่าไหร่ ดังนั้น GSpace ก็มาเสริมตรงจุดนี้ได้เช่นกันครับ โดยภาพรวมแล้ว Huawei P50 Pro ก็มาพร้อมกับความเป็นตำนาน และแน่นอนว่ายังไม่รู้ราคา หากใครสนใจก็รอราคาแล้วตัดสินใจอีกทีก็ได้นะ

 

ขอบคุณ Huawei  Thailand ที่ให้ยืมเครื่องทดสอบ



ถูกใจบทความนี้  1