ทักทาย วันจันทร์ มันส์เดย์ – PDPA ใช้งานแล้ว คนใช้ Smartphone ถ่ายรูปอย่างเราล่ะ?

ชวนคุยเรื่อง PDPA ที่ตอนนี้เริ่มใช้งานมาแล้วสักอาทิตย์นึงได้ เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กฎหมายบังคับใช้เรียบร้อย งานนี้เราต้องระวังตัวกันมากขึ้น? ก็อาจจะใช่ คือเรามีสิทธิที่จะไม่ยินยอมให้นำภาพถ่ายที่ติดหน้าหรือตัวตนของเราไปใช้งานโดยไม่ได้รับอนุญาต งานเข้าเลยทีนี้ จริงๆ รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลต่างๆ ด้วย แต่ที่จะเกี่ยวเนื่องกับการใช้งาน Smartphone อย่างเราๆ ท่านๆ ก็เรื่องการถ่ายภาพนี่ล่ะที่จะติดใครก็ไม่รู้มาด้วย แล้วทีนี้เราก็มาโพสต์ลงโซเชียลส่วนตัวหรือสาธารณะก็ตามแต่ ยังไงซะก็ไม่ได้รับความยินยอมอย่างแน่นอน ถามว่าผิดกฎหมายไหม ผมว่าก็ผิดนะ ถ้าตามเนื้อความ แต่ทว่าต้องดูที่เจตนาอีกนั่นล่ะ แต่เคสชาวบ้านอย่างเราๆ ท่านๆ คงไม่ได้สนใจว่าใครจะเอาหน้าเราไปลงที่ไหน หากไม่ใช่เป็นคู่กรณี แล้วนำไปโพสต์สร้างความเสียหายระหว่างกันเสียมากกว่า อันนั้นก็ว่ากันไป แต่จริงๆ PDPA ที่บังคับใช้ ผมว่าจะมีผลต่อผู้ประกอบการทั้งหลายซะมากกว่า ถ้าด้านภาพถ่าย ก็จะมีพวกสื่อโฆษณาต่างๆ ที่บางที ก็ไม่ได้ตั้งใจติดภาพเราไปก็เป็นไปได้ หรือไม่ก็เอาภาพที่เราโพสต์เอาไว้ หรือวีดีโอก็ตามแต่ ไปออกสู่สาธารณะ โดยไม่ได้รับความยินยอม หรือมาขอเป็นลายลักษณ์อักษรก่อน เผยแพร่ หรือกระทั่งงานจ้างต่างๆ ที่ออกทริปถ่ายรูปนางแบบอะไรประมาณนี้ด้วยนะ ถ่ายเก็บไว้ดูคงไม่มีปัญหา ถ่ายแล้วโพสต์ตามสื่อโซเชียล เพื่ออวดภาพก็ว่ากันไป ถ้าบุุคคลในภาพไม่ได้รับความเสียหาย ก็คงไม่ได้มีการฟ้องอะไรกัน ผมว่าแอคทิวิตี้ใดๆ ที่เราทำกันอยู่ หากไม่ได้ทำไปเชิงการค้า หรือหาผลประโยชน์ใดๆ หรือมีผลกระทบต่อตัวบุคคลอย่างชัดเจน ผมว่าก็ดำเนินชีวิตการถ่ายภาพกันไปตามปกติ ผู้ประกอบการก็ต้องมีเอกสารยืนยันการขอนำไปเผยแพร่ให้ชัดเจนแค่นั้น

สิ่งที่เกรงว่าเป็นช่องโหว่ก็คือ อาจจะมีมิจฉาชีพ หาผลประโยชน์จากกฎหมายนี้ ผมก็ไม่แน่ใจว่ามีมากน้อยแค่ไหน เช่น รับจ้างเป็นนายแบบ นางแบบถ่ายภาพ ให้ไปใช้งานได้ แต่ไม่ได้มีเอกสารหรือหลักฐานในการจ้างชัดเจน แล้วพอถูกเผยแพร่ ก็อาจจะมีการฟ้องร้องว่าละเมิดสิทธิส่วนบุคคลก็เป็นได้ อย่างที่บอกล่ะครับ ถ้าเคสทั่วไป ก็คงไม่มีอะไร แต่ถ้ามิฉาชีพ ก็จะมีช่องทางหาผลประโยชน์อันนี้ล่ะ ก็ไม่รู้ว่าจะมีเคสอะไรให้ติดตามกันหรือไม่ คงต้องคอยสังเกตุดู

นอกจากภาพถ่ายก็คงเป็นข้อมูลส่วนตัวที่ ปัจจุบันหลุดแล้วหลุดเล่า โทรมาขายประกันแล้วโทรมาอีก งานนี้ต้องให้โชว์หลักฐานที่มาของข้อมูลของเราว่าได้มาจากที่ไหนอย่างไร ไม่งั้นก็ฟ้องกันสนุกแน่นอน แต่ที่ไม่สนุกคือขึ้นโรงขึ้นศาลอย่างที่รู้กันว่าเสียเวลา บางทีได้ก็ไม่คุ้มเสีย ไม่คุ้มค่าทนาย ค่าเสียเวลาอีก เอาเป็นว่ากฎหมายนี้ออกมาบังคับใช้ ผู้บริโภคอย่างเราน่าจะปลอดภัยมากขึ้นนะครับ หากใครเจอเคสอะไรลองมาแชรกันได้นะ

 

 



ถูกใจบทความนี้  0