ไม่กี่วันก่อน Huawei เพิ่งจะเปรยๆ มาเองว่าจะเปิดตัว Freebuds 2 Pro เร็วๆ นี้และก็เปิดตัวมันซะเลยกับหูฟังไร้สายตัวท็อปของแบรนด์ซึ่งพร้อมลุยตลาดยุโรปก่อนซึ่งจุดเด่นของหูฟังตัวนี้คือการที่มีไดร์เวอร์สองตัว ไมโครโฟนทั้งหมดสามตัวที่สามารถลดเสียงรบกวนได้มากถึง 47 เดซิเบล รวมถึงมีแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ยาวนาน
สำหรับระบบเสียง Hi-Res คู่ที่เป็นชุดเด่นหลักของหูฟัง Freebuds Pro 2 นั้นรองรับการใช้งานความถี่ที่มีความกว้างขนาดใหญ่ตั้งแต่ 14 Hz ถึง 48k Hz และยังมี adaptive equalizer ที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับผู้ใช้งานที่สวมหูฟังและทำการปรับเสียงให้เหมาะสมในทุกสถานการณ์
ด้านการตัดเสียงรบกวนถึ 47 เดซิเบลสำหรับรุ่นใหม่นี้เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ตัดได้ 40 เดซิเบล ด้วยพลังแห่งไมโครโฟนสามตัวที่ใส่มาให้ แน่นอนว่ายังคงสามารถเลือกที่จะรับเสียงภายนอกขณะสนทนาได้เช่นกันซึ่งจะดีขึ้นมากน้อยแค่ไหนอันนี้คงต้องรอการพิสูจน์ผลงาน
สำหรับความจุแบตเตอรี่ทางบริษัทไม่ได้เปิดเผยออกมา ระบุเพียงว่าใช้งานได้นานสุด 30 ชั่วโมง (รวมเคส) และในการใช้งานหูฟังต่อการชาร์จหนึ่งครั้งสูงสุด 4 ชม. กรณีเปิด ANC และ 6.5 ชั่วโมงกรณีปิด ANC
ตัวหูฟังรองรับมาตรฐาน IP54 ป้องกันน้ำสาดกระเซ็นใส่ได้ ลุยฝนได้สบายใจแต่ไม่สามารถใส่ว่ายน้ำได้
สีสันมีให้เลือกสามสีได้แก่ Silver Blue, Silver Frost (ดำ) และ Ceramic White โดยเปิดราคาที่
ไม่กี่วันก่อน Huawei เพิ่งจะเปรยๆ มาเองว่าจะเปิดตัว Freebuds 2 Pro เร็วๆ นี้และก็เปิดตัวมันซะเลยกับหูฟังไร้สายตัวท็อปของแบรนด์ซึ่งพร้อมลุยตลาดยุโรปก่อนซึ่งจุดเด่นของหูฟังตัวนี้คือการที่มีไดร์เวอร์สองตัว ไมโครโฟนทั้งหมดสามตัวที่สามารถลดเสียงรบกวนได้มากถึง 47 เดซิเบล รวมถึงมีแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้ยาวนาน
สำหรับระบบเสียง Hi-Res คู่ที่เป็นชุดเด่นหลักของหูฟัง Freebuds Pro 2 นั้นรองรับการใช้งานความถี่ที่มีความกว้างขนาดใหญ่ตั้งแต่ 14 Hz ถึง 48k Hz และยังมี adaptive equalizer ที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับผู้ใช้งานที่สวมหูฟังและทำการปรับเสียงให้เหมาะสมในทุกสถานการณ์
ด้านการตัดเสียงรบกวนถึ 47 เดซิเบลสำหรับรุ่นใหม่นี้เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ตัดได้ 40 เดซิเบล ด้วยพลังแห่งไมโครโฟนสามตัวที่ใส่มาให้ แน่นอนว่ายังคงสามารถเลือกที่จะรับเสียงภายนอกขณะสนทนาได้เช่นกันซึ่งจะดีขึ้นมากน้อยแค่ไหนอันนี้คงต้องรอการพิสูจน์ผลงาน
สำหรับความจุแบตเตอรี่ทางบริษัทไม่ได้เปิดเผยออกมา ระบุเพียงว่าใช้งานได้นานสุด 30 ชั่วโมง (รวมเคส) และในการใช้งานหูฟังต่อการชาร์จหนึ่งครั้งสูงสุด 4 ชม. กรณีเปิด ANC และ 6.5 ชั่วโมงกรณีปิด ANC
ตัวหูฟังรองรับมาตรฐาน IP54 ป้องกันน้ำสาดกระเซ็นใส่ได้ ลุยฝนได้สบายใจแต่ไม่สามารถใส่ว่ายน้ำได้
สีสันมีให้เลือกสามสีได้แก่ Silver Blue, Silver Frost (ดำ) และ Ceramic White โดยเปิดราคาที่ €200 หรือประมาณ 7,490 บาท
ถูกใจบทความนี้ 0
You must be logged in to post a comment.