มีประเด็นนึง ที่น่าสนใจชวนคุยวันนี้ก็คือ ทำไมนะ กำลังการซื้อ หรือการเปลี่ยนเครื่องใหม่ ของคนส่วนใหญ่จึงลดลง? มีใครเคยสังเกตกันบ้างไหมครับ แน่นอนว่ามีสื่อ ตปท. ได้เกริ่นถึงประเด็นนี้ จริงๆ เหมือนกับว่าในปีนี้กำลังซื้อจะกลับมาแล้ว หลังจากโควิดที่จางหายไป แต่ทว่าอาจจะไม่ได้เป็นดังคาด เพราะจากข้อมูลภาพรวมก็คือ คนใช้งานชะลอการตัดสินใจที่จะซื้อเครื่องใหม่ หรือไม่ก็คือคนส่วนใหญ่เลือกที่จะใช้เครื่องเดิมๆ อยู่ มากกว่าซื้อใหม่นั่นเอง แต่ผมว่าประเด็นนี้ อาจจะเป็นไปได้ว่าเปลี่ยนกันไปเป็นแบบ มือสอง และมือสามแทน ซื้อเครื่องมือหนึ่ง
มีประเด็นนึงที่น่าสนใจ และผมรู้สึกมาหลายปีแล้ว ก็คือ ไม่ได้มีความจำเป็นหรือความแตกต่าง สำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วไป ปัจจุบันส่วนใหญ่เราอยู่ในโซเชียลต่างๆ ทุกวัน ไม่ว่าจะเป็น Tiktok youtube twitter facebook หรืออื่นๆ อีกมากมาย แต่หลักๆ ผู้คนส่วนใหญ่กำลังใช้สื่อภาพเคลื่อนไหว และวีดีโอมากที่สุด ตามเทรนด์ที่ทุกคนคงพอรู้อยู่แล้ว ถามว่า Smartphone ราคาต่ำกว่า 5 พันบาทก็ทำได้ไม่แพ้เครื่องระดับหลักหมื่น แต่ถ้าจะสองสามหมื่นก็อาจจะไม่ได้ถึงขั้นนั้น ซึ่ง ก็สามารถตอบสนองความต้องการโดยส่วนใหญ่แล้ว อีกส่วนนึงก็คือกล้อง ที่เอาจริงๆ มีการพัฒนาไปมาก มากเสียจนราคาต่ำกว่า 5 พันบาทก็ไม่ขี้เหร่แล้ว ดังนั้นเป็นปัจจัยนึงที่ คนส่วนใหญ๋ไม่ได้เห็นความสำคัญในการเปลี่ยน อีกกลุ่มหนึ่งที่ขยันลองเล่นเทคโนโลยีใหม่ๆ อยากลอง อยากเปลี่ยนตลอดเวลา ก็มี แต่ก็ไม่ได้มากมายนัก ที่พอจะส่งผลทำให้ค่ายมือถือมีตัวเลขมากพอที่จะชดเชยส่วนใหญ่ที่ขาดไป อาจจะยกเว้น Apple ที่มีตัวเครื่องแพง ที่อาจจะไม่ได้มีผลกระทบมากเท่าฝั่ง Android ทั้งหลายที่ต้องช่วงชิงตลาดกันเลือดตาแทบกระเด็น จะเห็นว่าฝั่ง Apple เองก็มีกลุ่มผู้ใช้งานที่พร้อมจะเปลี่ยนอยู่ทุกปี ซึ่งเป็นคนที่ไม่ได้เปลี่ยนทุกปีแต่เปลี่ยนเนื่องจากรอบของเครี่องอาจจะไปไม่ไหวและมีการเปลี่ยนแปลงจากรุ่นเดิมที่ถืออยู่มากจริงๆ ซึ่งเชื่อว่าเกิน 3 ปีขึ้นไป เค้าก็จะมีจังหวะวนเปลี่ยนอยู่แล้ว นี่คงเป็นข้อดีของ Apple ที่ดึงดูดลูกค้าจนหยู่หมัด และไม่ได้มีตัวเลือกในลักษณะการทำงานเดียวกัน แน่นอนว่าสภาวะเศรษฐกิจ สังคม ค่าเงินต่างๆ รวมถึงสงคราม ปัญหาการเมือง ก็มีผลกระทบเช่นเดียวกัน โดยหลักแล้ว ก็จะมีปัจจัยหลายปัจจัย แต่สิ่งนึงคือความคุ้มค่า และเทคโนโลยีที่เกิดใหม่ในแต่ละปี ไม่ได้มีอะไรที่แตกต่างจนโน้มน้าวให้เปลี่ยนได้มากพออีกต่อไปในปัจจุบันนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีเรื่องชิปขาดตลาด และรุ่นใหม่ๆ ในปีนี้ ก็ไม่ได้มีการเปลี่ยนนวัตกรรมของชิปเซ็ตอย่างชัดเจนหรือก้าวกระโดดมากนัก รวมถึงราคาก็แอบแรงอีกต่างหาก แล้วปีหน้าจะเหมือนปีนี้หรือไม่ งานนี้ต้องติดตามกันล่ะครับ ปิดปีนี้ ต้องดูกันว่าค่ายไหนจะชิงความเป็นหนึ่งได้
ถูกใจบทความนี้ 0
You must be logged in to post a comment.