ซัมซุงเปิดตัว Samsung Odyssey Neo G7 หน้าจอเกมมิ่ง Mini-LED ขนาด 43 นิ้วรุ่นแรก

จอ Quantum Mini-LED ขนาดใหญ่ 43 นิ้วจะพาเกมเมอร์ดำดิ่งสู่โลกของเกมอย่างแท้จริง

 

ซัมซุงประกาศเปิดตัว Samsung Odyssey Neo G7 (รหัสรุ่น: G70NC) สู่ตลาดโลกแล้ววันนี้ มาในจอแบนแบบ Mini-LED ขนาด 43 นิ้วรุ่นแรกของซัมซุงและจอแสดงผลขนาดใหญ่ที่ทำให้เหล่าเกมเมอร์มีขอบเขตการมองเห็นและรายละเอียดที่ครบถ้วนยิ่งขึ้น ชวนพวกเขาดำดิ่งสู่โลกของการเล่นเกมได้อย่างแท้จริงด้วยคุณภาพของภาพที่สมจริง

 

“ตลาดของหน้าจอเกมมิ่งนับวันจะมีความต้องการในขนาดหน้าจอใหญ่มากขึ้น และเกมเมอร์ต่างต้องการใช้หน้าจอของตนเองอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยมากขึ้นด้วย” ฮูน ชุง รองประธานบริหารกลุ่มธุรกิจหน้าจอแสดงผลของ ซัมซุงอิเลคโทรนิคส์ กล่าว “ซัมซุงไม่เพียงมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีขึ้นเท่านั้น แต่มุ่งสร้างสรรค์ขีดความสามารถใหม่ๆ ให้กับหน้าจอที่ทำให้เกมเมอร์ได้ทั้งเทคโนโลยีและความบันเทิงแบบครบจบในที่เดียว นวัตกรรมของเรากำลังทำให้ชาวเกมเมอร์ได้เพลิดเพลินกับเกมด้วยประสิทธิภาพการแสดงภาพที่ช่วยยกระดับประสบการณ์ทางอารมณ์อันเข้มข้น”

 

Samsung Odyssey Neo G7 ถูกออกแบบเพื่อมอบคุณภาพของภาพที่ดูมีชีวิตสมจริง พร้อมมุมมองการรับชมประสิทธิภาพสูงและปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ ตลอดจนคุณสมบัติในการปรับเปลี่ยนได้แบบเฉพาะบุคคลเพื่อสร้างสภาวะที่เหมาะสมที่สุดในการเล่นเกมและรับชมความบันเทิง

 

หน้าจอเกมมิ่งที่ใหญ่พอสำหรับทุกเกมและทุกแพลตฟอร์ม

หน้าจอขนาด 43 นิ้วให้ความละเอียดระดับ 4K (3,840 x 2,160) พร้อมการรับรองมาตรฐาน VESA Display HDR600 และ HDR 10+ เพื่อคุณภาพการแสดงภาพขั้นสูงที่แสดงกราฟิกที่ดีที่สุดในยุคปัจจุบันได้ Samsung Odyssey Neo G7 ใช้ Quantum Mini LED ควบคุม LED ได้อย่างประณีตและแม่นยำ ทำให้ผู้ใช้สามารถมองเห็นสีดำได้ลึกยิ่งขึ้น แสดงสีสันกว้างขึ้นและละเอียดมากยิ่งขึ้นแม้ในสภาพแวดล้อมของเกมจะมืดสลัว ผิวหน้าจอแบบ Matte Display จะลดแสงสะท้อนบนหน้าจอช่วยขจัดสิ่งรบกวนสมาธิในช่วงที่การเล่นเกมดำเนินไปอย่างเข้มข้น และทำให้หน้าจอถ่ายทอดรายละเอียดได้อย่างเต็มที่

Samsung Odyssey Neo G7 เหมาะกับการเล่นเกมบนทุกๆแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะใช้ DisplayPort หรือ HDMI เชื่อมต่อกับเกมมิ่งคอมพิวเตอร์ หรือจะเปลี่ยนไปใช้พอร์ต HDMI 2.1 เพื่อเล่นบนเกมคอนโซลรุ่นล่าสุด ตลอดจนการเป็นอีกทางเลือกสำหรับการเล่นเกมบนบนอุปกรณ์มือถือโดยเชื่อมต่อกับหน้าจอใหญ่ 43 นิ้วผ่าน Wi-fi หรือ Bluetooth

 

ประสิทธิภาพที่จะยกระดับการเล่นเกมให้สูงล้ำขึ้นอีกขั้น

ด้วย Refresh rate 144 เฮิร์ตซ์และความเร็วในการตอบสนอง 1 มิลลิวินาทีส่งผลให้ตอบสนองได้อย่างราบรื่นและรวดเร็ว และยังช่วยให้การเคลื่อนไหวของเมาส์มีความแม่นยำ นอกจากนี้ยังรองรับ AMD FreeSync Premium Pro ที่นอกจากราบรื่นและรวดเร็ว ยังช่วยลดภาพกระตุก ความหน่วงในการตอบสนองคำสั่ง และการฉีกขาดของภาพบนหน้าจอได้อีกด้วย

 

Samsung Odyssey Neo G7 สามารถปรับเปลี่ยนหน้าจอได้อย่างหลากหลาย ทั้งขนาด ตำแหน่ง และสัดส่วน ฟีเจอร์ Flex Move Screen สามารถปรับเปลี่ยนขนาดหน้าจอได้ตั้งแต่ 43 นิ้วถึง 20 นิ้ว รวมถึงตำแหน่งการแสดงภาพบนหน้าจอ ทำให้ผู้ใช้สามารถหาความลงตัวเพื่อให้ทำผลงานได้อย่างสุดฝีมือในทุกๆ เกม

 

Samsung Game Bar[1] เครื่องมืออันทรงพลังที่ให้ผู้ใช้ดูและปรับเปลี่ยนค่าสำคัญๆ ได้โดยไม่ต้องออกจากหน้าจอเกม ทั้งจำนวนภาพต่อวินาที (Frames Per Second – FPS), สัดส่วนภาพ, การแสดงภาพที่มีช่วงความแตกต่างของความสว่างสูง (High Dynamic Range – HDR) และอัตรารีเฟรชแบบแปรผัน (Variable Refresh Rate – VRR) หรือปรับเปลี่ยนการตั้งค่าต่างๆ อาทิ สัดส่วนหน้าจอ อัตรการตอบสนอง และโหมด Game Picture

 

คุณสมบัติอัจฉริยะเพื่อประสบการณ์แบบเฉพาะบุคคล

Samsung Odyssey Neo G7 มาพร้อมคุณสมบัติอัจฉริยะที่คิดค้นขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้ใช้ กับประสบการณ์ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการผ่าน Samsung Smart Hub

 

นอกจากนี้ผู้ใช้สามารถรับชมโทรทัศน์แบบสมาร์ททีวีด้วยแอปต่างๆ จากพันธมิตร เช่น Prime Video, Netflix และ YouTube ผ่าน Samsung Smart Hub กับคอนเทนต์ที่หลากหลายในรูปแบบบริการผ่านอินเทอร์เน็ต (Over-the-Top – OTT) โดยเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ไม่ต้องเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์หรือเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นใด

Samsung Odyssey Neo G7 เริ่มวางจำหน่ายแล้ววันนี้พร้อมโปรโมชันสุดพิเศษ แถมฟรี Soundbar HW-T400 มูลค่า 3.490 บาท เมื่อซื้อ Samsung Odyssey Neo G7 ตั้งแต่วันนี้ – 28 กุมภาพันธ์ 2566 ผ่าน samsung.com, Lazada, Shopee และร้านค้าที่ร่วมรายการ โดยผู้สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Samsung Odyssey Neo G7

 

 

Spec G70NC
หน้าจอ ขนาดหน้าจอ 43 นิ้ว
แบน/โค้ง แบน
ประเภทของหน้าจอ Quantum Mini-LED
สัดส่วนหน้าจอ 16:9
ภาพ อัตรการรีเฟรช (สูงสุด) 144 เฮิร์ตซ์
ความสว่าง (ทั่วไป) 400 nit
HDR VESA Display HDR600

HDR10+ Gaming

ความเร็วในการตอบสนอง ความเร็วในการตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของภาพ ( MPRT) 1 มิลลิวินาที
มุมมองการรับชม 178/178
คุณสมบัติด้านการเล่นเกม VRR FreeSync Premium Pro
คุณสมบัติอัจฉริยะ มี Gaming Hub, Media Hub
เสียง ลำโพง 20 วัตต์ x 2 ตัว
อินเตอร์เฟส พอร์ตวีดีโอ DisplayPort (1.4) x 1 พอร์ต / HDMI (2.1) x 2 พอร์ต
พอร์ต USB USB 3.0 x 3 พอร์ต
อื่นๆ Ethernet LAN x 1 พอร์ต, WiFi5, Bluetooth 5.2
การออกแบบ ไฟส่องสว่าง มี (Core Sync)
ขาตั้ง ปรับก้ม-เงย
อุปกรณ์ยึดติดผนัง VESA (200×200)

 

ถูกใจบทความนี้  0