เอสเอพี ประกาศเปิดตัว SAP Datasphere พร้อมผนึกความร่วมมือพันธมิตร Collibra, Confluent, Databricks และ DataRobot เพื่อช่วยให้ลูกค้าบริหารจัดการข้อมูลได้ง่ายยิ่งขึ้น

        — เอสเอพี เอสอี (NYSE: SAP) ประกาศเปิดตัว SAP Datasphere นวัตกรรมด้านการจัดการข้อมูลใหม่ล่าสุดและประกาศความร่วมมือกับเหล่าพันธมิตรใหม่ที่พร้อมช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงข้อมูลที่สำคัญต่อธุรกิจ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกได้รวดเร็วและตัดสินใจทางธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น SAP Datasphere คือ ชุดผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับการจัดการข้อมูล ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงและใช้ข้อมูลทางธุรกิจทั่วทั้งองค์กรได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ เอสเอพี ยังได้ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับบริษัทด้านดาต้าและ AI ชั้นนำในอุตสาหกรรม ได้แก่ Collibra, Confluent, Databricks และ DataRobot เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของ SAP Datasphere ทำให้องค์กรสามารถสร้างสถาปัตยกรรมข้อมูลที่รวบรวมเอาข้อมูลของเอสเอพีรวมถึงข้อมูลที่ไม่ใช่ของเอสเอพี มาไว้ด้วยกันในที่เดียวและมีความปลอดภัย

ทุกวันนี้องค์กรต่างๆ ต้องเผชิญกับความท้าทายในการเข้าถึงและใช้ข้อมูลที่อยู่คนละระบบและกระจัดกระจาย ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลที่อยู่กับผู้ให้บริการระบบคลาวด์ เวนเดอร์คู่ค้าต่างๆ และข้อมูลภายในองค์กร ลูกค้าต้องคอยดึงข้อมูลจากจุดต่างๆ เพื่อส่งไปยังส่วนกลาง ทำให้ใช้เวลาในช่วงที่ดึงข้อมูลนานเกินความจำเป็น ด้วยวิธีแบบแมนนวลบนโปรเจ็คไอทีที่กำลังดำเนินการอยู่ SAP Datasphere จะเข้ามาช่วยจัดการลบการจัดกลุ่มและแบ่งประเภทของข้อมูล (Data Tax) ที่ซ่อนอยู่ ทำให้ลูกค้าสามารถสร้างสถาปัตยกรรมข้อมูลธุรกิจที่สามารถสกัดข้อมูลที่มีประโยชน์ออกมาใช้ได้อย่างรวดเร็วในบริบททางธุรกิจและตรรกะที่สมบูรณ์

นายเจอร์เกน มูลเลอร์ สมาชิกคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ เอสเอพี กล่าวว่า “87% ของรายได้ที่เกิดจากการค้าทั่วโลกมาจากลูกค้าของเอสเอพี ข้อมูลของเอสเอพี จึงเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ทางธุรกิจที่มีค่าที่สุดของบริษัทและข้อมูลเหล่านั้นยังอยู่ในส่วนต่างๆ ที่สำคัญขององค์กร ตั้งแต่การผลิต ไปจนถึงซัพพลายเชน การเงิน ทรัพยากรบุคคล และอื่นๆ ดังนั้นเราจึงต้องการช่วยให้ลูกค้าสามารถบูรณาการข้อมูลของเอสเอพีและข้อมูลที่ไม่ใช่ของเอสเอพี จากแอปพลิเคชันและแพลตฟอร์มอื่นๆ ได้อย่างง่ายดายและมั่นใจ เพื่อช่วยปลดล็อกข้อมูลเชิงลึกและสรรค์สร้างความรู้ใหม่ๆ ตลอดจนยกระดับการทำ Digital Transformation ให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น”

“จากการทำงานอย่างใกล้ชิดกับลูกค้าในประเทศไทย เราพบว่าการจัดการและการวิเคราะห์ข้อมูลถือเป็นปัจจัยหลักอย่างหนึ่งที่ช่วยให้องค์กรประสบความสำเร็จ” นายเอทูล ทูลิ กรรมการผู้จัดการเอสเอพี อินโดไชน่า กล่าว “เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดของการจัดการข้อมูล วิเคราะห์และนำมาต่อยอดเพื่อช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจ ถือเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับองค์กรต่างๆ ในการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างสะดวกรวดเร็วและแม่นยำ ไม่ว่าข้อมูลนั้นจะเป็นข้อมูลที่จัดเก็บอยู่ภายในองค์กรหรือเป็นข้อมูลที่จัดเก็บอยู่กับผู้ให้บริการระบบคลาวด์ หรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับทุกเวนเดอร์คู่ค้า การประกาศเปิดตัว SAP Datasphere จึงสามารถช่วยให้ลูกค้าในประเทศไทยสามารถปลดล็อกข้อมูลธุรกิจของตนได้ทั่วทั้งระบบข้อมูล การร่วมมือกับพาร์ทเนอร์และกับพันธมิตรของเรายังช่วยจัดการลบการจัดกลุ่มและแบ่งประเภทของข้อมูล (Data Tax) ที่ซ่อนอยู่ที่ และช่วยให้องค์กรต่างๆ ลดความซับซ้อนของข้อมูล ไม่ว่าข้อมูลเหล่านั้นจะอยู่ที่ใดก็ตาม”

SAP Datasphere

SAP Datasphere คือ SAP Data Warehouse Cloud เจเนอเรชั่นใหม่ ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูล (Data Professional) สามารถเข้าถึงข้อมูลทางธุรกิจที่สำคัญได้เต็มสเกล กระจายข้อมูลที่สำคัญของธุรกิจทั่วทั้งองค์กรได้อย่างง่ายดายโดยรักษาบริบททางธุรกิจและตรรกะของข้อมูลไว้ ไม่ว่าจะเป็นการทำ Data Integration, Data Cataloging, Semantic Modeling, Data Warehousing, Data Federation และ Data Virtualization นอกจากนี้ SAP Datasphere ยังถูกพัฒนาบน SAP Business Technology Platform (BTP) จึงมีความสามารถในการรักษาความปลอดภัยระดับองค์กรที่แข็งแกร่ง เช่น ความปลอดภัยของฐานข้อมูล การเข้ารหัส และการกำกับดูแล สำหรับลูกค้า SAP Data Warehouse Cloud จะสามารถใช้ฟังก์ชัน SAP Datasphere ใหม่ได้ในสภาพแวดล้อมเดิมโดยไม่จำเป็นต้องโยกย้ายข้อมูลหรือทำอะไรเพิ่มเติม ฟังก์ชันใหม่ที่เพิ่มขึ้นมา คือ การทำ Data Cataloging ที่ทำให้สามารถค้นหา จัดการ และควบคุมดูแลข้อมูลได้อัตโนมัติ ทำให้การจำลองข้อมูลสำหรับการส่งข้อมูลและการอัปเดตเป็นไปอย่างต่อเนื่องแบบเรียลไทม์ ขณะที่ การทำ Data Modeling ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นโดยสามารถสามารถรักษาบริบททางธุรกิจที่หลากหลายของข้อมูลในแอปพลิเคชันต่างๆ ของเอสเอพีได้ และยังมีความสามารถในการรวมแอปพลิเคชันที่เชื่อมโยงข้อมูลและข้อมูลเมตาจากแอปพลิเคชันคลาวด์เอสเอพีไปยัง SAP Datasphere

Messer Americas บริษัทก๊าซอุตสาหกรรมและการแพทย์ชั้นนำในอเมริกาเหนือและใต้ เพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูลเอสเอพีและข้อมูลที่ไม่ใช่ของเอสเอพีภายในบริษัทเพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการตัดสินใจ โดยใช้ข้อมูลเป็นตัวขับเคลื่อน ลดการใช้ทรัพยากรด้านไอทีและมุ่งเน้นไปที่งานเชิงกลยุทธ์อื่นๆ ด้วย SAP Datasphere ทำให้ Messer Americas สามารถสร้างสถาปัตยกรรมข้อมูลสมัยใหม่ที่รักษาบริบทของข้อมูลองค์กรได้

นายเดวิด จอห์นสตัน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูลของ Messer Americas กล่าวว่า “SAP Datasphere ทำให้ภูมิทัศน์ข้อมูลขององค์กรเราเข้าถึงได้ง่ายดาย ทำให้เรามีความมั่นใจในข้อมูลที่เรากำลังทำงานด้วยทุกวันมากขึ้นและจะช่วยให้เราสามารถตอบสนองความต้องการของธุรกิจได้ดีกว่าที่เคย โดยเราสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในด้านอุปสงค์และอุปทานได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้การจัดการสินค้าคงคลัง การบริการลูกค้า และระบบซัพพลายเชนมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น”

 

เสริมแกร่งบริการด้วยความร่วมมือเชิงกลยุทธ์

เอสเอพีและเหล่าองค์กรพันธมิตรด้านข้อมูลรายใหม่พร้อมช่วยให้ผู้ใช้หลายร้อยล้านคนทั่วโลกทำการตัดสินใจที่สำคัญทางธุรกิจโดยมีรากฐานมาจากข้อมูลจำนวนมหาศาล โดยพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ของเอสเอพีมีจุดแข็งที่ไม่เหมือนใครในระบบนิเวศและช่วยให้ลูกค้าสามารถรวมข้อมูลทั้งหมดของพวกเขาได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

นายแดน เวสเซ็ท รองประธานฝ่ายวิจัยข้อมูลและการวิเคราะห์ตลาดของ IDC กล่าวว่า “ทุกคนต้องการเข้าถึงข้อมูลบนระบบของ เอสเอพี ดังนั้นการจับมือเป็นพันธมิตรกับซัพพลายเออร์ด้านเทคโนโลยีจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการเดิน
กลยุทธ์เพื่อให้การจัดการข้อมูลมีความครอบคลุมที่สุด ทุกวันนี้องค์กรต่างๆ ต่างใช้ระบบมัลติคลาวด์ ซึ่งใช้งานผู้ให้บริการหลายราย รวมถึงมีข้อมูลที่อยู่ภายนอกและภายในองค์กร เอสเอพี กำลังใช้แนวทางใหม่โดยร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตรชั้นนำเพื่อจัดการข้อมูลให้ครอบคลุมในทุกมิติเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น”

ทัพองค์กรพันธมิตรใหม่ของ เอสเอพี ประกอบด้วย

  • Collibra จะผสานความร่วมกับเอสเอพี ช่วยให้ลูกค้าสามารถบรรลุกลยุทธ์การกำกับดูแลองค์กรผ่านการสร้าง
    แคตตาล็อกข้อมูลที่สมบูรณ์ เชื่อถือได้ พร้อมการมองเห็นภาพรวมข้อมูลทั้งหมด ทั้งข้อมูลของ เอสเอพีและ ไม่ใช่ของ เอสเอพี
  • Confluent จะเชื่อมต่อแพลตฟอร์มการสตรีมข้อมูล ช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถปลดล็อกข้อมูลทางธุรกิจที่มีคุณค่าและเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันภายนอกได้แบบเรียลไทม์ โซลูชันบนระบบคลาวด์ของ Confluent ถือเป็นแพลตฟอร์มพื้นฐานสำหรับข้อมูลที่มีการอัปเดตตลอดเวลา ซึ่งทำให้เกิดการไหลเวียนของข้อมูลโดยไม่จำกัดจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ทั่วทั้งองค์กรแบบเรียลไทม์
  • ลูกค้า Databricks สามารถผสานรวม Data Lakehouse เข้ากับเอสเอพี เพื่อให้สามารถแชร์ข้อมูลกับ Semantics ได้ ช่วยให้ลูกค้าลดความซับซ้อนของภูมิทัศน์ข้อมูล
  • DataRobot ช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้แมชชีนเลิร์นนิ่งอัตโนมัติหลายรูปแบบบน SAP Datasphere ได้และผสานเข้ากับโครงสร้างข้อมูลธุรกิจโดยตรงไม่ว่าจะอยู่บนแพลตฟอร์มคลาวด์ใดก็ตาม

เยี่ยมชมบล็อกประกาศของเอสเอพี และติดตามเอสเอพี บน Twitter ได้ที่ @SAPNews

เกี่ยวกับ เอสเอพี (SAP)         

ในฐานะบริษัทที่ช่วยพลิกโฉมองค์กรลูกค้าสู่ Intelligent, Sustainable Enterprise เอสเอพี เป็นผู้นำตลาดซอฟต์แวร์แอปพลิเคชั่นระดับองค์กร ที่ได้ช่วยเหลือองค์กรขนาดต่างๆในทุกอุตสาหกรรมให้สามารถทำงานได้ดีขึ้น โดย 87% ของรายได้จากการทำธุรกรรมของโลกนั้นเกิดขึ้นบนระบบของเอสเอพี นอกจากนี้เทคโนโลยีแมชชีน เลิร์นนิ่ง อินเตอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ (IoT) และเทคโนโลยีการวิเคราะห์ขั้นสูงของเอสเอพี ช่วยเปลี่ยนธุรกิจของลูกค้าให้เป็นอินเทลลิเจนท์ เอ็นเตอร์ไพรซ์ เอสเอพีช่วยให้ผู้คนและองค์กรเข้าใจในธุรกิจอย่างลึกซึ้ง รวมถึงส่งเสริมการทำงานร่วมกันเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันทางธุรกิจ เราลดความซับซ้อนของเทคโนโลยีเพื่อให้องค์กรต่างๆ สามารถใช้ซอฟต์แวร์ของเราได้อย่างที่ต้องการและต่อเนื่อง ชุดแอปพลิเคชันและบริการครบวงจรของเอสเอพี ช่วยให้ลูกค้าธุรกิจและภาครัฐกว่า 25 อุตสาหกรรมทั่วโลก สามารถทำกำไร ปรับตัว และสร้างความแตกต่างได้ ด้วยเครือข่ายลูกค้าพาร์ทเนอร์ พนักงาน และผู้นำทางความคิดที่มีอยู่ทั่วโลก เอสเอพีช่วยให้โลกดำเนินงานได้ดีขึ้นและปรับปรุงชีวิตของผู้คน ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.sap.com



ถูกใจบทความนี้  0