บอกเล่า เก้าสิบ – Honor Magic 6 Pro

 

ได้มีโอกาสจับเอาเจ้า Honor Magic 6 Pro เลยมาเล่าสู่กันฟังเช่นเคยครับ กับเครื่องเรือธงต้นปีของทาง Honor ที่เรียกว่าเป็นที่สุดขอคะแนนใน DXOMark ในแทบจะทุกด้าน แน่นอนว่าตัวเลขก็การันตีได้ในระดับนึง แต่คราวนี้ก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานจริงล่ะ ว่าจะยังไง กับค่ายของ Honor ที่ยังการันตีเรื่องการใช้งานผ่าน Googole Service ได้ครบถ้วน และที่สำคัญเรื่องกล้อง เค้าชูจุดเด่น ทั้งเรื่อง AI และ การถ่ายภาพที่เรียกว่าจะไม่พลาดช๊อตเด็ด ฉากสำคัญ และภาพที่เราอาจจะไม่เคยเห็นมาก่อน กับแบตที่อึดพร้อม หน้าจอที่เป็นมิตรหรือถนอมสายตาอีกด้วย ซึ่งเรียกว่าเป็นเทคโนโลยีที่เราต้องใช้กันจริงจัง ในปัจจุบัน ว่าแล้วก็มาดูรายละเอียดของเจ้า Honor Magic 6 Pro กันดีกว่า

 

สเปคเบื้องต้นของ Honor Magic 6 Pro

  • ชิปเซ็ต:  Snapdragon 8 Gen3 | :GPU Adreno 750
  • หน่วยความจำ: 12GB+512GB |
  • หน้าจอ:  6.8” ความละเอียด : 1280×2800 | OLED Refresh rate 120 Hz | HDR Bright 5000 nits |Full Bright 1600 nits
  • ขนาด: 162.5×75.8×8.9 มม. 225 กรัม
  • แบตเตอรี่ 5,600mAh   Honor 80W SuperCharge |Wireless Charge 66W
  • กล้องถ่ายภาพ: 50MP f/2.0 | 180MP f/2.6 +50MP f/1.4-f2/.0 +50MP f/2.0
  • การเชื่อมต่อ: Wi-Fi 5/Wi-Fi 4/802.11a/b/g/n/ac/ax/be | Bluetooth 5.3 | USB Type-C 
  • ระบบปฏิบัติการ: MagicOS 8.0| Android 14
  • อินเทอร์เน็ต2G / 3G / 4G /5G
  • ซิมNano SIM +Nano SIM/eSIM
  • อื่นๆ: IP68 | ลำโพงคู่ | 
  • ราคา | 12+512GB 34,990 บาท 

สเปคเต็มๆ Honor Magic 6 Pro

ด้านการออกแบบ Honor Magic 6 Pro

 

สำหรับ ดีไซน์ สวยงาม มาพร้อมกับฝาหลังแบบสีดำ เข้มๆ กับสีเขียวอ่อน แต่มีลายเท็กเจอร์ด้านหลัง ดูสวยหรูไปอีกแบบ ซึ่งสีเขียวอ่อนๆ ก็ดูเบา สบาย เป็นธรรมชาติดี ความรู้สึกเวลาได้จับตัวฝาหลังจะรู้สึกว่าไม่ได้ลื่นมือ จับถนัดมือ และมีฟีลลิ่งของเท็กเจอร์ปนมาด้วย แน่นอนว่า ตัวเครื่อง ไม่ได้บาง และมีน้ำหนักอยู่ประมาณนึง ซึ่งเข้าใจว่ามาจากตัว chassis กล้อง ที่ให้ความละเอียดสูงเรียกว่าทุกตัว และให้ความสามารถจัดเต็มมา

หน้าจอเอง ก็ออกแบบมาถนอมสายตา และแน่นอนว่ากันรอยขีดข่วนและแรงกระแทกได้ในระดับที่ไว้ใจได้ คือถ้าตกหล่นก็พอมั่นใจได้ว่าออกแบบมาเพื่อรับแรงกระแทกอย่างแท้จริง ตอนได้ลองก็มีตกระดับเอวไป แต่ก็แปลกใจเหมือนกันที่หน้าจอแบบว่ายังอยู่ดี ก็นับว่าเป็นเอกลักษณ์ของรุ่นเรือธงของ Honor ก็ว่าได้ล่ะนะ  หน้าจอก็เป็น OLED สดใส แสดงสีได้ 1.07 พันล้านสี คือได้สีสันที่ถูกตาถูกใจ เก็บรายละเอียดได้ครบๆ นั่นล่ะครับ ซึ่งเอาจริงๆ ผมก็แยกไม่ค่อยออกนะ แต่ภาพที่ถ่ายออกมาและสีที่เกลี่ยออกมา ก็ต้องไปดูในหน้าจอกันจริงๆ อีกทีนึง สิ่งที่ Honor ยังให้มากับเรือธงคือหน้าจอโค้ง ซึ่งในการพิมพ์มักจะมีปัญหาแต่ทว่าเค้าแก้ด้วยการให้คีย์บอร์ดมาใหญ่จนทำให้ หน้าจอโค้งไม่ได้มีผลกับการใช้งานนั่นเอง คือใช้งานได้ปกติ ซึ่งผมก็เข้าใจว่าในยุคนี้ จอโค้งก็ถูกแก้ไขเรื่องการใช้งานการพิมพ์ต่างๆ มาได้แล้วระดับนึงล่ะ

แน่นอนว่า เค้ามาพร้อมกับสเปคที่ อัดแน่นเรือธงอย่าง Snapdragon 8 Gen3 ด้านการใช้งานทั่วไปผมว่าสบายๆ เลยล่ะ ด้วย RAM ที่อัดมาให้ด้วย และระบบโดยรวมของ Honor เองที่ออกแบบมาอย่างดี แต่ก็คล้ายกับเรือธงของทุกค่าย หากมีการถ่ายวีดีโอ ยิ่งความละเอียดสูงๆ เป็นเวลานาน ก็เริ่มมีความร้อนสะสม ก็พอสมควรเลยทีเดียว แน่นอนว่า Honor Magic 6 Pro เองก็ไม่เว้น แต่การบริหารแบตเตอรี่ ก็ถือว่ายังดีนะครับ ไม่ได้ลดฮวบ และมีเรื่องของชาร์จไว 80W มาให้ พร้อมแบตที่อัดมาเต็ม 5600 mAh เรียกว่าใหญ่สุดๆ ในบรรดาเรือธงทั้งหลายแล้ว และเสริมด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่อย่าง Silicon Carbon เจนที่ 2 ที่ช่วยเรื่องอุณหภูมิด้วยล่ะ ไม่แค่นั้น เค้ามี chipset HONOR E1 ที่มาช่วยควบคุมการใช้งานแบตเตอรี่อีกทีนึงด้วย เรียกว่า เสริมการทำงานกันอย่างลงตัว ทำให้การใช้งานโดยรวมลื่น และความร้อนไม่มาก แม้เล่นเกม ถ้าไม่ได้ความละเอียดสูงมากนัก คือมัลติมีเดียนี่ ไว้ใจได้ ใช้งานกันไปยาวๆ

เรื่องของกล้อง Honor Magic 6 Pro

รุ่นนี้คือเน้นกล้อง AI มาช่วยในการถ่ายภาพ และแน่นอนว่ามีกล้อง periscope นั่นล่ะครับที่จัดให้ 180 ล้านพิกเซล ก็สมกับความเป็นเรือธง ส่วนเลนส์มุมกว้างทั้งสองเลนส์ ก็ช่วยให้ระยะต่างๆ ครบ กับความละเอียด 50 ล้านพิกเซล กล้องหน้าก็ 50 ล้านพิกเซลเช่นกัน ไม่ต่างจากกล้องหลังเลย ยังไงก็ไปชมภาพถ่ายตัวอย่างกันได้

ที่รู้สึกได้คือ เอามาใช้แคปเจอร์โมชั่น จังหวะที่เป็นเรื่องของกีฬาคือ ใช้ได้จริง ภาพก็มีไหวบ้างตามจังหวะ ไม่ได้ชัดเป๊ะ แต่ผมว่าถือว่าน่าพอใจเลยทีเดียว ได้จังหวะดีๆ ที่ไม่คิดว่าจะได้เพียบเลย เรื่องกล้องนี่ให้ผ่าน AI ทำงานได้ดีตามที่เค้าคุยไว้

มาดูภาพตัวอย่างกัน

 

สรุปการใช้งาน Honor Magic 6 Pro

เอาจริงๆ เรือธง คือใช้งานได้ดีอยู่แล้ว สเปคจัดเต็ม จะมีก็เรื่องความร้อนตอนถ่ายวีดีโอนานๆ ซึ่งก็เป็นกันหมดนั่นล่ะ แต่ทว่าแบตเตอรี่กับความร้อนที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้มากเหมือนที่คิด และแบตก็อึดอีกด้วย ก็สมแล้วที่เค้าได้ DXOMark 5 เหรียญทอง และใช้งานจริงก็ถือว่าผ่านล่ะครับ แต่ทว่าน้ำหนักก็อาจจะรู้สึกได้ว่าหนักไปสักนิดนึงล่ะนะ แค่นั้นเอง ก็จะเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่เรียกว่ามีความเป็นเรือธงที่สมค่าตัวที่เสียไป แน่นอนใครพรีออเดอร์ในช่วงแรกก็ถือว่าคุ้มอยู่ แต่ถ้าช่วงนี้ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ถือว่าใช้ได้อยู่นะ

ขอบคุณ Honor Thailand ที่สนับสนุนเครื่องทดสอบ

ถูกใจบทความนี้  0