บอกเล่า เก้าสิบ – ROG Ally X

วันนี้ขอจับเอา อุปกรณ์สายเกมอย่าง ROG Ally X มาฝากกันครับ จากค่าย ASUS ได้จับเอา ROG มาต่อยอดสายเกมมิ่ง จากโน๊ตบุ๊ค และแน่นอนว่าสายเล่นเกมต้องชอบ กับการอัปเดตของ ROG ในปีนี้ ซึ่งต่อยอดจาก ROG Ally เมื่อปีก่อนนั่นเอง ซึ่งสเปคต่างๆ ก็จัดเต็มขึ้น หน้าจอ ตัวเครื่องมีควาใหญ่ เต็มตา เต็มใจ เล่นสนุกมากขึ้น และแน่นอนว่า ใช้งานได้ยาวนานขึ้นด้วย นั่นทำให้ สายเล่นเกมพกพา ที่ปกติบรรดาเกมบน PC จะต้องอยู่กับที่ แต่งานนี้แค่มี ROG Ally X ก็ไประเบิดความสนุกได้ทุกที่เลยล่ะ

 

สำหรับเจ้า ROG Ally X เรียกได้ว่าเป็นรุ่นอัปเดต หรืออัปเกรดจาก ROG Ally รุ่นแรก ที่เล่นได้ยาวนานมากขึ้น  ชุมพลังจะยังอยู่กับค่าย AMD อย่าง Ryzen Z1 Extreme  ในการขับเคลื่อนเจ้า ROG Ally X รุ่นนี้ พร้อม GPU ที่ไม่น้อยหน้าใคร RDNA3 เอามาใช้งานกันจนสุดได้เลยกับเกมต่างๆ ที่มีทั้งบน Steam, Xbox Game Pass, Epic ค่ายเกมต่างๆ ก็รองรับทั้งหมด

สเปค ROG Ally X ตามนี้เลยครับ

CPU: AMD Ryzen™ Z1 Extreme , (“Zen4” architecture with 4nm process, 8-core /16-threads, 24MB total cache, up to 5.10 Ghz boost)
GPU: AMD Radeon™ Graphics (AMD RDNA™ 3, 12 CUs, up to 2.7 GHz, up to 8.6 Teraflops)
Display: 7-inch Full HD (1920 x 1080), 120 Hz,Response Time:7ms,  500 nits, IPS-level ,100% sRGB, FreeSync™ Premium, Gorilla® Glass Victus™, 10-point Touchscreen, FreeSync Premium
Memory: 24GB (LPDDR5X-7500z) dual channel 6GBx4 on board memory (iGPU memory configurable from 2 – 8 GB)
Storage:1TB PCIe® 4.0 NVMe™ M.2 SSD (2280)
Wi-Fi/Bluetooth: Wi-Fi 6E(802.11ax) (Triple band) 2*2 + Bluetooth® 5.2 (*Bluetooth® version may change with OS version different.)
Ports I/O:  1x 3.5mm Combo Audio Jack, 1x USB 3.2 Gen 2 Type-C support DisplayPort™ / power delivery, 1x Type C support USB 4 (Thunderbolt™ 4 compliance, DisplayPort™ 1.4 with Freesync support, Power Delivery 3.0), 1x UHS-II microSD card reader (supports SD, SDXC and SDHC)
Audio:  AI noise-canceling technology, Hi-Res certification (for headphone), Smart Amp Technology, Dolby Atmos, Built-in array microphone, 2-speaker system with Smart Amplifier Technology
Weight: 678g
Dimension : 28.0 x 11.1 x 2.47 ~ 3.69 cm
Battery : 80Whrs, 4 Cell- Li-ion
ราคา : 29,990 บาท

อ้างอิงสเปคจาก ROG.asus.com

มาดูการออกแบบตัวเครื่อง ROG Ally X

แน่นอนว่าการออกแบบมาในครั้งนี้ มีหน้าจอขนาด 7 นิ้ว ที่ความละเอียด Ful HD ซึ่งรองรับการใช้งานหรือการเล่นเกมได้ครบถ้วน ซึ่งรองรับ refresh rate ได้ถึง 120 Hz ก็เรียกว่าเกมโดยรวมเล่นได้ครบๆ ล่ะ เนียนตา สมูท สนุกแน่นอน รวมถึงปุ่มกดต่างๆ เหมือนจอยเกมคอนโซล ส่วนปุ่มความคุมทิศทาง D-Pad ก็มาตรฐาน และตัวคอนโทรล analog ที่ให้มาทั้งด้านซ้ายและด้านขวา รองรับการเล่นเกมได้ทุกแนว

โดยรวมแล้วหากติดตามหรือเคยใช้งาน ROG Ally มาก่อน การวางปุ่มต่างๆ ก็ยังเหมือนเดิม รวมถึงปุ่ม ROG Armoury Crate  ที่เรียกเมนูขึ้นมาเพื่อปรับแต่งความแรง การใช้งานของตัวเครื่องได้อย่างรวดเร็ว


แน่นอนว่าเรื่องพอร์ทการเชื่อมต่อ ก็ให้ USB-C มา 2 พอร์ท รองรับ PD charge ซึ่งตัว Adapter ที่ให้มาก็รองรับ 65W และจากที่ลองคือสามารถใช้ที่ชาร์จของ Smartphone ที่มีกำลังวัตถ์สูงกว่าได้  ซึ่งส่วนตัวแล้วไม่สะดวกที่จะพกของ ROG ติดตัวไปเนื่องจากเรื่องขนาด ก็ใช้งานแทนได้สบายๆ


ลำโพงคู่ที่ให้มาก็มีคุณภาพที่ดี เสียงสเตอริโอ มีมิติ และทำให้เล่นเกมได้สนุกด้วย  หรืออีกทางเลือก มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. อันนี้ผมว่าดีเลย เพราะยังไงซะ ก็ยังเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเล่นเกม และไม่รบกวนคนรอบข้าง


แน่นอนว่าสเปคและความจุในตัวเครื่องนี่ให้มาเต็มที่ 1TB อันนี้สบายหายห่วง แต่ก็ยังใส่เมมโมรี่เพิ่มได้อีกหากไม่พอผ่าน micro SD Card อันนี้ผมว่าเค้าก็ออกแบบมารองรับเต็มที่เหมือนกัน

การทดสอบเล่นเกม


เล่นเกมจริงๆ ก็ไหลลื่น หากกราฟิคแบบภาพสวยๆ หรือหนักๆ ช่วงแรกๆ จะยังปกติแต่ถ้าเริ่มมีความร้อนก็อาจจะมีบางช่วงที่มีไม่สมูทบ้าง ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของการเล่นเกม ซึ่งหากแนะนำคือให้ปรับกราฟิคลงมาให้เหมาะสมในแต่ละเกมที่เราเล่น ก็จะยืดอายุการเล่นไปได้รวมถึงการเล่นก็จะสมูทขึ้น และหากไม่ได้เสียบสายชาร์จเล่นก็อย่าลืมปรับเป็น Turbo mode เพื่อที่จะช่วยให้เล่นเกมได้ลื่นไหลนะครับ ถ้าไปเปิดพวกโหมดอื่นๆ อันนี้เกิดการกระตุกก็ไม่แปลกอะไรนะ

สรุปการใช้งาน ROG Ally X

ก็คงไม่ต้องบอกอะไรมากครับ นอกจากว่า หากคุณเล่นเกมบน PC โดยเฉพาะบน  Steam, XBox Game Pass, Epic Game และอื่นๆ ก็สามารถเอาเจ้า ROG Ally X ติดตัวไปเล่นที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องนั่งอยู่กับสถานที่ ที่ต้องมีปลั๊ก หรืออยู่กับคอมตัวใหญ่อีกต่อไป ซึ่งเรื่องการใช้งาน ความร้อน ก็มีบ้างตามปกติ ซึ่งก็มีระบบระบายความร้อนที่ออกแบบมารองรับอยู่แล้ว หากเล่นเกมก็แนะนำเปิดโหมด Turbo ซึ่งจะทำให้เกมลื่นไหล เหมือนเล่นบน PC ผนวกกับปุ่มกด และการควบคุมที่ออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ อันนี้คือเหมาะมาก  และเล่นกันไปยาวๆ 2 ชั่วโมงขึ้นไปได้เลย ในอีกมุมนึงอาจจะช่วยเรื่องการทำงานเอกสารหรือเก็บข้อมูลได้ด้วย เพราะก็มองว่าเป็น Mobile PC พกพาไปไหนต่อไหนได้สะดวก

ขอบคุณ ASUS ที่สนับสนุนอุปกรณ์ทดสอบ

ถูกใจบทความนี้  0