The post เผยกำหนดการเปิดตัว vivo X Fold 3 เป็นช่วงปลายเดือนนี้ first appeared on PDAMobiz.
]]>จากภาพโปรโมทข้างต้นในประเทศจีนนั้นได้เปิดเผยชัดเจนว่า vivo X Fold 3 ว่าที่สมาร์ตโฟนหน้าจอพับได้รุ่นใหม่นั้นจะเปิดตัวในวันที่ 26 มีนาคม เวลา 19.00น. (ตามเวลาในประเทศจีน) ซึ่งคาดการณ์ไว้ว่าจะมีด้วยกันสองรุ่นประกอบไปด้วย X Fold 3 ที่อาจใช้งานหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3 มีแบตเตอรี่ 5,500mAah และ X Fold 3 Pro ที่ใช้งานหน่วยประมวลผล Snapdragon 8 Gen 3 มีแบตเตอรี่ 5,800mAh โดยทั้งสองรุ่นจะผ่านมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IPX8 ด้วยและมีหน้าจอด้านในขนาด 8.03 นิ้ว / ด้านนอก 6.53 นิ้ว มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือทุกหน้าจอแบบ Ultrasonic, ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Android 14 และรุ่นโปรอาจมีเลนส์ Telephoto เพิ่มเข้ามา
นอกจากนี้ยังมีผลการทดสอบประสิทธิภาพ Benchmark Geekbench ออกมาในรหัส V2303A ที่คาดว่าเป็นรุ่น X Fold 3 ไม่โปร ยืนยันใช้ Snapdragon 8 Gen 2 ทำงานร่วมกับ RAM 16GB ทำคะแนน Single Core ไปได้ 2008 คะแนน และ Multi-Core ไปได้ 5490 คะแนน เท่ากับว่าข่าวลือเรื่องหน่วยประมวลผลคงไม่หนีไปจากนี้แล้ว ยกเว้นเรื่องของรุ่นโปรที่ยังไม่มีผลการทดสอบหลุดออกมา
The post เผยกำหนดการเปิดตัว vivo X Fold 3 เป็นช่วงปลายเดือนนี้ first appeared on PDAMobiz.
]]>The post ลือ Meizu 21x มาพร้อม Snapdragon AI แบตเตอรี่ 5,500mAh first appeared on PDAMobiz.
]]>หน่วยงาน China 3C ได้รับรองสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ของ Meizu เปิดเผยความจุแบตเตอรี่ว่าอยู่ที่ 5,400mAh (ซึ่งสเปคขายน่าจะเคลมว่า 5,500mAh) ซึ่งแบตเตอรี่รุ่นนี้มีความจุมากกว่าทุกรุ่นในแบรนด์เลยก็ว่าได้
รหัสของสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่นั้นคือ BA468 ซึ่งทาง Digital Chat Station ได้กล่าวถึงว่ารุ่นนี้นั้นจะรองรับการชาร์จไฟเข้าด้วยชาร์จเจอร์รหัส UP2033 ซึ่งมีกำลังอัดได้สูงสุด 66W
นอกจากนี้ยังมีการลือว่า Meizu 21x นั้นจะใช้หน้าจอแบบเรียบขอบไม่โค้ง โดยจะเป็นสมาร์ตโฟนในกลุ่ม mid-range ที่มาพร้อม Snapdragon AI ซึ่งเราเคยได้เห็นข่าวลือเรื่องดังกล่าวบน Snapdargon 8s Gen 2 แต่ด้วยกลุ่มของสมาร์ตโฟนดังนั้นหน่วยประมวลผลน่าจะต้องต่ำกว่า Snapdragon 8 Series ดังนั้นมีความเป็นไปได้ว่าอาจใช้งาน Snapdragon 7s Gen 2 หรือ Snapdragon 7 Gen 3 แทนซึ่งมีประสิทธิภาพ AI ดีกว่า Snapdragon 7 Gen 1 พอสมควร
นอกจากนี้ยังมีข่าวลือก่อนหน้านี้ด้วยว่า Meizu อยู่ระหว่างการผนวกซอฟต์แวร์ของตนเข้ากับรถยนต์ไฟฟ้า Geely รวมถึงอาจมี Meizu DreamCarMX ออกมาให้เห็นในไตรมาสแรกปีนี้
The post ลือ Meizu 21x มาพร้อม Snapdragon AI แบตเตอรี่ 5,500mAh first appeared on PDAMobiz.
]]>The post เผยข้อมูลแบตเตอรี่และการชาร์จไฟของ Realme C67 จากการรับรอง first appeared on PDAMobiz.
]]>Realme C65 มีแบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh (ตามสเปคแต่ในการทดสอบจริงพบว่ามีแบตเตอรี่ 4,880mAh) ซึ่งในปัจจุบันความจุแบตเตอรี่ดังกล่าวไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรแล้ว และรุ่นนี้รองรับการชาร์จไฟเข้าได้แรง 45W SuperVOOC ผ่านทางสายซึ่งถือเป็นฟีเจอร์ที่โดดเด่นมากสำหรับสมาร์ตโฟนในกลุ่มนี้
เดิม C65 นั้นมาในรหัส RMX 3910 ซึ่งรองรับการใช้งานเครือข่าย 4G ไม่รองรับ 5G แต่ในปีนี้อาจจะคาดหวังให้รุ่นใหม่นั้นรองรับ 5G ได้จากการที่หน่วยประมวลผลเริ่มปรับราคาลดลง และแน่นอนว่ารุ่นใหม่อย่าง C67 นั้นมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 14 ที่จะมีสกินของ Realme UI ในการใช้งาน
C67 มีขนาดตัวเครื่องที่ 165.66 x 76.1 x 7.64 มิลลิเมตร น้ำหนัก 185 กรัม โดยจะมีกล้องหลังตัวหลักที่มีค่ารูรับแสง f/1.8 ซึ่งอาจจะมีความละเอียดที่ 50 ล้านพิกเซล ส่วนรายละเอียดอื่นๆ คาดว่าจะตามมาในไม่ช้านี้
The post เผยข้อมูลแบตเตอรี่และการชาร์จไฟของ Realme C67 จากการรับรอง first appeared on PDAMobiz.
]]>The post Moto G (2024) เปิดตัวด้วย Snapdragon 4 Gen 1 first appeared on PDAMobiz.
]]>หน้าจอรุ่นนี้ก็เป็นแบบ LCD เช่นเดียวกันโดยมีขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด HD+ 120Hz refresh rate โดยที่กล้องรุ่นนี้ไม่ได้เปลี่ยนไปจากรุ่นก่อนหน้านี้คือด้านหลังมีเซ็นเซอร์กล้องหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ทำงานร่วมกับกล้อง Macro อีกตัว ส่วนด้านหน้ามีกล้องสำหรับเซลฟี่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
แบตเตอรี่รุ่นนี้ให้มา 5,000mAh รองรับการชาร์จไฟเข้าผ่านสายแรง 18W ไม่รองรับการชาร์จไร้สาย (แรงขึ้นกว่ารุ่นก่อนเล็กน้อยที่อัดได้ 15W)
สำหรับการจำหน่ายตัวเครื่องนั้นจะจำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกาผ่านหลายช่องทางทั้ง T-Mobile, Metro MVNOs: Cricket, AT&T, Boost Infinite, Boost Mobile, Verizon, Xfinity Mobile, US cellular, Consumer Cellular, Google Fi, Optimum Mobile, Cox Mobile, Straight Talk, Total, Simple Mobile, Tracfone, Walmart Family Mobile และ Visible โดยเปิดค่าตัวที่ USD200 หรือประมาณ 7,200 บาท
The post Moto G (2024) เปิดตัวด้วย Snapdragon 4 Gen 1 first appeared on PDAMobiz.
]]>The post Moto G Power 5G (2024) เปิดตัวด้วยขุมพลัง Dimensity 7020 first appeared on PDAMobiz.
]]>Moto G Power 5G (2024) มีหน้าจอแบบ IPS LCD ขนาด 6.7 นิ้ว (ใหญ่ขึ้นว่ารุ่นก่อนหน้า 0.2 นิ้ว) โดยมีความละเอียดหน้าจอ Full HD+ 120Hz refresh rate, รุ่นนี้มีลำโพงสเตอริโอให้มาพร้อม Dolby Atmos และมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรให้มาด้วย
กล้องรุ่นนี้ถูกปรับปรุงมาอย่างมากโดยมีกล้องหลังตัวหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล พร้อมระบบกันภาพสั่นไหว (OIS) ทำงานร่วมกับกล้อง Ultrawide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มุมมองกว้าง 118 องศาซึ่งสามารถใช้งานถ่ายภาพ Macro ได้ ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
หน่วยประมวลผลใช้งาน Dimensity 7020 (จากรุ่นก่อน Dimensity 930) ทำงานร่วมกับ RAM 8GB รองรับ Virtual RAM อีก 8GB และมีหน่วยความจำภายในตัวเครื่องแบบ UFS 2.2 ความจุ 128GB
แบตเตอรี่ใส่มา 5,000mAh รองรับการชาร์จไฟเข้าได้ทั้งผ่านสายด้วยกำลัง 30W และไร้สายแรง 15W ซึ่งถือเป็นรุ่นแรกใน Moto G Series ที่สามารถชาร์จไฟไร้สายได้
ฟีเจอร์อื่นๆ ที่เพิ่มมาคือการรองรับการใช้งาน NFC และไม่ได้ผ่านมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นใดๆ ส่วนระบบปฏิบัติการนั้นใช้เป็น Android 14 โดยรุ่นนี้มีราคาค่าตัวที่ $300 หรือประมาณ 10,900 บาท
The post Moto G Power 5G (2024) เปิดตัวด้วยขุมพลัง Dimensity 7020 first appeared on PDAMobiz.
]]>The post vivo Y03 รุ่นเล็กราคาประหยัดขุมพลัง Helio G85 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ first appeared on PDAMobiz.
]]>vivo Y03 ทำงานด้วยหน่วยประมวลผล MediaTek Helio G85 ซึ่งจะไม่รองรับการใช้งานเครือข่าย 5G โดยจับคู่กับ LPDDR4x RAM 4GB และมีทางเลือกหน่วยความจำตัวเครื่องแบบ eMMC 5.1 ความจุ 64 / 128GB รองรับการใช้งาน RAM Extension อีก 4GB
หน้าจอมาในแบบ LCD ขนาดหน้าจอ 6.56 นิ้ว ความละเอียด 720×1612 พิกเซล 90Hz refresh rate ดีไซน์ติ่งหยดน้ำมีกล้องหน้าสำหรับเซลฟี่ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
ด้านหลังรุ่นนี้ไม่มีแผงกล้องแต่มีกล้องหลังทั้งหมดสองตัวด้วยกันประกอบไปด้วยกล้องตัวหลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ทำงานร่วมกับกล้อง QVGA, แบตเตอรี่ให้มา 5,000mAh รองรับการชาร์จไฟเข้าแรงสุด 15W ผ่านทางสาย
ระบบปฏิบัติการเลือกใช้งาน Funtouch OS 14 ที่มีพื้นฐานบนแอนดรอยด์เวอร์ชั่น 14 นอกจากนี้ยังผ่านมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP54 ซึ่งสามารถกันน้ำกระเซ็นหรือน้ำฝนได้อีกด้วย (ลงน้ำไม่ได้)
สีสันมีให้เลือกด้วยกันสองสีได้แก่ สีดำ Space Black และสีเขียว Gem Green โดยมีค่าตัวเริ่มต้นที่ IDR1,299,000 หรือประมาณ 2,990 บาท สำหรับ 4/64GB และ INR1,499,000 หรือประมาณ 3,450 บาท สำหรับ 4/128GB
The post vivo Y03 รุ่นเล็กราคาประหยัดขุมพลัง Helio G85 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ first appeared on PDAMobiz.
]]>The post Poco X6 Neo เปิดตัวด้วยดีไซน์คุ้นตา มีกล้องหลัง 108 ล้านพิกเซล first appeared on PDAMobiz.
]]>รุ่นนี้มาพร้อมหน่วยประมวลผลที่รองรับการใช้งานเครือข่าย 5G กับ Dimensity 6080 ทำงานร่วมกับ RAM 8GB และมีหน่วยความจำตัวเครื่อง 128GB หรืออีกทางเลือกเป็น RAM/Storage 12/256GB โดยมีหน้าจอ OLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ 120Hz refresh rate ดีไซน์ Punch-hole มีกล้องหน้าหนึ่งตัวความละเอียด 16 ล้านพิกเซล โดยเคลมว่าหน้าจอนี้มีอัตราส่วนต่อพื้นที่ด้านหน้าถึง 93.3%
ด้านหลังมีแผงกล้องขนาดใหญ่ที่มีกล้องตัวหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซล ทำงานร่วมกับ Depth Sensor ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
เป็นเรื่องน่าเสียดายที่รุ่นนี้มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 13 ซึ่งน่าแปลกเพราะก่อนหน้านี้อย่าง Poco X6 Pro เองยังมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 14 (HyperOS) เลย ซึ่งกลายเป็นว่าต้องมารออัพเดทกันอีกครั้งหนึ่ง
แบตเตอรี่ให้มา 5,000mAh รองรับการชาร์จไฟเข้าผ่านสายแรง 33W, ด้านล่างมีลำโพงตัวเครื่องให้มาหนึ่งตัว โดยลำโพงตรงหูที่ไว้สนทนาไม่สามารถใช้เป็นลำโพงคู่ในการขับเสียงได้ ซึ่งน่าเสียดายเช่นกัน
สีสันให้เลือกได้แก่ สีดำ สีเขียว และสีทอง โดยมีค่าตัวเริ่มต้น INR15,999 หรือประมาณ 6,990 บาท สำหรับ 8/128GB และ INR17,999 หรือประมาณ 7,800 บาท สำหรับรุ่นท็อป
The post Poco X6 Neo เปิดตัวด้วยดีไซน์คุ้นตา มีกล้องหลัง 108 ล้านพิกเซล first appeared on PDAMobiz.
]]>The post Samsung Galaxy A35 เปิดตัวด้วยชิปเซ็ต Exynos 1380 หน้าจอ AMOLED first appeared on PDAMobiz.
]]>รุ่นนี้มีกระจก Gorilla Glass Victus+ ปกป้องหน้าจอเหมือน A55 ส่วนด้านหลังก็เป็นกระจกเช่นกันแต่ไม่ได้ระบุว่าเป็นกระจกรุ่นใด และรุ่นนี้ทำงานด้วยหน่วยประมวลผล Exynos 1380 เหมือนที่ A54 ใช้งาน ซึ่งเป็นชิปเซ็ต 5 นาโนเมตร มีทางเลือก RAM 6 / 8 GB และหน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 128 / 256GB
ด้านหน้ามีกล้องสำหรับเซลฟี่ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล f/2.2 ในขณะที่ด้านหลังมีกล้องตัวหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/1.8, Ultrawide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล f/2.2 และ Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล f/2.4 และแน่นอนว่ารุ่นนี้ยังมาพร้อมกับ Samsung Knox Vault เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานที่มากขึ้น โดยสามารถปกป้องได้ยันการเข้ารหัสเลย และตัว Knox เองยังสามารถบล็อกการติดตั้งแอปพลิเคชั่นไม่พึงประสงค์อัตโนมัติได้อีกด้วย รวมถึงสามารถค้นหามัลแวร์, และบล็อกคำสั่งไม่พึงประสงค์ต่างๆ ได้ รวมถึงจะได้รับอัพเดท OS นาน 4 รุ่นและแพทช์ความปลอดภัย 5 ปี
สำหรับค่าตัวเริ่มต้นที่ €380 (14,900 บาท) สำหรับ 6/128GB และ €450 (17,500 บาท) สำหรับ 8/256GB
The post Samsung Galaxy A35 เปิดตัวด้วยชิปเซ็ต Exynos 1380 หน้าจอ AMOLED first appeared on PDAMobiz.
]]>The post กล้องเทพที่ทุกคนเข้าถึงได้ vivo – ZEISS จับมือเปิดตัว V30 Pro 5G ยกระดับสู่ความเป็นมืออาชีพด้วยเทคโนโลยี Co-engineered ครั้งแรกบน V Series first appeared on PDAMobiz.
]]>
(จากซ้ายไปขวา) มร.อู๋ หยุนถิง ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์ vivo V Series (สาธารณรัฐประชาชนจีน), มร. ชุก เคชาฟ ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ vivo ด้านการประมวลผลภาพ (สาธารณรัฐประชาชนจีน)
และ มร.หู อี้เฟิง ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์และธุรกิจใหม่ กลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค บริษัท คาร์ล ไซส์ส (สาธารณรัฐประชาชนจีน) จำกัด
กรุงเทพฯ 14 มีนาคม 2567 – vivo แบรนด์สมาร์ตโฟนชั้นนำระดับโลก สานต่อความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเลนส์อย่าง ZEISS ประกาศผลักดันขีดจำกัดของนวัตกรรมกล้องถ่ายภาพบนสมาร์ตโฟนไปสู่ระดับเทพ ด้วยการยกเทคโนโลยี vivo ZEISS Co-engineered สุดล้ำสมัยที่เคยมีเฉพาะในซีรีส์เรือธงอย่าง X Series มาไว้บนสมาร์ตโฟนรุ่นล่าสุดอย่าง vivo V30 Pro 5G นับเป็นครั้งแรกที่ผู้ใช้งานสมาร์ตโฟนตระกูล V Series จะได้รับประสบการณ์การถ่ายภาพบุคคลที่เหนือระดับยิ่งขึ้นผ่านเทคโนโลยี ZEISS Style Portrait และเลนส์ ZEISS Triple Main Camera ความละเอียด 50 ล้านพิกเซลที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน ZEISS Optics ทั้ง 3 เลนส์ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านพอร์ตเทรตบนสมาร์ตโฟนระดับมืออาชีพ พร้อมส่งมอบประสบการณ์การถ่ายภาพที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ของ V series สู่มือผู้ใช้งานทั่วโลก
ZEISS: เทคโนโลยีกล้องระดับเทพที่ทุกคนเข้าถึงได้
ZEISS โดดเด่นด้านความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและความมุ่งมั่นในการพัฒนาเลนส์มาอย่างยาวนานในฐานะ “ผู้บุกเบิกด้านเลนส์วิทยาศาสตร์ (the pioneers of scientific optics)” เมื่อปี 2563 vivo และ ZEISS ประกาศผนึกกำลังผ่านความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระดับโลกด้านเทคโนโลยีการถ่ายภาพบนสมาร์ตโฟนเป็นครั้งแรก มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมเพื่อให้ผู้ใช้งานทุกคนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีการถ่ายภาพขั้นสูง รวมถึงสัมผัสประสบการณ์การถ่ายภาพเหนือระดับได้อย่างง่ายและสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยตลอดหลายปีที่ผ่านมา vivo และ ZEISS ได้ร่วมพัฒนานวัตกรรมที่โดดเด่นระดับแนวหน้าของวงการออกมาแล้วอย่างหลากหลาย ยกตัวอย่างเช่น ZEISS APO Floating Telephoto เลนส์ล่าดวงอาทิตย์สุดล้ำที่เปิดตัวครั้งแรกบนสมาร์ตโฟนเรือธง vivo X100 Pro 5G เมื่อต้นปีที่ผ่านมา
ล่าสุด vivo และ ZEISS ได้ผสานเทคโนโลยีเลนส์ถ่ายภาพอันล้ำสมัยเข้ากับดีไซน์อันโฉบเฉี่ยวของสมาร์ตโฟนตระกูล V Series เป็นครั้งแรก ผ่านการเปิดตัวสมาร์ตโฟน V30 Pro 5G พร้อมตอกย้ำจุดยืนความผู้นำด้านพอร์ตเทรตบนสมาร์ตโฟนด้วยการอัปเกรดประสิทธิภาพและเทคโนโลยีการถ่ายภาพให้ล้ำสมัยยิ่งขึ้นทั้งในระดับฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ โดยครอบคลุมตั้งแต่การออกแบบเลนส์ การติดตั้ง ไปจนถึงการรับรองระบบภาพถ่ายและฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น ZEISS Style Portrait ZEISS Natural Color และ ZEISS Border Watermark ความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับประสิทธิภาพด้านพอร์ตเทรตของสมาร์ตโฟนตระกูล V Series ไปสู่มาตรฐานใหม่ และถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จอันน่าจดจำของการร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระดับโลกระหว่าง vivo และ ZEISS
บันทึกทุกโมเมนต์แบบมือโปรผ่านเลนส์ ZEISS บน vivo V30 Pro 5G
vivo V30 Pro 5G ล้ำสมัยด้วยเทคโนโลยี ZEISS Triple Main Camera ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน ZEISS Optics และระบบถ่ายภาพ vivo ZEISS co-engineered ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกปัญหาการใช้งานในชีวิตประจำวัน ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถบันทึกทุกโมเมนต์ได้อย่างมืออาชีพ การันตีภาพถ่ายสีสันสมจริงและคมชัดทุกรายละเอียดโดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์เสริมหรือเทคนิคการถ่ายภาพระดับโปร
V30 Pro 5G เปิดตัวด้วยกล้องความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ถึง 3 ตัว เพื่อส่งมอบประสบการณ์การถ่ายภาพพอร์ตเทรตระดับมืออาชีพ ได้แก่ กล้อง Ultra-Wide Angle ที่มีพิกเซลมากกว่ากล้องมุมกว้างทั่วไปถึง 6.25 เท่า และรองรับมุมมองกว้างถึง 119° ตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ชื่นชอบการเก็บโมเมนต์ประทับใจร่วมกับกลุ่มเพื่อนหรือคนที่รัก เสริมด้วยเทคโนโลยี Auto Focus และ AI Group Portrait มั่นใจได้ว่ารายละเอียดของทุกใบหน้าจะคมชัดอย่างเป็นธรรมชาติ
สำหรับการถ่ายภาพกลางคืน V30 Pro 5G มาพร้อมกล้องหลัก VCS True Color และเซนเซอร์ขนาด 1/1.49 นิ้ว ซึ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สมาร์ตโฟนตระกูล V Series ปัจจุบัน อีกทั้งยังผสานการทำงานกับเทคโนโลยีกันสั่น Optical Image Stabilization (OIS) ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การถ่ายภาพในที่แสงน้อย ให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่าผลลัพธ์ภาพถ่ายจะยังคงสีสันสดใสและคมชัดอยู่เสมอแม้ถ่ายภายใต้สภาวะแสงไม่เอื้ออำนวย
นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถเพิ่มลูกเล่นระดับมืออาชีพให้กับภาพพอร์ตเทรตด้วยโบเก้รูปแบบต่าง ๆ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเลนส์อันเป็นเอกลักษณ์ของ ZEISS ได้แก่ Biotar Sonnar Planar Distagon Cinematic Style Bokeh และ ZEISS Cine-Flare Portrait รวมถึงฟีเจอร์ ZEISS Border Watermark หรือ กรอบลายน้ำพร้อมโลโก้ ZEISS ที่จะเข้ามาเติมเต็มให้ทุกภาพถ่ายดูเป็นมืออาชีพและมีศิลปะมากขึ้น ช่วยให้ภาพที่ได้จาก V30 Pro 5G มีความแตกต่างและสะดุดตาเมื่อแชร์ลงบนโซเชียลมีเดีย
ปลดล็อกศักยภาพครีเอเตอร์: สานต่อแรงจูงใจสู่เส้นทางมืออาชีพ
นอกเหนือจากความร่วมมือในการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ vivo และ ZEISS ยังมีความมุ่งมั่นร่วมกันที่จะให้การสนับสนุนแก่ผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพบนสมาร์ตโฟนและชุมชนครีเอเตอร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งในแง่ของการตอบโจทย์ความต้องการ ไปจนถึงการส่งเสริมการแสดงออกถึงตัวตนและความหลากหลายทางวัฒนธรรมผ่านการสื่อสารและการจัดกิจกรรมในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น แคมเปญ ‘vivo ที่สุดเรื่องพอร์ตเทรต’ ในประเทศไทย มาเลเซีย รวมถึงประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคที่มีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้งานถ่ายทอดความเป็นตัวตนผ่านภาพถ่ายบุคคลคุณภาพระดับมืออาชีพบนสมาร์ตโฟน vivo หรือเวทีประชันภาพถ่าย vivo VISION+ Mobile Photo Awards โดย vivo และ ZEISS ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องทุก ๆ ปีด้วยผลงานภาพพอร์ตเทรตอันน่าทึ่งที่ผู้ใช้งานจำนวนมากส่งเข้าประกวด
การเปิดตัวระบบภาพถ่ายบุคคลระดับแนวหน้าบน vivo V30 Pro 5G ในครั้งนี้ ไม่เพียงสะท้อนความสำเร็จในด้านความร่วมมือเชิงนวัตกรรมระหว่าง vivo และ ZEISS เท่านั้น แต่ยังเป็นการตอกย้ำความเป็นพันธมิตรระดับโลกที่ส่งผลประโยชน์โดยตรงต่อผู้บริโภคในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
มร.หู อี้เฟิง ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์และธุรกิจใหม่ กลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค บริษัท คาร์ล ไซส์ส (สาธารณรัฐประชาชนจีน) จำกัด กล่าวว่า “vivo และ ZEISS เป็นตัวแทนของความเป็นพันธมิตรระดับโลกที่มุ่งมั่นวิจัยและพัฒนาร่วมกันอย่างแท้จริงเพื่อออกแบบและส่งมอบนวัตกรรม co-engineering อันล้ำสมัยสู่มือผู้ใช้งาน โดยมีเป้าหมายที่จะผลักดันขอบเขตของจินตนาการและยกระดับเทคโนโลยีภาพถ่ายบนสมาร์ตโฟนอย่างยั่งยืน”
ด้าน มร.อู๋ หยุนถิง ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์ vivo V Series (สาธารณรัฐประชาชนจีน) กล่าวว่า “วิสัยทัศน์ของ vivo คือการเก็บส่วนที่ซับซ้อนของเทคโนโลยีไว้ภายในองค์กรและส่งมอบเฉพาะประสบการณ์การถ่ายภาพบนสมาร์ตโฟนขั้นสูงสุดผ่านฟังก์ชันการใช้งานที่สะดวกสบายสู่มือผู้บริโภค ภายใต้ความมุ่งมั่นทีจะผสานความกว้างขวางของนวัตกรรมกล้องเข้ากับความเข้าใจอันลึกซึ้งในผู้ใช้งานอย่าง vivo พร้อมเดินหน้าเปลี่ยนแปลงความเป็นไปได้อันหลากหลายของแสงให้กลายเป็นศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัด ผ่านการส่งเสริมให้ทุกคนสามารถสร้างสรรค์ผลงานได้อย่างอิสระโดยไร้ข้อจำกัดด้านอุปกรณ์”
ร่วมเดินหน้าสู่ความเป็นอิสระทางจินตนาการพร้อมสัมผัสเทคโนโลยีระบบถ่ายภาพ vivo ZEISS Co-engineered อันล้ำสมัยบน vivo V30 Pro 5G ได้แล้ววันนี้ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://vivo.com/th/
#vivoV30Pro5G #ถ่ายเทพเกินคน #PortraitSoPro #vivoครบรอบ10ปี
The post กล้องเทพที่ทุกคนเข้าถึงได้ vivo – ZEISS จับมือเปิดตัว V30 Pro 5G ยกระดับสู่ความเป็นมืออาชีพด้วยเทคโนโลยี Co-engineered ครั้งแรกบน V Series first appeared on PDAMobiz.
]]>The post เสียวหมี่เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธง ‘Xiaomi 14 Series’ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย first appeared on PDAMobiz.
]]>
กรุงเทพฯ ประเทศไทย 13 มีนาคม 2567 – เสียวหมี่ ประเทศไทย ประกาศวางจำหน่ายสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ ‘Xiaomi 14 Series co-engineered with Leica’ อย่างเป็นทางการ 2 รุ่น ได้แก่ Xiaomi 14 Ultra และ Xiaomi 14 ชูจุดเด่นด้าน Next-Generation Leica Optics เพื่อการเป็นผู้นำในด้านออปติคอลและกำหนดมาตรฐานอุตสาหกรรมการถ่ายภาพด้วยมือถือ พร้อมทั้งประกาศวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Wearable อีก 3 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ Xiaomi Watch 2, Xiaomi Watch S3 และ Xiaomi Smart Band 8 Pro
Xiaomi 14 Series: ภาพถ่ายมืออาชีพระดับเรือธง ประสิทธิภาพที่ไม่มีใครเทียบได้
สมาร์ทโฟนเรือธง Xiaomi 14 Series co-engineered with Leica ชูความโดดเด่นในการถ่ายภาพภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Lens to lengend’ โดย Xiaomi 14 Ultra มาพร้อมกล้องระดับมืออาชีพสี่ตัวพร้อมช่วงโฟกัสอันน่าทึ่งตั้งแต่ 12 มม. ถึง 120 มม. โดยกล้องหลักมาพร้อมรูรับแสงแบบปรับได้แบบไม่มีขั้นตอนอยู่ที่ ƒ/1.63-ƒ/4.0 ช่วยให้สามารถปรับค่าแสงได้อย่างราบรื่นในสถานการณ์ที่หลากหลาย ผสานเข้ากับเซ็นเซอร์รับภาพ LYT-900 ขนาด 1 นิ้วที่มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ ด้วยช่วงไดนามิกสูงถึง 14EV รับประกันคุณภาพของภาพที่โดดเด่นแม้ในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย โดยกล้องทั้งสี่ตัวนั้นประกอบไปด้วยกล้องเทเลโฟโต้ลอยตัว Leica 75 มม. กล้อง Periscope Leica 120 มม. และกล้องอัลตร้าไวด์ Leica 12 มม. ในขณะที่ Xiaomi 14 มาพร้อมกับกล้องสามตัวที่ครอบคลุมช่วงโฟกัสตั้งแต่ 14 มม. ถึง 75 มม. Xiaomi 14 นั้นได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมด้วยเลนส์ออปติคอล Leica Summilux พร้อมรูรับแสงขนาด ƒ/1.6 ที่อัปเกรดแล้วบนกล้องหลัก ผนวกเข้ากับเซ็นเซอร์รับภาพ Light Fusion 900 และมีช่วงไดนามิกสูงถึง 13.5 EV นอกจากนี้ความละเอียดของกล้องอัลตร้าไวด์ Leica 14 มม. ยังได้รับการอัปเกรดขึ้นเป็นความละเอียด 50MP ทั้งยังมาพร้อมเลนส์เทเลโฟโต้ลอยตัว Leica 75 มม. โดยมีระยะโฟกัสใกล้สุดเพียง 10 ซม. เท่านั้น
นอกจากนี้ Xiaomi 14 Series ยังมาพร้อมโหมดการถ่ายภาพยนตร์ด้วยอัตราส่วนภาพ 2.39:1 และชัตเตอร์ 180° เพื่อมอบวิดีโอที่มีรูปลักษณ์เหมือนภาพยนตร์และภาพเบลอจากการเคลื่อนไหวอย่างแท้จริง พร้อมฟีเจอร์อื่นๆ อีกมากมายที่ขับเคลื่อนด้วย AI เช่น AutoFrame และ MasterCinema ทั้งนี้ Xiaomi 14 Ultra ยังมาพร้อมชุดถ่ายภาพ (Photography kit) โดยมาพร้อมฟีเจอร์เพิ่มเติมเป็นด้ามจับและเคสที่มีมาให้โดยเฉพาะ ซึ่งประกอบไปด้วยปุ่มชัตเตอร์แบบสองขั้น คันโยกซูม ปุ่มบันทึกวิดีโอที่ปรับได้ และแป้นหมุนแบบกำหนดเอง นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เป็นแบตเตอรี่ภายนอกขนาด 1500mAh อีกด้วย โดยอุปกรณ์เสริมที่กล่าวมาจะจำหน่ายแยกต่างหาก
Xiaomi 14 Ultra ยังให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การรับชมภาพอันดื่มด่ำด้วยด้วยหน้าจอแสดงผลแบบ All Around Liquid AMOLED C8 WQHD+ ขนาด 6.73 นิ้วที่เสียวหมี่พัฒนาขึ้นเอง พร้อมด้วยความละเอียด WQHD+ (3200 x 1440) ในขณะที่ Xiaomi 14 มาพร้อมหน้าจอแสดงผล CrystalRes AMOLED 1.5K (2670 x 1200) ขนาด 6.36 นิ้ว สมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นมาพร้อมอัตรารีเฟรชที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตั้งแต่ 1 ถึง 120Hz เพื่อการประสบการณ์การรับชมที่ราบรื่นและไร้รอยต่อ
Xiaomi 14 Series นั้นขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon® 8 Gen 3 ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ทั้ง CPU, GPU และลดการใช้พลังงานลงถึง 38% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า1 Xiaomi 14 Series มาพร้อมกับ Qualcomm FastConnect 7800 ที่ให้ Wi-Fi 72 พร้อมความจุถึง 320MHz ทั้งนี้ Xiaomi 14 Series ยังมาพร้อมระบบระบายความร้อน Xiaomi IceLoop เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่น โดย Xiaomi 14 Ultra ใช้ระบบ Xiaomi Dual-Channel IceLoop ตัวใหม่ล่าสุด ซึ่งมีช่องระบายความร้อนที่สองโดยเฉพาะสำหรับโมดูลกล้องเพื่อการถ่ายภาพและวิดีโอที่ราบรื่นมากยิ่งขึ้น
Xiaomi 14 Series มาพร้อมกับระบบการจัดการแบตเตอรี่ Xiaomi Surge ที่ช่วยรับประกันประสิทธิภาพการใช้งานที่ยาวนานตลอดทั้งวัน โดย Xiaomi 14 มาพร้อมแบตเตอรี่ 4610mAh ที่รองรับการชาร์จเร็ว HyperCharge 90W และการชาร์จเร็วแบบไร้สาย 50W HyperCharge ในขณะที่ Xiaomi 14 Ultra นั้นมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดความจุที่ใหญ่กว่า 5000mAh ที่รองรับชาร์จเร็ว 90W HyperCharge และเทคโนโลยีชาร์จเร็วแบบไร้สาย HyperCharge 80W3
ศักยภาพด้านฮาร์ดแวร์เต็มรูปแบบของ Xiaomi 14 Series นั้นขับเคลื่อนโดย Xiaomi HyperOS ที่ให้คุณสัมผัสกับประสบการณ์ความลื่นไหลของระบบที่ยกระดับด้วยไฟล์ขั้นสูงและความสามารถในการจัดการหน่วยความจำ การปรับปรุง UI เสริมด้วยกราฟิกระบบย่อย การเชื่อมต่อที่ราบรื่นระหว่างอุปกรณ์ และการรักษาความปลอดภัยที่ครอบคลุมและฟีเจอร์ความเป็นส่วนตัวเพื่อปกป้องชีวิตดิจิทัลของคุณ
Xiaomi 14 Ultra มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Black และ White ในรุ่นความจุ 16GB+512GB วางจำหน่ายในราคา 40,990 บาท ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม
พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่สั่งซื้อสมาร์ทโฟน Xiaomi 14 Ultra ล่วงหน้าในระหว่างวันที่ 14 – 22 มีนาคม 2567 รับฟรี! Xiaomi 14 Ultra Photography Kit และ 120W Charger Adapter Kit รวมมูลค่าของสมนาคุณ 20,589 บาท4
Xiaomi 14 มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Black, White และ Jade Green ในรุ่นความจุ 12GB+512GB วางจำหน่ายในราคา 29,990 บาท ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม
พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่สั่งซื้อสมาร์ทโฟน Xiaomi 14 ล่วงหน้าในระหว่างวันที่ 14 – 22 มีนาคม 2567 รับฟรี! Xiaomi 14 Giftbox, Redmi Buds 5 Pro และ 120W Charger Adapter Kit รวมมูลค่าของสมนาคุณ 18,379 บาท4
Xiaomi Watch 2
Xiaomi Watch 2 มาพร้อมกับ Google Wear OS ที่มอบประสบการณ์สมาร์ทวอทช์อันราบรื่นและเสถียรแก่ผู้ใช้ โดย Xiaomi Watch 2 ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon® W5+Gen 1 ด้วยสถาปัตยกรรมสองแกนหลักช่วยให้ตัวอุปกรณ์สามารถสวิตช์แบบอัตโนมัติทำให้มีประสิทธิภาพสูงและใช้พลังงานน้อยลง โดยมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานสูงสุดถึง 65 ชั่วโมงตามการใช้งานทั่วไปด้วยแบตเตอรี่ขนาด 495mAh และพื้นที่เก็บข้อมูลขนาดใหญ่ 32GB5
Xiaomi Watch 2 มาพร้อมหน้าจอแสดงผล AMOLED ขนาด 1.43 นิ้ว และกรอบกลางอลูมิเนียมอัลลอยด์ โดยรองรับโหมดกีฬามากกว่า 160 โหมด และยังมาพร้อม dual-band L1+L5 GNSS ที่ช่วยระบุตำแหน่งได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ Xiaomi Watch 2 ยังมาพร้อมการติดตามสุขภาพที่แม่นยำและดีขึ้นด้วยโมดูลตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ 12 ช่องที่ได้รับการอัปเกรดแล้ว6 นอกจากนี้ยังมาพร้อมอัลกอริทึมการติดตามการนอนหลับที่ได้รับการปรับปรุงซึ่งจะรวมข้อมูลออกซิเจนในเลือดและลมหายใจเพื่อการวิเคราะห์ที่ครอบคลุมและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพที่แม่นยำมากยิ่งขึ้น
Xiaomi Watch 2 พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของแล้วในราคาพิเศษ 6,690 บาท4 (จากราคาปกติ 7,490 บาท) ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 เมษายน 2567 ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม
Xiaomi Watch S3
Xiaomi Watch S3 โดดเด่นด้วยหน้าจอแสดงผล AMOLED ทรงกลมขนาดใหญ่ 1.43 นิ้ว และกรอบอลูมิเนียมอัลลอยด์น้ำหนักเบา สามารถปรับแต่งอย่างเหนือระดับด้วยกรอบและสายรัดที่สามารถเปลี่ยนได้7 นอกจากนี้ Xiaomi Watch S3 ยังมาพร้อมกับหน้าปัดนาฬิกาฟรีกว่า 180 แบบ8 และผู้ใช้ยังสามารถค้นหาเพิ่มเติมได้ในตลาดหน้าปัดนาฬิกา (The watch face market) เพื่อเลือกสไตล์ที่ชอบได้อีกด้วย Xiaomi Watch S3 มอบประสิทธิภาพที่เหนือกว่าและประสบการณ์ผู้ใช้อันเหนือระดับด้วยระบบ Xiaomi HyperOS ซึ่งให้การเชื่อมต่อที่เร็วขึ้นและการซิงโครไนซ์ข้อมูลที่ดีขึ้น ตัวอุปกรณ์มาพร้อมอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานเป็นพิเศษซึ่งสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 15 วัน นอกจากนี้ยังสามารถชาร์จเร็วได้โดยสามารถใช้งานได้นานสูงสุด 2 วันด้วยการชาร์จเพียง 5 นาที9 เท่านั้น
Xiaomi Watch S3 รองรับโหมดกีฬามากกว่า 150 โหมด และยังมีโมดูลตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจ 12 ช่อง โดยวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้แม่นยำกว่าอุปกรณ์รุ่นก่อนๆ โดยมาพร้อมกับการตรวจสอบระดับออกซิเจนในเลือดและความดันของผู้ใช้ตลอดทั้งวัน และยิ่งไปกว่านั้น Xiaomi Watch S3 ยังมี Sleep Animals ในแอป Mi Fitness เพื่อการวิเคราะห์การนอนหลับอีกด้วย
Xiaomi Watch S3 พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของแล้วในราคาพิเศษ 4,890 บาท4 (จากราคาปกติ 5,490 บาท) ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 เมษายน 2567 ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม
Xiaomi Smart Band 8 Pro
Xiaomi Smart Band 8 Pro มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ 1.74 นิ้ว พร้อมอัตราการรีเฟรช 60Hz และมีความบางเบาเพียง 9.99 มม.และหนักเพียง 22.5 กรัมเท่านั้น10 ทั้งนี้ตัวเครื่องยังมาพร้อมกรอบโลหะและสายรัดแบบปลดเร็วทั้งสองด้านของตัวสาย ช่วยให้คุณสามารถเปลี่ยนสายรัดได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ตัวอุปกรณ์มาพร้อมด้วยวัสดุและสีของสายรัดอันหลากหลายเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกปรับแต่งได้อย่างเต็มที่11 พร้อมด้วยหน้าปัดนาฬิกาให้เลือกมากกว่า 200 แบบ รวมถึงตัวเลือกธีมเกมเพื่อเพิ่มประสบการณ์ความบันเทิงของคุณให้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย12
Xiaomi Smart Band 8 Pro มาพร้อมการติดตามกีฬาระดับมืออาชีพด้วยโหมดกีฬาที่มีให้เลือกกว่า 150 โหมด พร้อมสนุกไปกับแอนิเมชั่นการออกกำลังกายแบบ 3 มิติเพื่อให้คุณสามารถเห็นภาพได้อย่างชัดเจนในการวอร์มอัพและการยืดกล้ามเนื้อก่อนออกกำลังกาย13 นอกจากนี้ Xiaomi Smart Band 8 Pro ยังมาพร้อมกับฟังก์ชันการตรวจสอบสุขภาพอีกด้วย โดยมาพร้อมการอัปเกรดโมดูลตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ 4 ช่องทางแบบใหม่ล่าสุด14 ตัวอุปกรณ์มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 289mAh ซึ่งมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น 23% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน สำหรับการใช้งานทั่วไป สามารถใช้งานได้นานสูงสุดถึง 14 วัน มากกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 2 วัน และยังรับประกันการใช้งานได้ที่ยาวนานโดยไม่ต้องชาร์จซ้ำบ่อยๆ15 นอกจากนี้ยังสามารถมีการระบุตำแหน่ง GNSS ในตัวและได้รับการรับรอง 5ATM อีกด้วย
Xiaomi Smart Band 8 Pro พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของในราคาพิเศษ 2,490 บาท4 (จากราคาปกติ 2,990 บาท) ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 เมษายน 2567 ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม
หมายเหตุ*
1 ข้อมูลจากห้องปฏิบัติการภายในของเสียวหมี่, ผลลัพธ์จริงอาจแตกต่างกันไป
2 การเชื่อมต่อของ Wi-Fi (รวมถึงย่านความถี่ Wi-Fi, มาตรฐาน Wi-Fi, และคุณสมบัติอื่นๆ ตามที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน IEEE Standard 802.11) อาจแตกต่างกันไปตามความพร้อมของการให้บริการในแต่ละภูมิภาค และการรองรับเครือข่ายของแต่ละท้องถิ่น ฟังก์ชันนี้อาจถูกเพิ่มผ่าน OTA ตามเวลาและสถานที่ที่เหมาะสม
3 ที่ชาร์จไร้สายแยกจำหน่ายกัน
4 ของสมนาคุณมีจำนวนจำกัด และเงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯกำหนด
5 ข้อมูลจากห้องปฏิบัติการภายในของเสียวหมี่ ข้อมูลอายุการใช้งานแบตเตอรี่ขึ้นอยู่กับโหมดการใช้งานทั่วไป ทดสอบโดยปฏิบัติการภายในของเสียวหมี่ ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างกันไป ระดับการกันน้ำ 5ATM อิงตามมาตรฐาน ISO 22810:2010 ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างกันไป
6 ผลิตภัณฑ์นี้และฟีเจอร์ต่างๆ ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์ และไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อทำนาย วินิจฉัย ป้องกัน หรือรักษาโรคใดๆ
7 หน้าปัดนาฬิกา เอฟเฟกต์ และเอฟเฟกต์เสียงที่ปรับแต่งเองสามารถเปิดใช้งานได้เฉพาะเมื่อจัดตำแหน่งและติดตั้งอย่างถูกต้องตามตำแหน่งของจุดทำเครื่องหมายตามคำแนะนำของคู่มือการใช้งานและคู่มือผู้ใช้ งาน และจะไม่ทำงานในโหมดห้ามรบกวน
8 เฉพาะโทรศัพท์ที่ขับเคลื่อนโดย Xiaomi HyperOS เท่านั้นที่รองรับฟีเจอร์หน้าปัดนาฬิกาแนวตั้ง
9 ภายใต้โหมดการใช้งานทั่วไป อุปกรณ์ที่มี Xiaomi HyperOS จะรองรับ 15 วัน ข้อมูลอายุการใช้งานแบตเตอรี่อยู่ในโหมดการใช้งานทั่วไป ทดสอบโดยห้องปฏิบัติการภายในของเสียวหมี่ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างกันไป
10 22.5 กรัมคือน้ำหนักของตัวเรือนเท่านั้นยังไม่รวมสายรัด ความหนา 9.99 มม. ยังไม่รวมเครื่องวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ข้อมูลจากการทดสอบในห้องปฏิบัติการภายในของเสียวหมี่
11 ความพร้อมใช้งานแตกต่างกันไปตามตลาด
12 หน้าปัดนาฬิกามีจำหน่ายในตลาดหน้าปัดนาฬิกา (watch face market) ผู้ใช้สามารถใช้หน้าปัดนาฬิกาผ่านทางโทรศัพท์ได้
13 คำแนะนำการวอร์มอัพมีเฉพาะบางโหมดกีฬาเท่านั้น
14 ผลิตภัณฑ์นี้และฟีเจอร์ต่างๆ ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์ และไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อทำนาย วินิจฉัย ป้องกัน หรือรักษาโรคใดๆ
15 ข้อมูลจากห้องปฏิบัติการภายในของเสียวหมี่ ข้อมูลอายุการใช้งานแบตเตอรี่ขึ้นอยู่กับโหมดการใช้งานทั่วไป ทดสอบโดยปฏิบัติการภายในของเสียวหมี่ ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างกันไป ระดับการกันน้ำ 5ATM อิงตามมาตรฐาน ISO 22810:2010 ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างกันไป
The post เสียวหมี่เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธง ‘Xiaomi 14 Series’ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย first appeared on PDAMobiz.
]]>The post ทรูออนไลน์ ผสาน AI สร้างความแตกต่างเครือข่ายที่เข้าใจทุกความต้องการลูกค้าอย่างแท้จริง first appeared on PDAMobiz.
]]>
กรุงเทพฯ 13 มีนาคม 2567 – ทรูออนไลน์ ผู้นำนวัตกรรมเน็ตบ้านไฟเบอร์อั
นายฐานพล มานะวุฒิเวช หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการตลาด บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “หัวใจสำคัญที่ทำให้ทรูออนไลน์
นายสกลพร หาญชาญเลิศ หัวหน้าสายงานออนไลน์คอนเวอร์
SMART TECH – ขีดสุดของเทคโนโลยีบรอดแบนด์ที่
SMART SERVICE – ผนวกเทคโนโลยี AI ยกระดับประสบการณ์ระดับเวิลด์
Seamless Customer Experience
Seamless Connectivity
SMART SOLUTION & PRIVILEGE – สิทธิประโยชน์และโซลูชันอัจฉริ
พบ โปรเน็ตบ้านที่คุ้มที่สุด เริ่มต้นเพียง 599 บาทต่อเดือน ครบครันด้วยอุปกรณ์อัจฉริยะ รวมถึงได้รับชมคอนเทนต์ต่างๆ ฟรี ไม่มีสะดุด พร้อมสิทธิพิเศษอื่นๆอีกมากมาย ผู้ที่สนใจสามารถสมัครบริ
The post ทรูออนไลน์ ผสาน AI สร้างความแตกต่างเครือข่ายที่เข้าใจทุกความต้องการลูกค้าอย่างแท้จริง first appeared on PDAMobiz.
]]>The post Samsung Galaxy A55 เปิดตัวด้วยหน้าจอ AMOLED ขุมพลัง Exynos 1480 first appeared on PDAMobiz.
]]>ด้านหน้าและด้านหลังรุ่นนี้มี Gorilla Glass Victus+ แปะทับไว้เพื่อป้องกันรอยขีดข่วน ซึ่งเคลมว่าคงทนกว่า Gorilla Glass 5 ถึงสองเท่าตัว และ A55 ทำงานด้วยหน่วยประมวลผล Exynos 1480 ที่มี Xclipse 530 GPU (AMD RDNA2) โดยมีทางเลือก RAM 8 / 12GB และมีหน่วยความจำตัวเครื่อง 128 / 256GB
กล้องถ่ายรูปด้านหน้ามีให้หนึ่งตัวความละเอียด 32 ล้านพิกเซล f/2.2 ส่วนด้านหลังมีกล้องตัวหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล f/1.8 OIS, Ultrawide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/2.2 fixed focus และ Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล f/2.4
รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับ Samsung Knox Vault เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานที่มากขึ้น โดยสามารถปกป้องได้ยันการเข้ารหัสเลย และตัว Knox เองยังสามารถบล็อกการติดตั้งแอปพลิเคชั่นไม่พึงประสงค์อัตโนมัติได้อีกด้วย รวมถึงสามารถค้นหามัลแวร์, และบล็อกคำสั่งไม่พึงประสงค์ต่างๆ ได้
สำหรับการอัพเกรดนั้นทางซัมซุงให้คำมั่นว่าจะเดินหน้าให้ต่อเนื่องถึง 4 OS หลัก และแพทข์ความปลอดภัยยาวๆ 5 ปี โดยค่าตัว A55 เริ่มต้นที่ €480 หรือประมาณ 18,500 บาท สำหรับ 8/128GB
The post Samsung Galaxy A55 เปิดตัวด้วยหน้าจอ AMOLED ขุมพลัง Exynos 1480 first appeared on PDAMobiz.
]]>The post iQOO Z9 เปิดตัวอย่างเป็นทางการด้วย Dimensity 7200 first appeared on PDAMobiz.
]]>iQOO Z9 ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการโดยมาพร้อมหน่วยประมวลผล MediaTek Dimensity 7200 ทำงานร่วมกับ RAM 8GB ซึ่งสามารถเพิ่มได้อีกเท่าตัวด้วยซอฟต์แวร์ (Extended RAM/Virtual RAM) และรุ่นนี้จะเริ่มจำหน่ายในประเทศอินเดียเป็นที่แรก
หน้าจอมาในแบบ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ 120Hz refresh rate / 300 Hz touch sampling rate ดีไซน์ Punch-hole มีกล้องหน้าหนึ่งตัวความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ค่ารูรับแสง f/2.0
ด้านหลังมีกล้องตัวหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX882 ทำงานร่วมกับ Depth Sensor ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล โดยรองรับการถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงสุด 4K 30fps
รุ่นนี้มีแบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh รองรับการชาร์จไฟเข้าแรงสุด 44W และในกล่องให้ที่ชาร์จมาด้วยไม่ต้องหาซื้อเพิ่ม, ระบบปฏิบัติการมาพร้อม FuntouchOS 14 ที่มีพื้นฐานบนแอนดรอยด์เวอร์ชั่น 14
การใช้งานซิมรองรับแบบ nano sim สองซิมการ์ดโดยเป็นแบบ Hybrid Slot ที่สามารถแปลงเป็น Micro SD แทนได้สูงสุด 1TB ทว่ารุ่นนี้ไม่รองรับ NFC, FM Radio รวมถึงไม่มีช่องเสียบหูฟังด้วย แต่ยังคงให้พอร์ต USB-C มา
การเชื่อมต่อรองรับ Bluetooth is 5.3, Wi-Fi a/b/g/n/ac/ax, เครือข่าย 5G, โดยจะมีสองสีสันให้เลือกได้แก่ Brushed Green และ Graphene Blue เปิดราคาค่าตัวที่ INR19,999 (8,600 บาท) สำหรับรุ่นหน่วยความจำ 128GB และ INR21,999 (9,500 บาท) สำหรับรุ่นหน่วยความจำ 256GB
The post iQOO Z9 เปิดตัวอย่างเป็นทางการด้วย Dimensity 7200 first appeared on PDAMobiz.
]]>The post Samsung Galaxy M14 4G เปิดตัวด้วย Snapdragon 680 first appeared on PDAMobiz.
]]>ซัมซุงได้เปิดตัว Galaxy M14 5G ออกมาเมื่อเดือนมีนาคมปีก่อนหน้านี้และล่าสุดในปีนี้ดันได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนชื่อรุ่นเดิมแต่มาในรุ่น 4G LTE แทนโดยเปิดตัวในประเทศอินเดีย
M14 4G วางจำหน่ายผ่านทางอเมซอนประเทศอินเดีย โดยเปิดค่าตัวที่ INR8,499 หรือประมาณ 3,600 บาท สำหรับรุ่นเริ่มต้นที่มี RAM 4GB, Storage 64GB ในขณะที่รุ่นท็อปมี RAM 6GB, Storage 128GB ในราคา INR11,499 หรือประมาณ 4,900 บาท และจะมีสองสีสันให้เลือกได้แก่ สีฟ้าและสีน้ำเงิน (Arctic Blue / Sapphire Blue)
ตัวเครื่องมาพร้อมระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชั่น 13 และทางบริษัทฯ ให้คำมั่นว่าจะมีการอัพเดทเวอร์ชั่นแอนดรอยด์ให้สองรุ่น นั่นหมายความว่าจะได้รับอัพเดทแอนดรอยด์ไม่เกินเวอร์ชั่น 15 และจะมีการอัพเดทแพทช์ความปลอดภัยต่อไปอีก 4 ปี
Galaxy M14 4G มีหน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ 90Hz refresh rate และทำงานด้วยหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 680, กล้องด้านหลังประกอบไปด้วยกล้องตัวหลักความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ทำงานร่วมกับกล้องความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 13 ล้านพิกเซลในดีไซน์หน้าจอติ่งหยดน้ำ มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่อง
แบตเตอรี่ให้มา 5,000mAh รองรับการชาร์จไฟเข้าผ่านสายแรง 25W
The post Samsung Galaxy M14 4G เปิดตัวด้วย Snapdragon 680 first appeared on PDAMobiz.
]]>The post Google Tensor G4 จะปรับปรุงเรื่องการจัดการความร้อนและพลังงาน first appeared on PDAMobiz.
]]>Tensor G4 จะมีการจัดการความร้อน ในขณะที่ประสิทธิภาพดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งดูเหมือนจะเป็นการขยับขึ้นจาก G3 ในทุกๆ ด้านเลยก็ว่าได้ ซึ่งถือว่าเป็นข่าวดีเนื่องจากชิปเซ็ตก่อนหน้านี้เองก็ไม่ได้รางวัลหรือโดดเด่นในด้านใดเลย
ที่น่าสนใจคือในปีนี้ทางซัมซุงได้มีการปรับมาใช้งานหน่วยประมวลผลบนสมาร์ตโฟนเรือธงของตนสองรุ่นอย่าง Samsung Galaxy S24 / S24+ ซึ่งได้ใช้งาน Exynos 2400 แต่กระแสตอบรับก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีเลยทีเดียว ซึ่งอาจสื่อได้ว่าผู้คนนั้นต่างมีความคาดหวังลดลงหรือไม่ได้ใส่ใจมากนักแล้วก็ว่าได้ (อาจจะมาจากการที่สมาร์ตโฟนในปัจจุบันนี้มันดีขึ้นมากด้วย)
ในขณะเดียวกันทาง Mark Zuckerberg และ Sam Altman ผู้บริหารระดับ CEO ของ Open AI ได้ออกมากล่าวว่าต้องการลดการพึ่งพาผู้ผลิตชิปจากไต้หวันหรือ TSMC ซึ่งอาจกลายเป็นโอกาสของผู้ผลิตรายอื่นๆ รวมถึงซัมซุงในการเข้าไปแย่งส่วนแบ่งตลาดก็เป็นได้
The post Google Tensor G4 จะปรับปรุงเรื่องการจัดการความร้อนและพลังงาน first appeared on PDAMobiz.
]]>The post ทีเซอร์ Poco X6 Neo ยืนยันเตรียมเปิดตัวในประเทศอินเดีย first appeared on PDAMobiz.
]]>Himanshu Tandon ผู้บริหารแนวหน้าของ Poco India ได้ออกมาเปิดเผยโดยเชื่อว่าทุกคนน่าจะรอ Poco X6 Neo ที่มีการอัพเกรดจากรุ่นก่อนหน้านี้อยู่แน่นอน โดยได้ยืนยันว่าตัวเครื่องมีหน้าจอ LCD และใช้งานหน่วยประมวลผล MediaTek Dimensity 6100+ แต่มีการเคลมว่าราคาค่าตัวของ Poco M65G ของแบรนด์เรานั้นมีราคาต่ำกว่า INR10,000 หรือต่ำกว่า 4,300 บาท
After seeing today's launch, everyone should REALly wait for the 'Neo' upgrade.
Red Flags: Dimensity 6100+, LCD at 17k? 😮😕
Just an FYI, we use Dimensity 6100+ in #POCOM65G which is priced under 10k. #POCOX6Neo
— Himanshu Tandon (@Himanshu_POCO) March 6, 2024
ทั้งนี้ดูเหมือนว่าสมาร์ตโฟนดังกล่าวจะเป็นการ rebrand มาจากสมาร์ตโฟนรุ่น Redmi Note 13R Pro ที่มีกล้องตัวหลักความละเอียด 108 ล้านพิกเซลเหมือน Realme 12 แต่ว่ารุ่นดังกล่าวใช้หน่วยประมวลผล Dimensity 6080 ที่มี CPU ตัวหลักแรงกว่า 200MHz แต่ก็ไม่ได้ส่งผลขนาดนั้น
ทั้งนี้คาดการณ์ว่า X6 Neo จะมาพร้อมหน้าจอ OLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1080×2400 พิกเซล 120Hz refresh rate ความสว่างหน้าจอสูงสุด 1,000nits, มี Depth Sensor 2 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้าง แบตเตอรี่จุ 5,000mAh ชาร์จไฟได้แรง 33W
The post ทีเซอร์ Poco X6 Neo ยืนยันเตรียมเปิดตัวในประเทศอินเดีย first appeared on PDAMobiz.
]]>The post ลือ vivo X Fold 3 และ X Fold 3 Pro จะเปิดตัวช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้ first appeared on PDAMobiz.
]]>โดยผู้ใช้งานดังกล่าวได้ปล่อยภาพปฏิทินที่มีการวงวันที่เอาไว้ทั้งหมดสามตัวได้แก่วันที่ 26,27,28 มีนาคม (วันอังคาร-วันพฤหัสบดี) ซึ่งเป็นสัปดาห์สุดท้ายของเดือน ซึ่งในรอบนี้นอกจากจะมี vivo X Fold 3 รุ่นปกติแล้วยังอาจมีรุ่นโปรเข้ามาเพิ่มเติมด้วย (รุ่นก่อนอย่าง vivo X Fold 2 นั้นเปิดตัวออกมาในวันที่ 20 เมษายนปีก่อน ดังนั้นรอบนี้จะเร็วกว่าเดิมราวๆเดือนนึง)
มีรายงานอีกว่า X Fold 3 Pro นั้นจะมาพร้อมหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8 Gen 3 ในขณะที่รุ่นปกตินั้นอาจใช้ชิปเซ็ตเก่าอย่าง Snapdragon 8 Gen 2 แต่ก็มีรายงานอีกอันที่ขัดแย้งกันอยู่ว่า X Fold 3 รุ่นปกติอาจใช้ MediaTek Dimensity 9300 แทน แต่ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะใช้ชิปเซ็ตแตกต่างกันเพื่อแยกรุ่นให้ชัดเจน
X Fold 3 นั้นอาจมีกล้องหลังความละเอียด 50 ล้านพิกเซลทั้งสามตัว ไม่ว่าจะเลนส๋ Wide, Ultrawide และ 2x Telephoto ในขณะที่รุ่นโปรอาจได้เลนส์ Periscope ความละเอียด 64 ล้านพิกเซลแทน
การชาร์จไฟคาดว่ารุ่นโปรอัดเข้าผ่านสายได้แรง 120W, ไร้สาย 50W และจะผ่านมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นเป็นรุ่นแรกของสมาร์ตโฟนหน้าจอพับได้แบบนี้
The post ลือ vivo X Fold 3 และ X Fold 3 Pro จะเปิดตัวช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้ first appeared on PDAMobiz.
]]>The post นกแซวสวรรค์ (Asian Paradise Flycatcher) 2567 first appeared on PDAMobiz.
]]>The post นกแซวสวรรค์ (Asian Paradise Flycatcher) 2567 first appeared on PDAMobiz.
]]>The post Google Pixel 8a จะมีราคาแพงกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ first appeared on PDAMobiz.
]]>เดิมที Pixel 7a มีราคาเริ่มต้นที่ €500 หรือประมาณ 19,500 บาทในยุโรป ทว่าสำหรับ Pixel 8a นั้นคาดว่าจะมีค่าตัวเริ่มต้นที่ €570 หรือประมาณ 21,900 บาท โดยผู้จำหน่ายจากเยอรมันได้รายงานว่าจะมีทางเลือกสองรุ่นด้วยกันได้แก่รุ่นความจุ 128GB และ 256GB
สำหรับสีสันตัวเครื่องจะมีให้เลือกทั้งหมด 4 สีสันด้วยกันได้แก่ สีดำ Obsidian (black), สีเบจ Porcelain (beige), สีน้ำเงิน Bay (light blue), และสีเขียว Mint (light green) ทั้งนี้ไม่ใช่ทุกสีจะมีทางเลือกหน่วยความจำทั้งสองแบบข้างต้น โดยสำหรับรุ่นหน่วยความจุ 256GB นั้นจะมีให้เลือกเฉพาะในสีดำ (ทำไมหว่า)
สำหรับการเปิดตัวนั้นคาดว่าตัวเครื่องอาจมาในช่วงเดือนเมษายนถึงพฤษภาคมโดยมีรายงานว่ารุ่นนี้อาจจะมาพร้อมหน่วยประมวลผล Google’s Tensor G3 ทำานร่วมกับ RAM 8GB ในขณะที่จะยังคงมีดีไซน์เครื่องในภาพรวมไม่แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้านี้ และจะมีกล้องด้านหลังทั้งหมดสองตัวด้วยกัน ซึ่งน่าจะได้ฟีเจอร์ต่างๆ ของ Pixel มาพอสมควรเลยทีเดียวเชียวล่ะ
จะว่าไปถ้าได้ Tensor G3 และใช้ฟีเจอร์ได้เต็มๆ ก็อาจน่าสนใจก็ได้นะ
The post Google Pixel 8a จะมีราคาแพงกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ first appeared on PDAMobiz.
]]>The post เผยภาพทางการของ Samsung Galaxy A55 และ A35 พร้อมยืนยันรายละเอียดบางส่วน first appeared on PDAMobiz.
]]>ภาพรวมทั้งสองรุ่นดูคล้ายกันมากในส่วนของดีไซน์ตัวเครื่องทั้งหมด ซึ่งถ้าดูแต่ภาพแล้วไม่ได้เขียนชื่อรุ่นไว้อาจแยกไม่ออกเลยด้วยซ้ำ ทั้งนี้แต่ละรุ่นก็จะมีความต่างเรื่องสเปคโดยที่ได้ยืนยันออกมาบางส่วนดังนี้
กล้องหลังของ A55 นั้นมีกล้องตัวหลักความละเอียด 50MP, Ultrawide 12MP และ Macro 5MP ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 32MP ในขณะที่ A35 นั้นมีกล้องหลักความละเอียด 50MP เช่นเดียวกันแต่ Ultrawide 8MP, Macro 5MP และมีกล้องหน้า 13MP ในดีไซน์หน้าจอ Punch-hole
แบตเตอรี่ของทั้งสองรุ่นมีความจุ 5,000mAh เช่นเดียวกันโดยรองรับการชาร์จไฟเข้าผ่านทางสายแรง 25W เหมือนกับรุ่นอื่นๆ ใน A Series ทั้ง A54, A34 ก่อนหน้านี้ด้วย (ส่วน Adapter ก็คงไม่แถมมาให้่ตามเคย)
ในส่วนของหน้าจอนั้น A55 จะมีขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อยที่ 6.6 นิ้ว ในขณะที่ A35 มีขนาดหน้าจอ 6.5 นิ้ว ทั้งสองรุ่นใช้หน้าจอ AMOLED ความละเอียด Full HD+ 120Hz refresh rate เช่นเดียวกัน
สีสันตัวเครื่องทั้งสองรุ่นยังมีให้เลือก 4 สีสันเหมือนกันอีกโดยประกอบไปด้วย สีดำ, สีชมพู, สีฟ้าและสีเหลือง และยังใช้วัสดุฝาหลังเป็นพลาสติกเหมือนกันด้วย
The post เผยภาพทางการของ Samsung Galaxy A55 และ A35 พร้อมยืนยันรายละเอียดบางส่วน first appeared on PDAMobiz.
]]>