“เอไอเอส” จับมือ “โครตรอน” ยักษ์ใหญ่ เจ้าธุรกิจเครื่องหยอดเหรียญ นำนวัตกรรม IoT แก้ Pain Point เหรียญเต็มจากจุดต่างๆ ทั่วประเทศ

เอไอเอส ตอกย้ำศักยภาพผู้นำด้านนวัตกรรมเครือข่าย IoT เพื่อการพัฒนาประเทศในทุกภาคส่วน ที่มีความพร้อมทั้งด้านเทคโนโลยีและเครือข่าย NB-IoT และ eMTC ครอบคลุมทั่วประเทศแล้ว เป็นรายแรกและรายเดียวในไทย โดยให้บริการเชิงพาณิชย์แบบครบวงจรกับองค์กรชั้นนำทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงบริษัทขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ที่ให้บริการเกี่ยวกับเทคโนโลยี IoT

   

ล่าสุด เอไอเอส โดย นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าองค์กร จับมือ โครตรอนกรุ๊ป โดย นายสมคิด สีหาโคตร  Managing Director, SKS Engineering & Service CO., Ltd ผู้นำการผลิตและจำหน่ายเครื่องชั่งน้ำหนักหยอดเหรียญ และเครื่องหยอดเหรียญประเภทต่างๆ ที่ติดตั้งกระจายอยู่ทั่วประเทศ ร่วมกันนำเทคโนโลยี IoT เข้ามาสร้างนวัตกรรมและความแตกต่างให้ผลิตภัณฑ์และอุตสาหกรรมเครื่องหยอดเหรียญครั้งแรกของไทย โดยเอไอเอสได้ให้การสนับสนุนชุดพัฒนา NB-IoT Shield และโครงข่าย AIS NB-IoTที่ครอบคลุมทั่วประเทศ เพื่อร่วมกันพัฒนาโซลูชั่นใหม่ “Smart Coin Kiosk Machine” เซ็นเซอร์วัดปริมาณเหรียญภายในเครื่อง ทำให้สามารถสร้างระบบบริหารจัดการเครื่องหยอดเหรียญได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

 

 

ทั้งนี้ ตลาดเครื่องหยอดเหรียญในประเทศไทย มีอุปกรณ์ที่ให้บริการหลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็น เครื่องชั่งน้ำหนัก เก้าอี้นวด เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ตู้เกมส์ และเครื่องขายสินค้าอัตโนมัติ เหล่านี้ มักพบปัญหายุ่งยากในการบริหารจัดการ ทั้งการดูแลบำรุงรักษาเครื่องให้ทำงานได้ตลอดเวลา การจัดเก็บเหรียญตามเวลาที่เหมาะสม รวมถึงการจัดส่งพนักงานเข้าพื้นที่ไปเพื่อเก็บเหรียญ บางจุดเหรียญอาจจะยังไม่เต็มก็เข้าไปเสียเวลาเปล่า หรือบางจุดที่มีการใช้งานมากจนช่องเก็บเหรียญเต็ม พนักงานไม่ทราบก็ไม่ได้เข้าไปเก็บ จึงทำให้สูญเสียโอกาสในการทำรายได้

 

เอไอเอสมีความเข้าใจถึง Pain Point ของธุรกิจกลุ่มนี้เป็นอย่างดี จึงมีความตั้งใจในการคิดค้นนวัตกรรม IoT เข้ามาช่วยแก้ปัญหา โดยการพัฒนาให้เครื่องหยอดเหรียญเป็น IoT ที่เชื่อมต่อกับโครงข่าย AIS NB-IoT ได้ สามารถส่งข้อมูลแจ้งเตือนทันที เมื่อเหรียญเต็มจากจุดต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้ผู้ดูแลสามารถตรวจสอบการทำงานของเครื่อง  และวางแผนการจัดเก็บเหรียญ และการจัดวางเครื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการส่งพนักงานเข้าไปเก็บเหรียญ รวมทั้ง ช่วยเพิ่มโอกาสในการให้บริการและสร้างมูลค่าให้กับการลงทุนที่คุ้มค่ายิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังพร้อมให้บริการเชื่อมต่อระบบการชำระเงิน Payment Gateway ของ mPAY กับภาคธุรกิจ เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้บริการด้วย Rabbit Line Pay,  WeChat, PromptPay, VIA pay (Singtel Group eWallet) ผ่าน QR CODE เพิ่มความสะดวกในการชำระเงินในยุคสังคมไร้เงินสด ก้าวทันการแข่งขันในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล

ซึ่งวันนี้ เอไอเอสพร้อมแล้วที่จะให้บริการ IoT เชิงพาณิชย์ อย่างเต็มรูปแบบและครบวงจร ตั้งแต่เครือข่าย, อุปกรณ์ และแพลตฟอร์ม ให้กับทุกภาคส่วน และพร้อมให้คำปรึกษากับทุกองค์กรที่สนใจนำ IoT ไปใช้ในการทำงาน สนใจติดต่อได้ที่ Corporate call center โทร. 1149หรือเว็บไซต์ http://business.ais.co.th/iot



ถูกใจบทความนี้  2