สรุปเนื้อหาหลัก ๆ ของงาน WWDC 2016 ฉบับรวบรัดตัดตอนแบบย่อ ๆ !!!

ios_10_main-tile

  ในงาน WWDC 2016 ของปีนี้ ไม่ได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ นะครับ แต่จะเน้นไปยังฝั่ง Software เป็นหลักเหมือนทุก ๆ ปี เพราะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับ Developers หรือนักพัฒนาทางสาย Software นั่นเอง สำหรับปีนี้จะมีไฮไลท์ที่น่าสนใจอย่างไรบ้าง ผมขอสรุปแบบรวบรัดตัดตอนเพื่อให้อ่านง่าย ๆ ไม่เน้นรูปเยอะหรือลงรายละเชิงลึก แต่เป็นการสรุปในภาพรวม ๆ แทนครับ   

ในงาน WWDC 2016 ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ไฮไลท์ของงานจะประกอบไปด้วย 4 หัวข้อหลักดังนี้

1. iOS 10

2. watchOS 3

3. macOS

4.  tvOS

 

มาสรุปแบบย่อ ๆ คัดเฉพาะส่วนที่น่าสนใจจริง ๆ กันนะครับ

 

1. เปิดตัว  iOS 10

ios_10_main
1. Redesigned Lock Screen หน้าจอล็อคสกรีนที่ถูกออกแบบใหม่และมีความสามารถเพิ่มมากขึ้น เช่น ดูการแจ้งเตือนได้เพียงแค่ยกตัวเครื่องขึ้นมา รวมไปถึงระบบการแจ้งเตือนและ widgets จะทำงานร่วมกับ 3D Touch ได้ยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

2. opening up Siri to developers. การเปิดให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงและพัฒนาฟีเจอร์ของ  Siri ได้มากยิ่งขึ้น เช่นสามารถสั่งให้ส่งข้อความไปยังโซเชี่ยลมีเดีย อย่างเช่น WeChat และแอพโชเชี่ยลอื่น ๆ ในอนาคต

3. Photos โปรแกรมดูรูปที่เพิ่มฟีเจอร์ในการจำแนกและจดจำภายใบหน้า รวมไปถึงองค์ประกอบของภาพ เช่นสถานที่หรือวัตถุ ระบบค้นหาที่พัฒนาให้ดีมากยิ่งขึ้น สุดท้ายคือระบบรวมรวมข้อมูลในองค์ประกอบของภาพ เช่นช่วงเวลา ผู้คนและสถานที่ เข้าไว้ด้วยกัน แล้วทำเป็นไฮไลท์ที่เราสามารถเรียกดูได้อย่างสะดวกง่ายดาย

4. Apple Maps จะถูกยกเครื่องใหม่ทั้งหมด เพิ่มความสามารถในทุก ๆ ด้านและจะมี  UI ที่เรียบง่ายดูสะอาดตาขึ้น เพิ่มฟีเจอร์การทำงานร่วมกับ Siri และ Apple Maps จะเป็นส่วนหนึ่งของ Apple CarPlay

5. Apple Music  ออกแบบ interface ใหม่ให้ดูเรียบง่ายสะอาดตา และสามารถใช้งานได้ง่ายขึ้น สามารถจัดการ playlis และระบบค้นหาที่มีประสิทธิภาพขึ้นและสามารถดูเนื้อเพลงในในเวอร์ชั่นใหม่นี้ได้แล้ว

6. Apple News ปรับเปลี่ยนดีไซน์ใหม่ และเพิ่มการแจ้งเตือนข่าวที่สำคัญในหน้าล็อคสกรีนได้ด้วย

7. Apple Home แอพในการควบคุมและคอนโทรลอุปกรณ์ภายในบ้าน ซึ่ง Homekit ของ Apple สามารถสั่งการได้อย่างยืดหยุ่นและครอบคลุม เช่นจัดการ การเชื่อมต่อและควบคุมผ่าน iPhone ได้เสมือนเป็นรีโมตคอนโทรล

8. Phone app ระบบฝากข้อความสามารถแปลงเป็นตัวอักษรเพื่อใช้อ่านแทนการฟัง ระบบตรวจสอบสายโทรเข้าที่ไม่รู้จัก และจะทำการติดป้ายเตือนเพื่อให้รู้ว่าเป็นสแปม

9. iMessages เพิ่มลูกเล่นและฟีเจอร์ใหม่ ๆ เข้ามาเยอะมาก เช่น มีระบบสติ๊กเกอร์ เพิ่มขนาดอีโมจิ ส่งส่งข้อความพร้อมเอฟเฟค ส่งรูปได้ง่ายขึ้น สามารถพรีวิวลิงค์ และสามารถเล่นในหน้านั้น ๆ ได้ทันที ฯลฯ

10. สามารถลบแอพที่บิ้วอินมากับเครื่องได้แล้ว (เฉพาะบางแอพ)

 

2. watchOS 3 เร็วขึ้นและฟีเจอร์เยอะขึ้น

watchos-3-main

1. เพิ่มหน้าปัดนาฬาแบบใหม่

2. ปรับปรุงเรื่องความเร็วของการทำงาน

3. เปลี่ยนหน้าปัดรูปแบบใหม่ด้วยการ swipe

4. Control Center ใช้วิธีปัดขึ้นแบบเดียวกับใน iOS

5. การตอบข้อความในรูปแบบใหม่ เช่นการบันทึกข้อความที่ใช้บ่อย ๆ แล้วนำมาใช้ได้ในทันที รวมไปถึงการวาดตัวอักษรบนหน้าจอเพื่อตอบข้อความ

6. มีปุ่มข้อความช่วยเหลือฉุกเฉิน

7. Breathe แอพเพื่อสุขภาพตัวใหม่ ใช้ในการช่วยฝึกฝนการควบคุมการหายใจ

 

3. OS X เปลี่ยนชื่อมาเป็น macOS

macOS-sierra-10.12

หลังจากใช้ชื่อ OS X มาเป็นเวลา 15 ปี ในที่สุดค่าย Apple ก็ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น macOS เพื่อให้เข้าและสอดคล้องกับเหล่า Device ภายในค่าย เช่น iOS, watchOS, tvOS นั่นเอง

ฟีเจอร์เด่น ๆ ของ macOS Sierra ประกอบไปด้วย

1. มี Siri ให้ได้ใช้งานบน Mac เป็นที่เรียบร้อย และสามารถสั่งงาน Siri ได้อย่างยืดหยุ่น เช่น เปิดเพลง หาข้อมูล เปิดโฟล์เดอร์ ส่งข้อความเป็นต้น

2. ปลดล็อค Mac ผ่านทาง Apple Watch ได้

3.  สำรองข้อมูลเก่า ๆ ไปยัง iCloud

4. คัดลอกข้อความจาก Mac แล้วนำไปเปิดบน iPhone ได้ และเป็นแบบทูเวย์ที่สามารถคัดลอกจาก iPhone ไปเปิดบน Mac ได้เช่นกัน

5. ย่อวิดีโอให้เป็นหน้าต่างเล็ก ๆ แล้วสามารถดูพร้อมกับทำงานอย่างอื่นไปพร้อม ๆ กันได้

6. Apple Pay รองรับการใช้งานบน Safari

 

4. watchOS3

watchos-3-main

1. เพิ่มหน้าปัดนาฬาแบบใหม่

2. ปรับปรุงเรื่องความเร็วของการทำงาน

3. เปลี่ยนหน้าปัดรูปแบบใหม่ด้วยการ swipe

4. Control Center ใช้วิธีปัดขึ้นแบบเดียวกับใน iOS

5. การตอบข้อความในรูปแบบใหม่ เช่นการบันทึกข้อความที่ใช้บ่อย ๆ แล้วนำมาใช้ได้ในทันที รวมไปถึงการวาดตัวอักษรบนหน้าจอเพื่อตอบข้อความ

6. มีปุ่มข้อความช่วยเหลือฉุกเฉิน

7. Breathe แอพเพื่อสุขภาพตัวใหม่เพื่อช่วยฝึกฝนการควบคุมการหายใจ

 

4. tvOS เพิ่มฟีเจอร์รีโมต และการค้นหาที่ดีขึ้น

tvos-10-main-apple-tv

1. ใช้ iPhone เป็นรีโมต เพื่อควบคุม Apple TV

2. เพิ่มความสามารถให้กับ Siri โดยสามารถค้นหาหนังและรายการทีวีได้ตรงจุดประสงค์และสะดวกขึ้นโดยการระบุคุณลักษณะ รวมไปถึงสามารถค้นหาใน Youtube ได้แล้ว

3. ฟีเจอร์ใหม่  Live Tune-In ที่ให้ Siri ค้นหาช่องที่มีรายการถ่ายทอดสด

4. Single sign-on เป็นการเพิ่มและเข้าถึงบริการต่าง ๆ ด้วยการเข้าสู่ระบบที่ง่ายดายขึ้น


อ้างอิง theverge http://goo.gl/kO2wCf , theverge https://goo.gl/uu7Fns , redmondpie http://goo.gl/Qpj4U5 , BGR http://goo.gl/MBgNPe

 

สามารถพูดคุยเกี่ยวกับบทความนี้ได้ที่หน้าเว็บบอร์ดเดิมครับ โดยคลิ๊กที่ลิงก์นี้ครับ >>> http://goo.gl/QYlkDH



ถูกใจบทความนี้  0