PDAMobiz Talk

     จั่วมาขนาดนี้แล้ว ผมว่าถ้าหากใครติดตามกัน ก็น่าจะพอรู้ เพราะล่าสุดอ realme เองที่เพิ่งเปิดตัวกันไปหลังจากมีข่าวลือมาสักพักใหญ่กับการชาร์จอย่างรวดเร็วที่ระดับ 240W เรียกว่านำโด่งขึ้นมาเลย กับการนำมาลงตลาดจริงในรุ่น realme GT3 และ realme GT Neo5 ซึ่งถือว่าสุดแล้ว เพิ่งมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการกันไปในงาน MWC ล่าสุดหมาดๆ นี่เอง แต่ทว่าเกิดการเคลมต่อเนื่องจากแบรนด์ที่กำลังปั้นตัวอยู่ ไม่แพ้ค่ายอื่นเลยก็คือ Infinix ซึ่งเริ่มนำเอานวัตกรรมนำหน้าคนอื่นขึ้นมาบ้าง หลังจากเริ่มพัฒนาสเปค กล้องต่างๆ และล่าสุดก็กำลังจะนำด้านการชาร์จ จะไปอยู่ที่ 260W กันเลยทีเดียว ซึ่งต้องบอกว่า จับตาดูเพราะคาดว่าจะมีการประกาศในเดือนหน้า ซึ่งคาดว่ารุ่นที่จะมาพร้อมกับการชาร์จสุดไวขนาดนี้ จะปรับจากโมเดล Infinix Zero Ultra ต้องเกาะขอบดู ช่วงหลังก็ต้องบอกว่ามีการพัฒนาที่ดีขึ้นล่ะครับ เรียกว่าคุ้มก็ได้ แต่ทว่าในการใช้งานด้านกล้องถ่ายภาพ ผมว่าในโทนสี ต่างๆ ก็ยังไม่ได้โดนใจซะทีเดียว แต่ด้านการใช้งานอื่นๆ ผมว่าไม่หนีจากแบรนด์ต่างๆ แล้วล่ะ อาจจะมีอีกนิดก็ตรง UI ระบบว่าจะโดนใจหรือไม่

     เป็นข่าวใหญ่อีกหนึ่งข่าว ในวงการเทคและโทรคมนาคม กับเมื่อวาน ระหว่าง True และ dtac ซึ่งจะอยู่ภายใต้ชื่อ ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือก็คือ True นั่นล่ะครับ ซึ่งการควบรวมครั้งนี้ ก็มีผลกับเราผู้ใช้งานบ้างไม่มากก็น้อยล่ะ ใครที่ใช้ True อยู่ก็ใช้ต่อไป แต่ก็อาจจะได้บางบริการของ dtac เพิ่มเติม ถ้าเป็นไปได้ก็พวก privilege ต่างๆ ที่จะทำให้ True แข็งขึ้นอีก เพราะ dtac นี่เรื่องดูแลลูกค้าด้านนี้ ไม่ธรรมดาเลย มีอยู่ตลอด แล้วยังรู้สึกได้ว่า dtac มีอะไรให้มากมาย ดังนั้นผมว่า คนใช้ True หากได้รับตรงส่วนนี้ไปด้วยก็คงดีล่ะ แต่ก็ต้องดูว่า การเอาคะแนนต่างๆ ไปแลกข้ามกันจะทำได้ไหมอย่างไร ตอนนี้อาจจะยังไม่ได้ แต่อนาคตก็น่าจะทำได้นะ เช่นกันกับคนใช้ dtac ถ้ามาใช้ของ True ได้ด้วย ก็จะดีเช่นกัน คือรวมกันแล้วดีขึ้น ก็มีพวกสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่เพิ่มขึ้น แต่จะใช้เพิ่มเติมได้มากไหมแต่ละค่าย ก็ต้องดูกัน รวมไปถึงคนใช้แบบพรีเมี่ยม เช่น Black card และ Blue member อันนี้จะรวมกันยังไงก็ไม่แน่ใจ แต่อย่างที่บอกล่ะครับ จะสะดวกมากถ้า ทั้งสองฝั่ง โชว์บัตรหรือสิทธิ แล้วสามารถเข้าใช้บริการของอีกค่ายได้

เริ่มกันแล้วครับ สำหรับสุดสัปดาห์นี้ กับงาน Thailand Mobile Expo 2023 งานเทศกาลมือถือต้นปี ซึ่งในปีนี้เอง ก็จัดที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ เดินทางสะดวก มีที่จอดรถสามพันคัน ซึ่งจอดฟรี 3 ชั่วโมงแรก ที่เหลือก็สแตมป์ได้สูงสุด 9 ชั่วโมง ตามเงื่อนไข และพ่วงด้วยงาน Bangkok EV Expo 2023 ซึ่งก็มีค่ายรถยนต์ไฟฟ้ามาเพียบ ส่วนของ #MobileExpo2023 ปีนี้ผมว่าก็ตามปกติ มีโปรโมชั่นต่างๆ ของแถมเยอะเลย อย่างที่เห็นแปลกตาหน่อยก็ AIS Fibre ที่แถมกระทะ กับหม้อไฟฟ้า เรามาถึงสมัครเน็ตบ้าน แถมอันนี้กันแล้วนะ ส่วนแบรนมือถือที่มาในปีนี้หลักๆ ก็ Samsung มากับ S23 Series และโปรโมชั่นต่างๆ พร้อม Galaxy Member หรือ Galaxy Gift เดิม แลกของได้ในงาน ที่เห็นอีกค่ายนึงชัดๆ ก็คงจะเป็น OnePlus 11 5G อันนี้คนต่อแถวกันบาน ก็ได้รับการตอบรับที่ดีนะ ถือว่าโอเคแล้วกับค่ายนี้ อื่นๆ โอเปอเรเตอร์ ก็ True dtac AIS ครบๆ แต่เหมือน dtac จะมากับตัวแทนอย่าง IT City และมีเน้นเลข มงคลกันไป ส่วน AIS/True ก็มีเครื่องส่วนลดเพียบ อีกอันที่น่าสนใจก็คือ clearance ของ banana outlet ที่ต้องบอกว่าเอาของ Apple มาเคลียร์ราคาดีเลยล่ะ อย่าง Macbook M1 นี่เหลือ 25,900 บาท ตามเงื่อนไขสมัครเบอร์ทรูด้วย ก็เอาเรื่องอยู่ ยังมีพวก Apple Watch ราคาหลักพัน น่าสอยมาก พร้อมทั้ง iPhone/iPad รุ่นต่างๆ ก็พอสมควรคนเต็มเลย

       เปิดตัวกันไปกับ รุ่นล่าสุดของ OPPO ที่ยังคงนำ Reno เดินหน้าต่อไปในปีนี้ กับ OPPO Reno 8T 5G รุ่นที่รองรับ 5G ทุกเเครือข่าย โดย OPPO จัดราคามาให้ที่หมื่นกลาง เริ่มต้นที่ 13,990 บาท สำหรับ 128+8GB และ 256+8GB ที่ 15,990 บาท โดยในราคาระดับนี้ได้ RAM มา 8GB ก็เรียกว่าคุ้มค่า ที่เค้าชูจุดเด่นเอาไว้ก็คือ หน้าจอที่มีรีเฟรชเรท 120Hz ช่วงให้การใช้งานเราสมูทขึ้น โดยฟีเจอร์แบบนี้ปกติจะอยู่บนเรือธง แต่เอาจริงๆ ช่วงหลังก็เริ่มปรับลงมาอยู่ในรุ่นกลางด้วย แน่นอนว่า Reno ซีรีส์ เน้นเรื่องความคุ้มค่าบวกฟีเจอร์ที่พรีเมี่ยม ทำให้รุ่นราคาระดับกลางก็มีฟีเจอร์เทียบเท่าเรือธงได้