ทักทาย วันจันทร์ มันส์เดย์

วันจันทร์ ต้นสัปดาห์แบบนี้มีเรื่องมันส์ๆ มาฝากกันเช่นเคยครับ คืออย่างที่เคยเกริ่น(บ่น) ไว้เรื่องการสั่งเจ้า Mi Smart Scale เข้ามาใช้งาน โดนโน่นนี่นั่น ก็ปาเข้าไปประมาณ 2,500 บาท ในขณะที่พ่อค้าหิ้วเข้ามาขายกันประมาณไม่เกิน 1,500 บาท แต่เอาเข้าจริง ราคาค่าตัวนี่ประมาณสัก 600-800 บาท แค่นั้นเอง ซึ่งประเด็นมันส์ๆ วันนี้ก็คือ เลือก Smart Scale หรือเครื่องชั่งน้ำหนักฉลาดๆ ตัวไหนดี เทรนด์ปัจจุบันถูกผนวกการเก็บข้อมูลเข้ากับแอพบน smartphone ซะหมดแล้ว เครื่องชั่งน้ำหนักในปัจจุบันก็เช่นกัน จะว่าเกี่ยวอะไรกับเรา คือแบบว่า เทรนด์สุขภาพและการออกกำลังกายมา พอออกกำลังกาย ร่างกายก็เปลี่ยนแปลงไป ทั้งรูปร่าง และแน่นอนว่าหนีไม่พ้นเรื่องน้ำหนัก ก็เลยอาจจะเรียก Smart Scale ได้ว่าเป็น gadget หรือ smartdevice อย่างนึงก็ได้นะครับ ทุกวันนี้การเชื่อมต่อนอกจาก bluetooth แล้ว ยังต่อผ่าน WiFi ได้อีกด้วย ลองคิดตามนะครับ ปกติเราชั่งน้ำหนักกันปีละกี่ครั้ง บางทีก็ช่วงตรวจสุขภาพ หาหมอ หรืออาจจะอยากจะรู้ว่าน้ำหนักตัวเองวันนี้เท่าไหร่แล้ว ซึ่งปีๆ นึง ผมเชื่อว่ามีไม่กี่คนหรอกที่จะจดบันทึกเอาไว้ แล้วเอากลับมาดูย้อนหลัง อย่างผมแต่ก่อนนี้ ก็ชั่งปีละไม่กี่ครั้ง แล้วก็ประมาณการเอาว่า ปีนึงน้ำหนักขึ้นเท่าไหร่ ซึ่งอย่างว่าเป็นการเก็บข้อมูลเอาไว้ในสมองเรา แต่บางทีก็อาจจะมีลืมเลือนกันไปบ้าง ซึ่งเจ้า Smart Scale นี่ล่ะจะมาช่วยเราเก็บข้อมูลแบบละเอียด ตามที่เราอยากจะเก็บ คือสามารถชั่งได้ทุกเดือน หรือทุกวัน แล้วหากเราใส่ใจเรื่องน้ำหนักตัว เราก็เอาข้อมูลที่เก็บไว้ย้อนหลังมาวิเคราะห์ได้เองเลยว่า ช่วงนี้น้ำหนักขึ้น เพราะอะไร หรือเมื่อวานกับวันนี้เรากินอาหารอะไรไปบ้าง เรียกว่าเป็นการดูแลเรื่องอาหารการกิน และสุขภาพไปในตัวนะครับ

Join PDAMobiz on Telegram

ด้วยเหตุผลต่างๆ นาๆ ทำให้ Smart Scale ควรจะมีในบ้านสัก 1 เครื่อง เป็นยี่ห้อ หรือแบรนด์ใดก็ได้ เพราะความสามารถอย่างนึงของ Smart Scale ส่วนใหญ่แล้วจะสามารถ วัดน้ำหนักทุกคนในครอบครัวและแยก profile ได้ ดังเช่นเจ้า Mi Smart Scale ผมให้เป็นตัวเลือกแรกๆ ของคนที่เริ่มสนใจเลย ด้วยราคาที่ไม่แพงมากนัก ถ้าเทียบกับแบรนด์อื่นๆ แต่ก็มีให้เลือกอีกเพียบ Withings WS-50 Smart Body Analyser แบรนด์นี้ผมว่าถ้าเป็นคนตามเรื่อง smartwatch น่าจะเคยได้ยินกันบ้าง ความสามารถไม่น้อยเลย วัด heart rate ได้ วันอุณภูมิห้องได้แถมยังวัดคุณภาพอากาศภายในห้องได้อีกต่างหาก ล้ำมาก แต่ราคาก็ประมาณ 5,000 บาทนะ หากสนใจค้นใน google มีร้านในไทยขายเหมือนกัน ส่วนที่มีจำหน่ายในบ้านเราอย่างเป็นทางการแน่ๆ Fitbit Aria ตัวนี้เชื่อมต่อผ่าน WiFi ได้ รวมถึงเรื่องรีพอร์ทที่ใช้งานร่วมกับ smartband หรือ tracker ของค่ายเดียวกัน ที่เรียกว่ามีคนรู้จักและใช้งานกันมากที่สุดในบ้านเราก็ว่าได้ แต่ราคาก็พุ่งไปที่เกือบ 5,000 บาทเลยทีเดียว ตัวต่อไปราคาประมาณ 2,500 บาท ผมว่าน่าสนใจกับ Archos Connected Scales แบรนด์ที่ทำ Tablet ที่เคยเข้ามาขายในบ้านเรา แต่ทว่าเจ้า Smart Scale นี่ยังไม่เห็นมี ถ้าอยากได้ก็ต้องสั่งเข้ามา ความสามารถไม่ต่างจากตัวอื่นๆ สักเท่าไหร่ แต่ถ้าใช้งานร่วมกับ Archos tracker อื่นๆ เช่นเครื่องวัดความดัน หรือ smart tracker ก็จะได้ประโยชน์มาก ยังมีรุ่นที่น่าสนใจ ราคาประมาณ 2,000 บาท แน่นอนว่าต้องสั่งจากนอกอย่างเดียว คือเจ้า Weight Gurus Smart Body Scale ตัวนี้จุดเด่นตรงที่บอกเรื่องไขมัน หรือ Body Fat ได้ แต่อย่างไรก็อาจจะไม่ตรงเท่ากับเครื่องมือวัดไขมันจริงๆ แต่ผมว่าก็เป็นช้อมูลที่น่าสนใจในระดับนึงล่ะ และ WiTscale S200 Bluetooth Scale รุ่นนี้ก็ต้องสั่งจากนอกเช่นกัน โดยรุ่นนี้วัด Body Fat ได้ และราคาประมาณ 1,500 บาทเท่านั้น โดยตัวเลือกทุกวันนี้มีเยอะขึ้น ทั้งหมดสามารถเชื่อมต่อผ่าน bluetooth หรือ WiFi ซึ่ง smartphone ไม่ว่าจะเป็น Android หรือ iOS ซึ่ง รงอรับและสามารถเก็บช้อมูลของเราเอาไว้ได้ตลอดเวลา ทั้งหมดนี้ต่างกันหลักๆ ก็คงเป็นเรื่องราคา และพวก report บนแอพ ซึ่งหากจะคุ้มค่าที่สุดก็ Mi Smart Scale ล่ะครับราคาที่จีนเปิดตัวไม่เกิน 600 บาท ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีสุดแล้วล่ะครับ รู้สึกว่าราคาไม่ต่างจากเครื่องชั่งน้ำหนักสักเท่าไหร่นัก แต่เคสผมนี่ทำใจ ฮ่าๆ วันนี้ก็มาฝากกันไว้เท่านี้ล่ะครับ ขอให้เลือกซื้อหา Smart Scale กันให้มันส์ไปเลยนะครับ แนะนำว่าให้เอามาติดบ้านไว้สัก 1 เครื่อง พบกันใหม่สัปดาห์หน้า