•.¸¸.•´´¯`••.¸¸.•´´¯`•´ 彡° สวัสดีวันศุกร์ Happy Friday ตอน Apple เปลี่ยนค่าสกุลเงินในประเทศไทย ☆·.¸¸.·´¯`·.¸¸.¤ ~♡ (*^ー^)ノ

ก่อนหน้านั้นทางค่าย Apple ได้ส่งเมลถึงนักพัฒนาและผู้ใช้งานทั่วไป โดยแจ้งเรื่องการเปลี่ยนแปลงค่าเงินจากดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) ไปเป็นหน่วยเงินบาทไทย(THB) ล่าสุด ณ ปัจจุบันได้มีการอัพเดตเปลี่ยนมาใช้สกุลเงินบาทของไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ ทั้งใน App Store และบน iTunes โดยราคาแอพพลิเคชั่นจะแสดงหน่วยเงินเป็นค่าเงินบาทของไทย โดยไม่มีการผันผวนตามอัตราแลกเปลี่ยนอีกต่อไป

Join PDAMobiz on Telegram

สำหรับอัตราการปรับเปลี่ยนจากของเดิมที่เป็นสกุลเงิน USD เมื่อเปลี่ยนมาเป็น THB จะมีความเปลี่ยนแปลงดังนี้ครับ

0.99 USD >> 35 บาท, 1.99 USD >> 69 บาท, 2.99 USD >> 99 บาท, 3.99 USD >> 139 บาท, 4.99 USD >> 179 บาท นอกจากนี้ยังส่งผลให้แอพที่ตั้งราคาพิเศษไว้จะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 9-15 บาท และในส่วนของค่าบริการต่าง ๆ เมื่อมีการปรับเปลี่ยนสกุลเงินมาเป็นเงินบาทของไทย ทำให้มีราคาที่ถูกลด อาทิเช่น Apple Music ที่จากเดิมมีราคาในรูปแบบผู้ใช้งานคนเดียวอยู่ที่ $4.99 (ประมาณ 170 บาท) และแบบครอบครัว $7.99 (ประมาณ 285 บาท) ต่อเดือน หลังจากมีการเปลี่ยนหน่วยสกุลเงินแล้ว ไม่ได้มีการแปลงค่าเงินมาเป็นแบบตายตัวนะครับ แต่เป็นการกำหนดอัตราใหม่ขึ้นมาตามความเหมาะสม แถมมีราคาที่ถูกลงอีกด้วย โดยปรับลดลงมาเหลือเพียง 129 บาทสำหรับผู้ใช้งานคนเดียว และแบบครอบครัวจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 199 บาทต่อเดือนครับ

สรุปการที่ Apple เปลี่ยนมาใช้สกุลเงินบาทของไทยในครั้งนี้ ผู้ใช้งานในประเทศไทยได้รับประโยชน์ไปแบบเต็ม ๆ นอกจากจะไม่โดนความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินแล้ว ยังทำให้ราคาของแอพ, เพลง หรือค่าบริการอื่น ๆ มีอัตราที่ถูกลงอีกด้วย สำหรับการปรับเปลี่ยนในครั้งนี้ เชื่อว่าก่อนหน้านั้นทาง Apple ก็คงเล็งเห็นถึงการขยายตัวและจำนวน User ผู้ใช้งานในบ้านเราที่ต้องบอกเลยว่าเยอะไม่แพ้ใครในเอเชีย ทำให้ Apple ตัดสินใจปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการ เพื่อตอบสนองและเป็นการเพิ่มฐานผู้ใช้งานไปในตัวอีกด้วย สรุปงานนี้วิน ๆ ด้วยกันทุกฝ่ายครับ

สุดท้ายก่อนจาก ขอฝากกลุ่มผู้ใช้งาน Samsung Galaxy S7 edge https://goo.gl/DzO8Ms และ vivo V3Max https://goo.gl/q0VdyA 2 กลุ่มใหม่ล่าสุดไว้ด้วยนะครับ เพื่อน ๆ ใช้งานรุ่นไหนกันอยู่ สามารถเข้าไปแจมไปร่วมกลุ่มกันได้เลยครับ

สำหรับอาทิตย์นี้คงต้องลากันไปแต่เพียงเท่านี้ แล้วพบกันใหม่ในวันศุกร์หน้า

ติดตามข้อมูลข่าวสารของ PDAMobiz.com จากช่องทางต่างๆ คลิก ที่ลิงค์ด้านล่างได้เลยครับ