[IFA 2014] สานต่อตำนานขีดเขียนกับการเปิดตัว Samsung Galaxy Note 4 อย่างเป็นทางการ

เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมาโลกของเราได้มีโอกาสต้อนรับ Samsung Galaxy Note 4 สมาร์ทโฟนเรือธงตัวล่าสุดที่มาพร้อมหน้าจอบิ๊กเบิ้ม (หรือที่หลายๆคนจะเรียกว่า Phablet ก็ไม่ผิด) ที่มาพร้อมจุดแข็งอย่าง S Pen ที่ทำให้ผู้ใช้งานจำนวนไม่น้อยตกหลุมรักกับการใช้ปากกาอัจฉริยะ โดยผมได้มีโอกาสไปร่วมนับถอยหลังและลุ้นไปพร้อมๆกับทางทีมงาน Samsung Thailand ที่ได้จัดงานมีทติ้งเฉพาะกิจขึ้นมา เพื่อถ่ายทอดบรรยากาศสดๆจากงาน IFA 2014 ที่จัดขึ้น ณ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน และผมเองก็ได้รายงานสดผ่านทางโซเชียลต่างๆของทางเว็บไปแล้ว หรืออีกหนึ่งช่องทางกับ Live Stream ที่หน้าเว็บโดยพี่ตี้ (tcvaio) ของพวกเรา ซึ่งเพื่อนๆสมาชิกคงจะได้รับชมและติดตามกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับกระทู้นี้ผมเลยจะขอมาสรุปรายละเอียดทั้งหมดให้กับเพื่อนๆสมาชิก (ที่อาจติดภารกิจและพลาดการรายงานสด) อีกครั้งว่าการเปิดตัว Samsung Galaxy Note 4 นั้น มีประเด็นอะไรที่น่าสนใจบ้าง

Join PDAMobiz on Telegram

สิ้นสุดการรอคอยและเปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อยกับสมาร์ทโฟนเรือธงที่หลายๆคนรอคอยอย่าง Samsung Galaxy Note 4 ภายในงาน IFA 2014 ณ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน โดย Samsung Galaxy Note 4 มาในดีไซน์ที่ได้รับการออกแบบให้แตกต่างจากเดิมเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนขอบของตัวเครื่องอาจกล่าวได้ว่ามีดีไซน์ที่คล้ายคลึงกับสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมตัวแรกของทาง Samsung อย่าง Galaxy Alpha ก็ว่าได้ ส่วนฝาหลังยังคงเอกลักษณ์ความเป็น Samsung ไว้เช่นเดิมด้วยวัสดุที่ให้ความรู้สึกคล้ายหนังแบบเดียวกันกับใน Galaxy Note 3

ส่วนเรื่องของสเปคนั้นถือได้ว่าจัดเต็มมาให้สมราคาเรือธงในปัจจุบัน อยากทราบกันแล้วใช่ไหมครับ ถ้าอย่างนั้นมาดูกันเลย

หน้าจอแบบ QHD Super AMOLED ขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด 2560×1440 พิกเซล
หน่วยประมวลผลมีด้วยกัน 2 รุ่นได้แก่ Snapdragon 805 (quad-core) ความเร็ว 2.7 GHz หรือ Exynos 5433 (octa-core) ประกอบด้วย quad-core ความเร็ว 1.9 GHz + quad-core ความเร็ว 1.3 GHz
Ram ขนาด 3 GB
กล้องด้านหลังความละเอียด 16 MP มาพร้อม OIS (ระบบซอร์ฟแวร์กันสั่น) และกล้องด้านหน้าความละเอียด 3.7 MP f1.9 โดยกล้องทั้ง 2 ตัวได้รับการปรับปรุงเรื่องแสงให้มีความสว่างมากขึ้นกว่าเดิม
หน่วยความจำภายใน 32 GB รองรับการเพิ่มหน่วยความจำภายนอก microSD ได้สูงสุด 64 GB
แบตเตอรีความจุ 3,220 mAh
ตัวเครื่องบางเพียง 8.5 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักแค่ 176 กรัม
รองรับ 3G/4G (4G มีสองรุ่นคือ CAT 4 และ CAT 6)
รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi , NFC และ Bluetooth เวอร์ชัน 4.1
มาพร้อมพอร์ท microUSB เวอร์ชัน 2.0
มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 4.4 (KitKat)

เป็นยังไงกันบ้างครับกับสเปคที่ทาง Samsung จัดเต็มมาให้ใน Galaxy Note 4 น่าจะโดนใจเพื่อนๆกันเลยใช่ไหมครับ แต่ถ้าเจอฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาด้วยแล้ว รับรองว่าจะต้องโดนใจมากขึ้นเป็น 2 เท่าอย่างแน่นอน ว่าแล้วก็มาดูกันเลยครับ

Multi Window ถูกปรับปรุงใหม่ โดยผู้ใช้งานสามารถเปิดแอพฯซ้อนกันในลักษณะที่แอพฯเป็นหน้าต่างเล็กๆ ซ้อนทับอยู่บนอีกแอพฯที่กำลังใช้งานอยู่ได้ (ถ้านึกภาพไม่ออก อารมณ์จะคล้ายๆกับหน้าต่าง Facebook Messenger ที่ซ้อนทับแอพฯที่เราใช้งานอยู่นะครับ)
Wide Selfie ฟีเจอร์ในการถ่ายภาพด้วยกล้องด้านหน้า โดยสามารถเก็บมุมมองได้กว้างถึง 120 องศา เป็น Selfie แบบพาโนรามาก็ว่าได้ โดยผู้ใช้งานสามารถใช้เซ็นเซอร์วัดการเต้นหัวใจบริเวณใต้กล้องด้านหลัง เป็นชัตเตอร์ในการกดถ่ายภาพกล้องด้านหน้าได้ (อันนี้ Samsung ทำการบ้านมาดีมากๆ ผมเชื่อว่าหลายๆคนน่าจะประสบปัญหาแตะปุ่มไม่สะดวก โดยการใช้งานจะคล้ายๆกับ Rear Key ใน LG G2 นั่นเอง)
S Pen ได้รับการปรับปรุงและเพิ่มฟีเจอร์การใช้งานแบบใหม่ให้มีความคล้ายคลึงกับปากกาจริงๆ ไม่ใช่ stylus โดยการปรับปรุงการรองรับน้ำหนักการกด (pressure sensitivity) สูงกว่าเดิมถึง 2 เท่าเพื่อให้ความรู้สึกในการขีดเขียนที่เหมือนกับการใช้ปากกาขีดเขียนลงบนกระดาษจริงๆมากขึ้น ตลอดจนสามารถใช้งานในรูปแบบเดียวกับ mouse บนคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นการลากหรือคลิ๊กคลุมข้อความและรูปภาพ
Smart Select ฟีเจอร์ที่ผู้ใช้งานสามารถ crop รูปได้พร้อมกันทีละหลายๆรูปและส่งเป็นข้อความหรือ e-mail ได้ในครั้งเดียว
Snap Note ฟีเจอร์ที่ผู้ใช้งานสามารถใช้บันทึกได้ทั้งตัวหนังสือ รูปภาพ และคลิปวิดีโอไปพร้อมๆกัน (คล้ายๆกับแอพฯ OneNote ของ Microsoft)
Fast Charging กับความสามารถในการชาร์จแบตเตอรีที่เร็วขึ้น ในขณะเดียวกันก็สามารถจัดการการใช้พลังงานได้น้อยลงกว่าเดิมถึง 7.5% ด้วยเช่นกัน

อยากได้กันแล้วใช่ไหมครับ เท่าที่แอบได้รับการกระซิบบอกมา Samsung Galaxy Note 4 จะวางขายในเดือนตุลาคมนี้ มีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีดำ สีขาว สีทอง (Bronze Gold) และสีชมพู (Blossom Pink) ในขณะเดียวกันอุปกรณ์เสริมอย่างเคสก็จะมีมาให้ได้เลือกกันถึง 4 แบบ ไม่ว่าจะเป็นเคสแบบธรรมดา แบบ flip แบบ LED (อันนี้คล้ายๆกับ Dot View ของ HTC นะครับ) และสุดท้ายเคสสุดหรูที่ประดับตกแต่งด้วยคริสตัลจาก Swarovki ส่วนเรื่องราคายังไม่มีการเปิดเผยนะครับ แต่ถ้าทราบเมื่อไหร่ ผมจะรีบมาอัพเดตให้เพื่อนๆได้ทราบกันอย่างแน่นอน

ทิ้งท้ายกันด้วยภาพสวยๆของ Samsung Galaxy Note 4 พระเอกของเราในวันนี้กันเลยนะครับ